เชียงราย - ตำรวจท่องเที่ยวตามรวบได้แล้วเจ้าของบริษัททัวร์ดังเชียงราย มือยิงหัวหน้าแก๊งยากูซ่าใหญ่อันดับ 3 ในญี่ปุ่นดับคาป่า ส่วนคนดูแลยากูซ่าที่เข้ามาในเมืองไทยเจ็บสาหัส ระบุคนตายชักปืนจะยิงก่อน
จากกรณีที่ พ.ต.ต.ไตรกิตติ สินไธสง สารวัตรเวร สภ.แม่ยาว อ.เมือง ได้รับแจ้งมีเหตุยิงชาวญี่ปุ่น 2 คนเสียชีวิตภายในป่าไผ่หมู่บ้านโป่งน้ำร้อน หมู่ 6 และหมู่บ้านผาเสริฐ หมู่ 7 ต.ดอยฮาง อ.เมือง เมื่อ 26 เม.ย.54 ที่ผ่านมา โดยผู้ตายชื่อนายทากาชิ โคโดะ อายุ 44 ปี สัญชาติญี่ปุ่น ถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 9 มม.เข้าที่ศีรษะและลำตัวรวม 2 นัด ผู้บาดเจ็บชื่อนายฮิโรมิชิ มากาโนะ อายุ 59 ปี ถูกยิงเข้าที่ศีรษะ คอ เอว และแขน ปัจจุบันพ้นขีดอันตรายแต่ยังรักษาตัวอยู่ในห้องไอซียูโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์นั้น
ล่าสุด พล.ต.ต.อดิศร์ งามจิตสุขศรี ผบก.ตำรวจท่องเที่ยว ได้รับแจ้งจาก พ.ต.ต.ภาคภูมิ เดชะเรืองศิลป์ สารวัตรตำรวจท่องเที่ยว 2 กก.4 ซึ่งรับผิดชอบพื้นที่ดังกล่าวว่า ตำรวจท่องเที่ยวได้จับกุมผู้ต้องหาได้แล้ว 1 คน เป็นชายชื่อนายอภิชาติ อินธิศักดิ์ อายุ 41 ปี บ้านเลขที่ 82/6 ต.ริมกก อ.เมือง เจ้าของธุรกิจท่องเที่ยวตั้งอยู่ถนนเจ็ดยอด อ.เมือง จ.เชียงราย พร้อมของกลางอาวุธปืนขนาด .38 ชนิดลูกโม่ที่ใช้ก่อเหตุจำนวน 1 กระบอก โดยหลบหนีอยู่ที่อาข่าฮิลเฮ้าส์ หมู่บ้านอาข่าอาแป ต.ดอยฮาง ไม่ห่างจากจุดเกิดเหตุมากนัก
โดยเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวไปทำการสอบสวนเบื้องต้น นายอภิชาติให้การรับสารภาพว่าเป็นคนลงมือฆ่านายทากาชิ และยิงนายฮิโรมิชิ ได้รับบาดเจ็บสาหัสจริง โดยก่อนหน้านี้ประมาณ 1 เดือนได้ให้นามบัตรทั้งสองคนขณะเดินทางไปถึงสถานีขนส่งผู้โดยสาร จ.เชียงราย จากนั้นวันที่ 24 เม.ย.54 ที่ผ่านมา ทั้งสองก็ได้โทรศัพท์ไปหาให้พาไปส่งที่หมู่บ้านชาวเขาแห่งหนึ่งใน ต.ดอยฮาง จึงได้นำรถยนต์จี๊ปรุ่นแคริเบียน ทะเบียน กข 4216 แพร่ ไปรับที่รีสอร์ตแห่งหนึ่งภายในตัวเมืองเชียงรายแล้วพาไปส่งจุดหมายตามเส้นทางเชียงราย-ดอยฮาง
นายอภิชาติให้การอีกว่า ตลอดเส้นทางชาวญี่ปุ่นทั้งสองแสดงอารมณ์โกรธต่างๆ นานา เช่น ไม่พอใจที่ขับรถช้า ฯลฯ จากนั้นได้บังคับให้ใช้เส้นทางเลี่ยงตำรวจ ซึ่งตัวเองไม่ถนัด ก่อนจะให้นำรถไปส่งที่หมู่บ้านชาวเขาแห่งหนึ่งซึ่งอยู่บนยอดเขาสูง เมื่อไม่สามารถเอารถไปส่งได้ ตนจึงเดินลงจากรถจะเดินไปส่งผ่านป่าไผ่ที่เกิดเหตุ ทำให้ชาวญี่ปุ่นที่เสียชีวิตบันดาลโทสะชักอาวุธปืนจะยิง ตนจึงชักอาวุธปืนขนาด .38 ดังกล่าวชิงยิงก่อน เมื่อผู้ตายล้มลง คนที่บาดเจ็บก็เข้าต่อสู้และจะชิงเอาปืนผู้ตายมายิงต่อ ทำให้ตนวิ่งหนี แต่คนบาดเจ็บก็วิ่งไปที่รถและยิงยางรถ ตนจึงวิ่งไปหลบอยู่ที่หมู่บ้าน
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบที่เกิดเหตุพบกระเป๋าของผู้ตายจำนวน 2 ใบ ภายในมีธนบัตรดอลลาร์สหรัฐขนาด 100 ดอลลาร์รวมกันจำนวน 100 ใบ ลูกกระสุนปืนขนาด 9 มม.จำนวน 47 นัด
ด้าน พล.ต.ต.อดิศร์ ซึ่งเดินทางไปดูคดีด้วยตัวเอง กล่าวว่า จากการสอบถามข้อมูลไปยังสถานเอกอัคราชทูตประเทศญี่ปุ่นประจำประเทศไทย ทราบว่านายทากาชิเคยก่อเหตุฆาตกรรมชาวญี่ปุ่นที่เมืองโตเกียวและหลบหนีคดี โดยเป็นผู้จัดการแก๊งยากูซ่าเชดิวไก ลำดับที่ 3 ของแก๊งยามากูจิ ซึ่งใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น ส่วนนายฮิโรมิชิก็ทำหน้าที่ดูแลพวกแก๊งยากูซ่าทั้งหมดที่เข้ามายังประเทศไทยด้วย ทั้งคู่หลบหนีเข้าสู่ประเทศไทย ส่วนสาเหตุคงต้องรอให้พนักงานสอบสวนคลี่คลายคดีต่อไป
รายงานข่าวแจ้งอีกว่า คดีนี้ตำรวจพุ่งเป้าไปที่สองเรื่องใหญ่ คือ เรื่องทะเลาะวิวาทธรรมดากับผู้ต้องหาตามคำรับสารภาพ และเรื่องการหักหลังหรือขัดแย้งเกี่ยวกับยาเสพติด เพราะของกลางที่เกิดเหตุมีผงสีขาวบรรจุในถุงตกอยู่ด้วยแต่ไม่ใช่เฮโรอีนหรือยาเสพติด ทำให้คาดการณ์ว่าอาจมีการหักหลังกัน ซึ่งจะได้สืบสวนสอบสวนเพื่อคลี่คลายคดีต่อไป
ทั้งนี้ คดีดังกล่าวทางสถานเอกอัคราชฑูตประเทศญี่ปุ่นประจำประเทศไทยให้ความสนใจอย่างมาก