น่าน - แก๊งสาวใหญ่อาละวาดตระเวนฉกเครื่องเงินตามร้านขายเครื่องเงินและของที่ระลึกในตัวเมืองน่าน อาศัยช่วงวันหยุดมีคนเข้าร้านมากเจ้าของไม่ทันระวัง ถูกฉกไปหลายร้านสูญไปร้านละนับแสนบาท
พ.ต.อ.สิทธิชัย ทนันไชย ผกก.สภ.เมืองน่าน พร้อมด้วย พ.ต.ท.สมศักดิ์ ธิคำ สว.สส.สภ.เมอืงน่าน และ พ.ต.ต.ภัทราวุธ แจ้งอำพันธ์ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองน่าน ได้เข้าตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดของ ร้านลออกาติน ซึ่งเป็นร้านจำหน่ายเครื่องเงินและของที่ระลึกอยู่ในย่านธุรกิจกลางใจเมืองน่าน เลขที่ 430/1 ถ.สุมนเทวราช ต.ในเวียง อ.เมืองน่าน วานนี้ (25 เม.ย.54) หลังได้รับแจ้งว่าเครื่องเงินที่วางขายในร้านได้สูญหายไปหลายรายการ รวมมูลค่าเกือบ 100,000 บาท
น.ส.ละออก กาติน อายุ 37 ปี เจ้าของร้านเล่าว่า มีลูกค้าเป็นหญิงลักษณะท้วม จำนวน 3 คน เข้ามาในร้านทำทีเลือกซื้อเครื่องประดับเงิน โดยก่อนหน้านี้ได้เข้ามาก่อนหนึ่งรอบ คาดว่าจะมาดูลาดเลาว่าภายในร้านมีคนมากน้อยแค่ไหน แล้วกลับเข้ามาที่ร้านอีกครั้ง โดยจะมีหนึ่งคนอยู่กับคนขายหน้าร้าน เพื่อเลือกซื้อสินค้าเบี่ยงเบนความสนใจ ขณะที่อีก 2 คน ซึ่งหนึ่งในนั้นจะแต่งกายด้วยชุดกระโปรงยาวบานคลุมถึงเข่า แล้วเดินดูสินค้าตามตู้โชว์ต่างๆ ภายในร้าน ซึ่งมีการซื้อสินค้าชิ้นเล็กๆ ราคาประมาณหนึ่งพันกว่าบาท
แต่หลังจากนั้นทางร้านพบว่าเข็มขัดเงินที่โชว์ไว้ในตู้โชว์สินค้าหายไปถึง 4 เส้น รวมมูลค่า 87,920 บาท และจากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดของร้าน พบหญิง 3 คนดังกล่าว ซึ่งเห็นชัดเจนว่าได้ลักขโมยเครื่องประดับเงินโดยซุกซ่อนไว้ใต้กระโปรงก่อนออกจากร้านไป
เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบจากกล้องวงจรปิด พบว่า เมื่อวันอาทิตย์ที่ 24 เม.ย.54 ในร้านดังกล่าวมีผู้ต้องสงสัยเป็นหญิงสาว 3 คน อายุระหว่าง 40-50 ปี เข้าไปในร้านโดยแบ่งงานกันทำแล้วทำทีเลือกซื้อเครื่องเงินพอเจ้าของร้านเผลอก็แอบฉกของใส่ในกระโปรง โดยให้อีกคนบังกล้องไว้ ส่วนอีกคนไปพูดจาเบนความสนใจกับเจ้าของร้าน
จากนั้นพนักงานสอบสวนเข้าตรวจสอบที่ศูนย์จำหน่ายผลิตภัณฑ์ชุมชน จังหวัดน่าน ต.ในเวียง อ.เมืองน่าน ที่ได้รับแจ้งเช่นกันว่ามีการโจรกรรมเครื่องประดับเงินที่จำหน่ายภายในศูนย์ หายไปในช่วงวันที่ 20 เม.ย.54 ซึ่งตรวจสอบกล้องวงจรปิดของทางร้านก็พบหญิง 3 คนดังกล่าว แต่งกายด้วยชุดกระโปรงบานแบบสุ่มคลุมถึงเข่า มีพฤติการณ์ต้องสงสัยลักขโมยสินค้า ตรวจสอบพบว่ามีกำไลเงินจำนวน 16 อัน และกระเป๋าเงิน 1 ชิ้นหายไป มูลค่ารวมประมาณ 48,000 บาท
พ.ต.ท.สมศักดิ์กล่าวว่า คนร้ายน่าจะแฝงตัวมาในลักษณะนักท่องเที่ยว อาจพักตามโรงแรม หรือบ้านญาติ เนื่องจากมีการลักขโมยจาก 2 ร้านค้าในช่วงเวลาทิ้งห่างหลายวัน แสดงว่าคนร้ายยังอยู่ในพื้นที่จังหวัดน่าน และหนึ่งในคนร้ายอาจเป็นคนจังหวัดน่านหรือทางภาคเหนือ เนื่องจากการสอบสวนผู้เสียหายทราบว่าคนร้ายใช้ภาษาเมือง ส่วนอีกสองรายพูดภาษากลาง
โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประสานขอภาพในกล้องวงจรปิดเพื่อติดตามคนร้ายมาสอบสวนและดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป และขอให้ร้านค้า ร้านอาหาร ร้านจำหน่ายเครื่องประดับเงิน ให้ระมัดระวัง และหากใครพบเห็นผู้ต้องสงสัยให้แจ้งเบาะแสต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อติดตามคนร้ายแก๊งนี้ด้วย
