ศูนย์ข่าวศรีราชา “เดอะบลูมาลิน” ศรีราชา ซูซูกิ เอฟซี ซวยสุดบุกแหลก ยิงประตูได้แต่ผู้ตัดสินไม่ให้ ยกเป็นลูกล้ำหน้าทั้งที่มีผู้เล่นเมืองทองฯยืนอยู่ถึงสองคน ทำได้เพียงเปิดบ้านเสมอกับ เมืองทอง ยูไนเต็ด แชมป์เก่าสองสมัย ในการแข่งขันฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีกในนัดที่ 10 จึงยังทำให้เจ้าบ้านยังจมบ๊วยต่อไป
ค่ำวันนี้ (23 เมษายน 2554 ) ที่สนามหญ้าเทียม ซูซูกิ สเตเดี้ยม “เดอะบลูมาลิน”ศรีราชา ซูซูกิ เอฟซี ทีมบ๊วยของตาราง ลงสนามในนัดที่ 10 พบกับ แชมป์เก่า 2 สมัย และทีมอันดับที่ 4 อย่าง “กิเลนผยอง”เมืองทอง ยูไนเต็ด ในนัดนี้เจ้าบ้านต้องการชัยชนะเป็นนัดแรกให้ได้ โดยในนัดนี้ “โค้ชแดง”ทรงยศ กลิ่นศรีสุข ส่ง ลูคัศ เอเชนีเก้ ลงเฝ้าเสา แดนหลังเป็น ดีเอโก้ โรเบิร์ต ยืนคู่กับ วุฒิศักดิ์ มณีสุข และด้านข้างเป็น สุพจน์ วงษ์หอย กับ ยอดรัก นาเมืองรักษ์ แดนกลางเป็น จัสติน มูส กับ อำไพ มุธาพร ริมเส้นเป็น อรรถพงษ์ หนูพรหม กับ สุภภรณ์ พรหมพินิจ คู่หน้าให้ กอนซาเลส กัสตอน ราอูล ลงยืนล่าตาข่ายกับ เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์ ส่วนทีมเยือน โค้ช เฮนริเก้ คาลิสโต้ ส่ง ธีนศิลป์ แดงดา ยืนคู่กับ คริสเตียน เคาคู แดนกลางมี ดัสกร ทองเหลา เดินเกมกับ พิชิตพงษ์ เฉยฉิว มิโลสลาฟ ท๊อดและดักโน่ เซียก้า ส่วนแผงหลังเป็น ภานุพงษ์ วงศ์ษา กับณัฐพร พันธ์ฤทธิ์ ปกาษิต แสนสุข กับสันติ ไชยเผือก ส่วนผู้รักษาประตูเป็น กวิน ธรรมสัจจานันท์
เริ่มเกม ทีมเยือนมีโอกาสก่อนจาก จังหวะที่ คริสเตียน กระชากมาทางซ้ายก่อนเปิดไปที่เสาสอง ให้ มิโลสลาฟ ท๊อด ล๊อคบอลหนึ่งจังหวะ แล้วยิงทันที แต่ ติดยอดรัก นาเมืองรักษ์ กองหลังเจ้าถิ่นสกัดบอลออกจากเส้นได้หวุดหวิด แต่บอลมาเข้าทาง ดักโน่ เซียก้า ยิงออกหลังไป
ในนาทีที่ 30 เป็นโอกาสอีกครั้งของทีมเยือนเมื่อ คริสเตียนได้บอลมาทางกราบซ้ายอีก ก่อนเปิดให้ ธีรศิลป์ แดงดาที่ยืนหน้าประตูไปติดกองหลัง บอลกระดอนไปเข้าทาง มิโลสลาฟ ท๊อด ส่งคืนมาให้ ปิยชาติ ถามะพันธ์ ยิงบอลเต็มข้อ แต่ ลูคัส เอเชนีเก้ ปัดออกหลังไปได้
ในช่วงทดเวลาเจ็บ ศรีราชาฯน่าจะได้ประตูออกนำไปก่อน จากจังหวะที่ อรรถพงษ์ หนูพรหม เปิดฟรีคิกมาที่เสาสอง เข้าหัว วุฒิศักดิ์ มณีสุข โหม่งบอลไปชนเสากระดอนออกมาเข้าทาง กอนซาเลส กัสตอน ราอูล ยิงบอลไปติดตัว กวิน ธรรมสัจจานันท์ ก่อนที่ วุฒิศักดิ์ มณีสุข จะซ้ำเข้าประตูไป แต่ผู้ตัดสินให้เป็นลูกล้ำหน้า ซึ่งลูกนี้ วุฒิศักดิ์ ยืนอยู่ในไลส์ที่ไม่น่าจะล้ำหน้าเพราะมีนักเตะของเมืองทองฯ ยืนอยู่ถึงสองคน แต่ประท้วงไปก็ไม่เป็นผล จบครึ่งแรกเสมอกันที่ 0-0
เริ่มต้นครึ่งเวลาหลัง ศรีราชาฯ เปิดฉากบุกอย่างหนักและเกือบจะได้ประตูหลายครั้งหลายคราเริ่มจากจังหวะที่ เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์ เปิดบอลให้ กอนซาเลส กัสตอน ราอูล หาจังหวะยิงในกรอบเขตโทษแต่บอลผ่านหน้าประตูไป และในอีกนาทีต่อมา กัอนซาเลส กัสตอน ราอูล ก็มีโอกาสหลุดไปสับไกอีกครั้ง แต่ กวิน ธรรมสัจจานันท์ ยังป้องกันไว้ได้
ต่อมาถึงคราวของเกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์ บ้างเมื่อ กอนซาเลส กัสตอน ราอูล ไหลบอลให้ เกริกฤทธิ์ ที่ในกรอบเขตโทษ ก่อนหาจังหวะยิงแต่บอลเฉี่ยวเสาออกหลังไปนิดเดียว จบเกมการแข่งขัน ศรีราชา ซูซูกิ เอฟซี จึงทำได้แค่เสมอกับ เมืองทอง ยูไนเต็ด ไป 0-0 แบบน่าชนะ เก็บเพิ่มอีก 1 คะแนน เป็น 4 คะแนน ยังรั้งบ๊วยต่อไป โดยหลังจากจบเกมแฟนฟุตบอลต่างยืนปรบมือให้แก่นักเตะทีมศรีราชาฯ ที่เล่นกันได้อย่างดีในนัดนี้ พร้อมทั้งบอกว่าเกมนี้เป็นเกมที่สุดยอดเกมหนึ่งของทีมศรีราชาฯ และทุกคนพร้อมจะให้กำลังใจทีมงานและนักเตะชุดนี้ต่อไป
หลังจบเกมการแข่งขัน มิโลสลาฟ ท๊อด นักเตะของเมืองทอง ยูไนเต็ด ก็เกิดหายใจติดขัด จึงต้องเรียกรถพยาบาลมารับตัว มิโลสลาฟ ท๊อด ไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลต่อไป ท่ามกลางแฟนบอลที่มาให้กำลังใจนักเตะเป็นจำนวนมาก
