กาญจนบุรี - สสจ.กาญจนบุรี จัดกิจกรรมรณรงค์เนื่องในวันงดสูบบุหรี่โลกปี 54 เพื่อสร้างกระแสรณรงค์ให้กลุ่มเด็กและเยาวชนมีค่านิยมในการไม่สูบบุหรี่ และให้สังคมตระหนักถึงอันตรายจากบุหรี่ รวมทั้งสิทธิในการได้รับอากาศบริสุทธิ์ โดยเฉพาะสถานที่สาธารณะ และสถานที่ราชการ ให้เป็นเขตปลอดบุหรี่ ดังคำขวัญ “พิทักษ์สิทธิตามกฎหมาย มุ่งสู่สังคมไทยปลอดบุหรี่”
เมื่อเวลา 14.30 น.วันนี้ (22 เม.ย.54) นายแพทย์ ไพศาล ดั่นคุ้ม นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดกาญจนบุรี เปิดเผยว่า ประชากรโลก 5 ล้านคน เสียชีวิตด้วยโรคที่เกี่ยวข้องกับการสูบบุหรี่ ได้แก่ โรคหัวใจล้มเหลว มะเร็ง และโรคปอด รวมทั้งโรคอื่นๆ อีกมากมาย ข้อมูลจากการสำรวจของสำนักงานสถิติแห่งชาติ พบว่า ประเทศไทยมีผู้ที่อายุมากกว่า 15 ปี เสพติดบุหรี่ถึง 9.5 ล้านคน โดยส่วนใหญ่เป็นเพศชายมากกว่าเพศหญิงในจำนวนนี้เป็นเยาวชนถึง 1.2 ล้านคน
ดังนั้น ทุกฝ่ายคนในครอบครัว ญาติมิตร และเพื่อนฝูงจึงต้องร่วมมือกันเตือนสติผู้ที่สูบบุหรี่ให้เลิกสูบ และเฝ้าระวังเด็กๆ ที่ยังไม่ติดบุหรี่ไม่ให้ริเริ่มสูบ
องค์การอนามัยโลกได้กำหนดให้วันที่ 31 พฤษภาคม ของทุกปี เป็นวันงดสูบบุหรี่โลก โดยขอความร่วมมือนานาประเทศทั่วโลกในการร่วมจัดกิจกรรมรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ รณรงค์สื่อสารถึงพิษภัยและอันตรายจากการสูบบุหรี่ทั้งต่อผู้ที่สูบบุหรี่และผู้ที่ได้รับควันบุหรี่มือสอง รวมทั้งป้องกันวัยรุ่นจากการทดลองสูบบุหรี่ ในปี 2554 นี้ องค์การอนามัยโลกได้กำหนดคำขวัญว่า “พิทักษ์สิทธิตามกฎหมาย มุ่งสู่สังคมไทยปลอดบุหรี่”
นายแพทย์ ไพศาล กล่าวต่อว่า สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดกาญจนบุรี จึงจัดกิจกรรมรณรงค์เนื่องในวันงดสูบบุหรี่โลก ปี 2554 สร้างกระแสรณรงค์และประชาสัมพันธ์ให้กลุ่มเด็ก เยาวชน ผู้ประกอบการค้าบุหรี่ ส่วนราชการ โรงเรียน/สถานศึกษา และประชาชนให้มีค่านิยมที่ถูกต้อง มีส่วนร่วมในกิจกรรมวันงดสูบบุหรี่โลก และปกป้องประชาชนจากโรคภัยและความสูญเสียต่างๆ ที่เกิดจากการสูบบุหรี่ รวมทั้งสนับสนุนการดำเนินการตามกฎหมายเกี่ยวกับบุหรี่ ตามมาตรการทางกฎหมายเพื่อคุ้มครองสุขภาพผู้ไม่สูบบุหรี่ จำนวน 2 ฉบับ
ได้แก่ พระราชบัญญัติควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ และพระราชบัญญัติคุ้มครองสุขภาพผู้ไม่สูบบุหรี่ พ.ศ. 2535 และได้มีประกาศกระทรวงสาธารณสุข ฉบับที่ 17 และ 18 พ.ศ.2549 และ 2550 กำหนดประเภทของสถานที่สาธารณะที่ให้มีการคุ้มครองสุขภาพของผู้ที่ไม่สูบบุหรี่ ซึ่งสอดคล้องกับกฎหมายเพื่อคุ้มครองเด็ก ที่ห้ามจำหน่าย แลกเปลี่ยน หรือให้สุรา หรือบุหรี่แก่เด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 30 มีนาคม 2547 เป็นต้นมา
จึงขอเชิญชวนให้ผู้ที่กำลังสูบบุหรี่ ลด ละ เลิกการสูบบุหรี่ ตระหนักถึงอันตรายของบุหรี่และสุขภาพของผู้สูบบุหรี่ รวมถึงผู้ที่ไม่สูบแต่ต้องมารับควันบุหรี่ด้วย
สำหรับกลุ่มเยาวชนและเด็กไม่ควรทดลองหรือริเริ่ม และร่วมกันปกป้องสุขภาพของผู้ไม่สูบบุหรี่จากอันตรายจากควันบุหรี่ ซึ่งการรณรงค์ครั้งนี้เป็นการสร้างกระแสรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ ทำให้เด็กและเยาวชน ผู้ประกอบการค้าบุหรี่ หน่วยงานราชการ และประชาชนมีส่วนร่วมและตระหนักถึงพิษภัยของบุหรี่ สามารถลด ละ เลิกการสูบบุหรี่ได้
รวมทั้งประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนสามารถเลือกใช้บริการคลินิกอดบุหรี่ที่โรงพยาบาลของรัฐทุกแห่งในจังหวัดกาญจนบุรีได้ตามความสะดวก” นายแพทย์ ไพศาล กล่าวในที่สุด
เมื่อเวลา 14.30 น.วันนี้ (22 เม.ย.54) นายแพทย์ ไพศาล ดั่นคุ้ม นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดกาญจนบุรี เปิดเผยว่า ประชากรโลก 5 ล้านคน เสียชีวิตด้วยโรคที่เกี่ยวข้องกับการสูบบุหรี่ ได้แก่ โรคหัวใจล้มเหลว มะเร็ง และโรคปอด รวมทั้งโรคอื่นๆ อีกมากมาย ข้อมูลจากการสำรวจของสำนักงานสถิติแห่งชาติ พบว่า ประเทศไทยมีผู้ที่อายุมากกว่า 15 ปี เสพติดบุหรี่ถึง 9.5 ล้านคน โดยส่วนใหญ่เป็นเพศชายมากกว่าเพศหญิงในจำนวนนี้เป็นเยาวชนถึง 1.2 ล้านคน
ดังนั้น ทุกฝ่ายคนในครอบครัว ญาติมิตร และเพื่อนฝูงจึงต้องร่วมมือกันเตือนสติผู้ที่สูบบุหรี่ให้เลิกสูบ และเฝ้าระวังเด็กๆ ที่ยังไม่ติดบุหรี่ไม่ให้ริเริ่มสูบ
องค์การอนามัยโลกได้กำหนดให้วันที่ 31 พฤษภาคม ของทุกปี เป็นวันงดสูบบุหรี่โลก โดยขอความร่วมมือนานาประเทศทั่วโลกในการร่วมจัดกิจกรรมรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ รณรงค์สื่อสารถึงพิษภัยและอันตรายจากการสูบบุหรี่ทั้งต่อผู้ที่สูบบุหรี่และผู้ที่ได้รับควันบุหรี่มือสอง รวมทั้งป้องกันวัยรุ่นจากการทดลองสูบบุหรี่ ในปี 2554 นี้ องค์การอนามัยโลกได้กำหนดคำขวัญว่า “พิทักษ์สิทธิตามกฎหมาย มุ่งสู่สังคมไทยปลอดบุหรี่”
นายแพทย์ ไพศาล กล่าวต่อว่า สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดกาญจนบุรี จึงจัดกิจกรรมรณรงค์เนื่องในวันงดสูบบุหรี่โลก ปี 2554 สร้างกระแสรณรงค์และประชาสัมพันธ์ให้กลุ่มเด็ก เยาวชน ผู้ประกอบการค้าบุหรี่ ส่วนราชการ โรงเรียน/สถานศึกษา และประชาชนให้มีค่านิยมที่ถูกต้อง มีส่วนร่วมในกิจกรรมวันงดสูบบุหรี่โลก และปกป้องประชาชนจากโรคภัยและความสูญเสียต่างๆ ที่เกิดจากการสูบบุหรี่ รวมทั้งสนับสนุนการดำเนินการตามกฎหมายเกี่ยวกับบุหรี่ ตามมาตรการทางกฎหมายเพื่อคุ้มครองสุขภาพผู้ไม่สูบบุหรี่ จำนวน 2 ฉบับ
ได้แก่ พระราชบัญญัติควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ และพระราชบัญญัติคุ้มครองสุขภาพผู้ไม่สูบบุหรี่ พ.ศ. 2535 และได้มีประกาศกระทรวงสาธารณสุข ฉบับที่ 17 และ 18 พ.ศ.2549 และ 2550 กำหนดประเภทของสถานที่สาธารณะที่ให้มีการคุ้มครองสุขภาพของผู้ที่ไม่สูบบุหรี่ ซึ่งสอดคล้องกับกฎหมายเพื่อคุ้มครองเด็ก ที่ห้ามจำหน่าย แลกเปลี่ยน หรือให้สุรา หรือบุหรี่แก่เด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 30 มีนาคม 2547 เป็นต้นมา
จึงขอเชิญชวนให้ผู้ที่กำลังสูบบุหรี่ ลด ละ เลิกการสูบบุหรี่ ตระหนักถึงอันตรายของบุหรี่และสุขภาพของผู้สูบบุหรี่ รวมถึงผู้ที่ไม่สูบแต่ต้องมารับควันบุหรี่ด้วย
สำหรับกลุ่มเยาวชนและเด็กไม่ควรทดลองหรือริเริ่ม และร่วมกันปกป้องสุขภาพของผู้ไม่สูบบุหรี่จากอันตรายจากควันบุหรี่ ซึ่งการรณรงค์ครั้งนี้เป็นการสร้างกระแสรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ ทำให้เด็กและเยาวชน ผู้ประกอบการค้าบุหรี่ หน่วยงานราชการ และประชาชนมีส่วนร่วมและตระหนักถึงพิษภัยของบุหรี่ สามารถลด ละ เลิกการสูบบุหรี่ได้
รวมทั้งประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนสามารถเลือกใช้บริการคลินิกอดบุหรี่ที่โรงพยาบาลของรัฐทุกแห่งในจังหวัดกาญจนบุรีได้ตามความสะดวก” นายแพทย์ ไพศาล กล่าวในที่สุด
