สระแก้ว - จังหวัดสระแก้วจัดค่ายเยาวชนทูบีนัมเบอร์วันไทย-กัมพูชา สร้างเครือข่ายต้านยาเสพติด
นายศานิตย์ นาคสุขศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว กล่าวว่า จังหวัดสระแก้วได้น้อมนำพระปณิธานในทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี องค์ประธานอำนวยการโครงการทูบีนัมเบอร์วันที่ทรงห่วงใยประชาชนชาวไทย โดยเฉพาะกลุ่มเด็กและเยาวชน ซึ่งจังหวัดสระแก้วได้ดำเนินมาตั้งแต่ปี 2546 ปัจจุบันมีสมาชิกชมรมอายุระหว่าง 10-24 ปี จำนวน 119,013 คนและมีสมาชิกที่เป็นประชาชนทั่วไป 289,227 คน มีชมรมฯ 1,177 ชมรม การดำเนินงานที่ผ่านมาจังหวัดสระแก้ว
โดยยึด 3 ยุทธศาสตร์หลัก คือ สร้างกระแส สร้างภูมิคุ้มกันทางจิตใจ สร้างและพัฒนาเครือข่าย ร่วมกับหลักการทำงานของจังหวัด ได้แก่ บ้าน วัด โรงเรียน ภายใต้กรอบแนวคิด “ใช้ครอบครัวเป็นฐาน ทำบ้านให้อบอุ่น เจือจุนคนรุ่นใหม่ให้มีสติ ใช้สิทธิมนุษยชนทั่วถึงเท่าเทียม เตรียมชุมชนให้เข้มแข็ง ร่วมแรงสร้างภาคีเครือข่าย” และปลูกฝังเยาวชนสระแก้วให้เกิดแนวคิด “ทูบีนัมเบอร์วันครีเอทีฟ (สร้างสรรค์) ” อาทิ ทูบีนัมเบอร์วันสร้างสรรค์สังคม สร้างสรรค์การเมือง สร้างสรรค์สิ่งแวดล้อม สร้างสรรค์ลดอุบัติเหตุ สร้างสรรค์กีฬา สร้างสรรค์ธรรมมะ โดยจัดกิจกรรมในกลุ่มเยาวชนอย่างต่อเนื่อง
นายศานิตย์ กล่าวต่อว่า เนื่องจากจังหวัดสระแก้วเป็นจังหวัดชายแดนติดกับประเทศเพื่อนบ้าน จึงมีความเสี่ยงสูงต่อการแพร่ระบาดของยาเสพติด โดยเฉพาะใน 4 อำเภอชายแดน ได้แก่ อำเภอตาพระยา อำเภอโคกสูง อำเภออรัญประเทศ และอำเภอคลองหาด รวมระยะทาง 165 กิโลเมตร จัดได้กิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้การดำเนินงาน ด้านยาเสพติดระหว่างเจ้าหน้าที่สาธารณสุขทั้ง 2 จังหวัด อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งได้จัดตั้งหมู่บ้านทูบีนัมเบอร์วันคู่ขนานสีขาวชายแดนไทย-กัมพูชา เปิดรับสมัครสมาชิกชมรมฯจากประเทศกัมพูชา การจัดตั้งศูนย์เพื่อนใจวัยรุ่นหมู่บ้านบริเวณชายแดน มีการจัดกิจกรรมให้เยาวชนทูบีนัมเบอร์วันทั้ง 2 ประเทศทำกิจกรรมร่วมกัน ซึ่งการจัดโครงการเยาวชนทูบีนัมเบอร์วันสระแก้ว - บันเตียเมียนเจยในครั้งนี้ ถือว่าเป็นความต่อเนื่องของโครงการโดยนำเยาวชนไทยและกัมพูชาจำนวน 100 คน มาทำกิจกรรมร่วมกัน
นพ.ชุม วรรณริด รองผู้ว่าราชการจังหวัดบันเตียเมียนเจย ประเทศกัมพูชา กล่าวว่า ยาเสพติดถือว่าเป็นปัญหาใหญ่ของทั้งสองประเทศ แต่ที่ผ่านมาทั้งจังหวัดสระแก้วและจังหวัดบันเตียเมียนเจยได้กำหนดยุทธศาสตร์ร่วมกันเพื่อจำกัดการขยายวงกว้างของยาเสพติด ซึ่งจังหวัดบันเตียเมียนเจยเองก็ได้มีโครงการรณรงค์ป้องกันยาเสพติดลงไปในชุมชน มีคณะกรรมการติดตามผู้ซื้อผู้ขายยาเสพติดในพื้นที่ก่อนที่จะถูกส่งไปบำบัดต่อยังสถานีอนามัยและโรงพยาบาล และสุดท้ายส่งต่อให้ชุมชนให้ช่วยดูแลผู้ป่วยเหล่านั้น
รองผู้ว่าราชการจังหวัดบันเตียเมียนเจย กล่าวต่อว่า อยากให้จังหวัดสระแก้วและจังหวัดบันเตียเมียนเจยร่วมมือกันอย่างนี้ตลอดไป เพื่อไม่ให้มียาเสพติดอยู่ในพื้นที่ เพื่อให้ประชาชนทั้งสองจังหวัดมีคุณภาพชีวิตที่ดี และจังหวัดบันเตียเมียนเจยให้สัญญาว่าทุกครั้งที่จังหวัดสระแก้วจัดรณรงค์ยาเสพติด จังหวัดบันเตียเมียนเจยพร้อมให้ความร่วมมือตลอดเวลา
