นครพนม - เกษตรกรปลูกข้าวนาปรัง ริมฝั่งโขง หลายหมู่บ้านเดือดร้อนหนัก ต้องตื่นตั้งแต่ตี 5 มาชักลอกกระป๋องไล่ฝูงนกกระจิ๊บนับหมื่นตัว ที่ลงมากินข้าวที่กำลังออกรวงสุก ชาวบ้านเผยไล่นกไม่ทันนาข้าวเสียหายหลายไร่ในเวลาไม่ถึงหนึ่งอาทิตย์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่จังหวัดนครพนม เกษตรกรชาวนาหลายหมู่บ้านในเขตตำบลท่าค้อ อ.เมือง จ.นครพนม ที่ปลูกข้าวนาปรังช่วงฤดูแล้งบริเวณแปลงนาริมฝั่งแม่น้ำโขงนับ 50 ราย ได้รับความเดือดร้อนอย่างหนักจากฝูกนกกระจิ๊บนับหมื่นตัวลงกินข้าว
นางหนูริน คำสงค์ เกษตรกรรายหนึ่ง เปิดเผยว่า ช่วงนี้เป็นช่วงที่ข้าวกำลังออกรวงเป็นน้ำนมใกล้สุก ปัญหาที่เดือดร้อนที่สุด คือ จะมีฝูงนกกระจิ๊บตัวเล็กๆ ฝูงละ 100-300 ตัว หลายฝูงจะบินมาเป็นกลุ่มแล้วลงกินเมล็ดข้าวที่กำลังออกรวงสุกจนเสียหายอย่างหนัก เกษตรกรบางรายไม่มาเฝ้าแปลงนาหรือมาไล่นกไม่ทันนาข้าวเสียหายเป็นไร่ๆ โดยไม่ถึง 1 อาทิตย์เมล็ดข้าวบนรวงจะลีบแห้งท้องหมด
พวกตนต้องตื่นตั้งแต่ตี 5 มาเฝ้าไล่นกทุกวันแต่เช้า โดยวิธีการไล่จะทำเสาไม้ไผ่หลายเสาขึงเชือกฟาดกลางแปลงนาโยงมาที่เถียงนา ปลายเสาไม้ไผ่จะนำกระป๋องเบียร์/โค้กมาผูกเป็นพวง เมื่อฝูงนกมาเราก็จะชักเชือกกระป๋องจะกระทบกันส่งเสียงดังจะทำให้นกตกใจไม่ลงมากินข้าวๆ ก็จะปลอดภัยจากฝูงนกหรือเสียหายน้อยที่สุด
เราจะคอยไล่นกตั้งแต่ก่อน 6 โมงเช้า มันจะออกมาหากินตั้งแต่ตี 5 จนกระทั่งถึง 10 โมง เมื่ออากาศร้อนแดดแข็งมันจะบินกลับไปพักที่ป่าริมโขง จนกระทั่งช่วงบ่ายมันจะบินมากินข้าวอีกตั้งบ่าย 6-5 โมงเย็น คือ นกชนิดนี้มันจะบินมากินข้าวช่วงอากาศเย็นๆ ไม่ร้อนจัด ซึ่งเราจะได้พักช่วงอากาศร้อนเท่านั้น
แต่ปัญหาบรรเทาได้ระดับหนึ่ง คือ จะมีชาวบ้านมาจับนกชนิดนี้ไปขายให้กับแม่ค้าที่วัดพระธาตุพนม โดยซื้อขายตัวละ 8 บาท โดยแม่ค้าในวัดพระธาตุพนมจะซื้อนกจำนวนมากใส่กรงเล็กๆ ขายให้กับคนมาทำบุญซื้อนกปล่อยแก้เคล็ดเป็นสิริมงคล