ระยอง-เครือข่ายประชาชนภาคตะวันออกเร่งรัฐบาลประกาศพื้นที่คุ้มครองสิ่งแวดล้อมเพิ่ม
วันนี้( 16 เมษายน2554) นายสุทธิ อัชฌาศัย ผู้ประสานงานเครือข่ายประชาชนภาคตะวันออกและสมาชิกเครือข่ายฯร่วมแถลงข่าวกรณีขับเคลื่อนเกี่ยวข้องกับการคุ้มครองพื้นที่ของ จ.ระยองที่ประชุมมีมติร่วมกันกรณีบริษัท สยามเอทานอลเอ็กซปอร์ต จำกัด ปล่อยน้ำเสียลงฝายน้ำที่ อ.บ้านค่ายซึ่งเป็นแหล่งผลิตน้ำประปา และได้ส่งผลกระทบให้กับคนระยองที่ใช้น้ำประปาในการอุปโภคบริโภค เพื่อความปลอดภัยในวันที่ 19 เมษายนนี้เครือข่ายฯจะเข้าพบนายธวัชชัย เทอดเผ่าไทย ผวจ.ระยอง หามาตรการตรวจสอบคุณภาพน้ำประปาเพื่อสร้างความปลอดภัยให้กับคนระยอง
นายสุทธิ กล่าวว่าเครือข่ายประชาชนภาคตะวันออก ส่งตัวแทนเข้าร้องเรียนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเมื่อวันที่ 3 มีนาคมที่ผ่านมากรณีการกำหนดพื้นที่คุ้มครองสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ ต.บ้านแลง ต.ตะพง และ ต.นาตาขวัญ อ.เมืองระยองไม่มีความคืบหน้า และกรณีปัญหาเรื่องกลิ่นเหม็นของบริษัท ไออาร์พีซี จำกัด(มหาชน)ยังคงส่งกลิ่นเหม็นอย่างต่อเนื่องย่อมแสดงให้เห็นว่า ไออาร์พีซี ไม่สามารถแก้ไขปัญหาเรื่องเหม็นไม่ได้ แสดงให้เห็นถึงความล้มเหลวของกระทรวงอุตสาหกรรมและกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในวันที่ 21 เมษายนนี้เครือข่ายประชาชนภาคตะวันออกจะส่งตัวแทนเข้าไปสอบถามรัฐมนตรีทั้ง 2 กระทรวงว่าจะแก้ไขปัญหาเรื่องกำหนดพื้นที่คุ้มครองสิ่งแวดล้อม 3 ตำบลและกรณีเรื่องกลิ่นเหม็นให้แล้วเสร็จเมื่อไหร่ เพราะชาวบ้านทั้ง 3 ตำบลต้องการให้เป็นพื้นที่ที่อยู่อาศัย เป็นพื้นที่คุ้มครองอาชีพเกษตรกรรม
นายสุทธิ กล่าวต่อว่า มาตรการของเครือข่ายประชาชนภาคตะวันออกผลักดันให้รัฐบาลจัดทำมาตรการคุ้มครองสิ่งแวดล้อม แต่เมื่อรัฐบาลประกาศเป็นพื้นที่เขตควบคุมสิ่งแวดล้อมก็ยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้กรณีเรื่องสารเคมีรั่วไหลเกิดขึ้นมาอีกเมื่อเร็วๆนี้และคราบน้ำมันในคลองชากหมากรวมทั้งเกิดไฟไหม้ในบริษัท บริหารและพัฒนาเพื่อการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมหรือ เจนโก้ เป็นความล้มเหลวของการที่ไม่ใช้แผนลดและขจัดมลพิษในการแก้ไขปัญหา รัฐบาลจะต้องเพิ่มเป็นมาตรการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมเพื่อทำให้เกิดพื้นที่ในการดำเนินการความผิดกับผู้กระทำความผิดได้ทันทีตามกฎหมาย เครือข่ายประชาชนฯจะดำเนินการเคลื่อนไหวเรียกร้องในเร็วๆนี้
หลังช่วงที่รัฐบาลประกาศยุบสภา เครือข่ายประชาชนภาคตะวันออกจะระดมความคิดเห็นจากทุกภาคส่วนในการที่จะสร้างทิศทางการพัฒนาจังหวัดระยองโดยเฉพาะอยากจะเห็นการพัฒนาอุตสาหกรรมที่พอประมาณ การกำหนดประเภทอุตสาหกรรมที่ไม่มีปล่องควันอีกต่อไป แต่ถ้าเป็นอุตสาหกรรมปิโตรเคมีมีการใช้น้ำป้อนโรงงานอุตสาหกรรมจำนวนมากจะปล่อยให้เกิดขึ้นอีกไม่ได้อีกต่อไป เราจะทำเป็นข้อเสนอของภาคประชาชนเชิญระดับกรรมการบริหารพรรคการเมืองที่ส่งผู้สมัครลงสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร(ส.ส.)มารับฟังข้อเสนอเพื่อทำบันทึกเป็นข้อมูลเสนอต่อสาธารณชน
และนับแต่นี้ไปเครือข่ายประชาชนภาคตะวันออกจะให้เวลากับรัฐบาลใหม่และจะนำไปสู่การเคลื่อนไหวใหญ่อีกครั้งหนึ่งในราวเดือนกันยายน เพื่อต้องการผลักดันให้รัฐบาล ภาคเอกชน ภาควิชาการและทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาพื้นที่ จ.ระยอง โดยฟังเสียงของประชาชนนำไปสู่การแก้ปัญหาตามที่ประชาชนประสบปัญหามายาวนาน และการเคลื่อนไหวใหญ่ในเดือนกันยายนไม่มีประกาศ ไม่มีบังคับใช้กฎหมายใดๆเราคงไม่หยุดการเคลื่อนไหวแน่นอน อยากเห็นการเพิ่มมาตรการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมในเขตควบคุมมลพิษมาบตาพุด-บ้านฉาง ประกาศพื้นที่ควบคุมสิ่งแวดล้อม ต.บ้านแลง ต.นาตาขวัญและ ต.ตะพง อ.เมืองระยอง อ.บ้านค่าย อ.วังจันทร์และ อ.ปลวกแดง โดยเฉพาะไม่สมควรให้โรงงานตั้งอยู่เหนือบริเวณพื้นที่แหล่งน้ำดิบที่ใช้ในการผลิตน้ำประปาให้คนระยอง