ศูนย์ข่าวศรีราชา - ประเมินรายได้จากการท่องเที่ยวหยุดยาว 5 วันช่วงเทศกาลสงรานต์ในจังหวัดระยอง และจันทบุรี จะมีไม่น้อยกว่า 700 ล้านบาทจากการเดินทางเข้าพักของกลุ่มนักท่องเที่ยวครอบครัว โดยระยองมียอดการเข้าพักถึงร้อยละ 80 ขณะที่จันทบุรีมียอดการเข้าพักถึง 85% ชี้จุดดึงดูดสำคัญอยู่ที่การยกเว้นค่าผ่านทางมอเตอร์เวย์สาย 7 สู่ภาคตะวันออก และการเกิดอุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ทำให้นักท่องเที่ยวเปลี่ยนเส้นทางเดินทาง
นายชูชาติ อ่อนเจริญ ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานระยอง (ระยอง-จันทบุรี) เผยถึงภาวะการท่องเที่ยวช่วงหยุดยาว 5 วันเทศกาลสงกรานต์ในพื้นที่จังหวัดระยอง และจันทบุรีว่า มีแนวโน้มเติบโตมากกว่าปีก่อน เห็นได้จากอัตราการจองห้องพักและความถี่ในการติดต่อขอรับข้อมูลการท่องเที่ยว โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวกลุ่มครอบครัวที่เบนเข็มจากแหล่งท่องเที่ยวในพื้นที่ภาคใต้ที่ขณะนี้ได้รับผลกระทบจากปัญหาอุทกภัย มาสู่การเดินทางท่องเที่ยวในจังหวัดภาคตะวันออกที่อยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ และยังได้รับการยกเว้นเก็บค่าผ่านทางด่วนมอเตอร์เวย์ สาย 7 สู่ภาคตะวันออก
ทั้งนี้ พบว่าแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความสนใจในจังหวัดระยอง ได้แก่ อุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า หมู่เกาะเสม็ด สวนผลไม้สุภัทราแลนด์ สถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำระยอง สวนสมุนไพรสมเด็จพระเทพฯ และชายหาดสำคัญๆ เช่น หาดแม่รำพึง สวนสน แหลมแม่พิมพ์ หาดพลา หาดพยูน และหาดน้ำริน
ส่วนอัตราการเข้าพักแรมและสำรองห้องพักในช่วงเทศกาลสงกรานต์ พบว่ามีร้อยละ 80 ของจำนวนสถานที่พักแรม 274 แห่ง 10,803 ห้อง โดยคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าพักแรมในจังหวัดระยอง 161,175 คน และมีนักทัศนาจรเข้ามาในพื้นที่อีก 86,470 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกลุ่มครอบครัว และคาดว่าจะมีรายได้จากการท่องเที่ยวทั้งหมดในช่วง 5 วันไม่น้อยกว่า 433.70 ล้านบาท
ขณะที่สถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดจันทบุรีที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยว ได้แก่ ชายหาดคุ้งวิมาน แหลมเสด็จ หาดจ้าวหลาว และสถานที่ท่องเที่ยวตามธรรมชาติอื่นๆ เช่น โอเอซิส ซีเวิลด์ สะพานเดินศึกษาธรรมชาติฯอ่าวคุ้งกระเบน อุทยานแห่งชาติเขาคิชฌกูฏ น้ำตกกระทิง อุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้ว เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาสอยดาว และสถานีพัฒนาป่าชายเลนที่ 2 (ท่าสอน)
ส่วนการสำรองห้องพักพบว่ามีถึงร้อยละ 85 ของสถานที่พักแรม 109 แห่ง 3,063 ห้องและคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวประมาณ 67,321 คน นักทัศนาจร 36,613 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวกลุ่มครอบครัว และคาดว่าจะมีรายได้จากการท่องเที่ยวในช่วงดังกล่าวประมาณ 119.87 ล้านบาท
“หลังเทศกาลสงกรานต์แล้วจังหวัดระยองและจันทบุรี ยังมีการจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวอีกหลายรายการ แต่กิจกรรมที่ต้องการแนะนำให้นักท่องเที่ยวได้รู้จักก็คือ ในวันที่ 22 เมษายน จังหวัดจันทบุรีจะมีการจัดขบวนจำลองการทรมานของพระเยซูที่โบสถ์พระแม่มารีอา สนธิ-นิรมล ซึ่งเป็นโบสถ์คาทอลิกอายุ 100 ปี และภายในโบสถ์ยังมีองค์พระแม่มารีอาฝังพลอยกว่า 2 หมื่นกะรัตที่มีความงดงาม ซึ่งกิจกรรมดังกล่าวจัดติดต่อกันมานานถึง 11 ปีแล้ว และจะมีผู้ร่วมในขบวนกว่า 4,000 คน” นายชูชาติกล่าว
นายชูชาติ อ่อนเจริญ ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานระยอง (ระยอง-จันทบุรี) เผยถึงภาวะการท่องเที่ยวช่วงหยุดยาว 5 วันเทศกาลสงกรานต์ในพื้นที่จังหวัดระยอง และจันทบุรีว่า มีแนวโน้มเติบโตมากกว่าปีก่อน เห็นได้จากอัตราการจองห้องพักและความถี่ในการติดต่อขอรับข้อมูลการท่องเที่ยว โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวกลุ่มครอบครัวที่เบนเข็มจากแหล่งท่องเที่ยวในพื้นที่ภาคใต้ที่ขณะนี้ได้รับผลกระทบจากปัญหาอุทกภัย มาสู่การเดินทางท่องเที่ยวในจังหวัดภาคตะวันออกที่อยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ และยังได้รับการยกเว้นเก็บค่าผ่านทางด่วนมอเตอร์เวย์ สาย 7 สู่ภาคตะวันออก
ทั้งนี้ พบว่าแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความสนใจในจังหวัดระยอง ได้แก่ อุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า หมู่เกาะเสม็ด สวนผลไม้สุภัทราแลนด์ สถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำระยอง สวนสมุนไพรสมเด็จพระเทพฯ และชายหาดสำคัญๆ เช่น หาดแม่รำพึง สวนสน แหลมแม่พิมพ์ หาดพลา หาดพยูน และหาดน้ำริน
ส่วนอัตราการเข้าพักแรมและสำรองห้องพักในช่วงเทศกาลสงกรานต์ พบว่ามีร้อยละ 80 ของจำนวนสถานที่พักแรม 274 แห่ง 10,803 ห้อง โดยคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าพักแรมในจังหวัดระยอง 161,175 คน และมีนักทัศนาจรเข้ามาในพื้นที่อีก 86,470 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกลุ่มครอบครัว และคาดว่าจะมีรายได้จากการท่องเที่ยวทั้งหมดในช่วง 5 วันไม่น้อยกว่า 433.70 ล้านบาท
ขณะที่สถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดจันทบุรีที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยว ได้แก่ ชายหาดคุ้งวิมาน แหลมเสด็จ หาดจ้าวหลาว และสถานที่ท่องเที่ยวตามธรรมชาติอื่นๆ เช่น โอเอซิส ซีเวิลด์ สะพานเดินศึกษาธรรมชาติฯอ่าวคุ้งกระเบน อุทยานแห่งชาติเขาคิชฌกูฏ น้ำตกกระทิง อุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้ว เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาสอยดาว และสถานีพัฒนาป่าชายเลนที่ 2 (ท่าสอน)
ส่วนการสำรองห้องพักพบว่ามีถึงร้อยละ 85 ของสถานที่พักแรม 109 แห่ง 3,063 ห้องและคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวประมาณ 67,321 คน นักทัศนาจร 36,613 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวกลุ่มครอบครัว และคาดว่าจะมีรายได้จากการท่องเที่ยวในช่วงดังกล่าวประมาณ 119.87 ล้านบาท
“หลังเทศกาลสงกรานต์แล้วจังหวัดระยองและจันทบุรี ยังมีการจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวอีกหลายรายการ แต่กิจกรรมที่ต้องการแนะนำให้นักท่องเที่ยวได้รู้จักก็คือ ในวันที่ 22 เมษายน จังหวัดจันทบุรีจะมีการจัดขบวนจำลองการทรมานของพระเยซูที่โบสถ์พระแม่มารีอา สนธิ-นิรมล ซึ่งเป็นโบสถ์คาทอลิกอายุ 100 ปี และภายในโบสถ์ยังมีองค์พระแม่มารีอาฝังพลอยกว่า 2 หมื่นกะรัตที่มีความงดงาม ซึ่งกิจกรรมดังกล่าวจัดติดต่อกันมานานถึง 11 ปีแล้ว และจะมีผู้ร่วมในขบวนกว่า 4,000 คน” นายชูชาติกล่าว
