ศูนย์ข่าวศรีราชา - ตำรวจ สภ.หนองขาม รวบแก๊งลักทรัพย์เงินสด 390,000 บาท ภายในบ้าน ซึ่งเปิดเป็นร้านขายของชำ โดยทำมีเข้าห้องน้ำ ตำรวจสงสัยเกลือเป็นหนอน
เวลา 13.00 น.วันนี้ (10 เม.ย.) พ.ต.อ.วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผกก.สภ. หนองขาม พร้อมด้วย พ.ต.ท.สุรสิทธิ์ เนื่องจำนงค์ รองผกก.ป.สภ.หนองขาม นำกำลังตำรวจออกตรวจพื้นที่ตำบลหนองขามได้มีนางสมจิตร เปรมปรี อยู่บ้านเลขที่ 188 หมู่ 5 ต.บึงอ.ศรีราชา จ.ชลบุรี วิ่งตรงเข้ามาหา และแจ้งว่า ที่บ้านร้านเปิดเป็นร้านขายของชำได้มีคนร้ายเป็นหญิง 1 คน ทำทีมาขอเข้าห้องน้ำแล้วได้หยิบกุญแจที่วางไว้ในร้านแล้วแอบไปเปิดประตูห้องนอนไปลักเงินสดที่เก็บไว้ในห้องนอนจำนวน 390,000 บาทแล้วหลบหนีไป
หลังจากรับแจ้งจึงนำกำลังชุดปราบปรามพิเศษออกติดตามตัวคนร้าย พบผู้ต้องสงสัยเป็นหญิงกำลังเดินออกจากร้านทองพันชั่ง ซึ่งตั้งอยู่ริมถนนสุขาภิบาล 8 ต.หนองขาม อ.ศรีราชา ตรงกับรูปพรรณที่ผู้เสียหายได้แจ้งไว้เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงขอตรวจสอบทราบชื่อว่านางกัลยา แฝงเวียง อายุ 33 ปี 50/6 หมู่ 6 ต.บ้านค่ายอ.บ้านค่าย จ.ระยอง
จากการตรวจสอบในตัวพบทองรูปพรรณ 1.50 บาท โน้ตบุ๊ก1 เครื่อง โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง เงินสดอีก 300,000 บาท
หลังจากนั้น จึงนำผู้เสียหายมาดูตัวพบว่าเป็นคนร้ายที่ได้ก่อเหตุลักเงินสดไปจริง หลังจากนั้นจึงนำตัวมาสอบสวนก็ให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ขโมยเงินจำนวน 390,000 บาท มาจริงและเงินส่วนหนึ่งได้นำไปซื้อทองรูปพรรณ โน้ตบุ๊ก โทรศัพท์มือถือ และมีเพื่อนร่วมขบวนการอีก 2 คนที่มารับส่ง คือ นายมานิตย์ ปั้นสำลี อายุ 29 ปีและ นางสาวหทัยรัตน์ เอี่ยมสอางค์ อายุ 29 ปีซึ่งเป็นสามีภรรยากัน และได้แบ่งเงินให้ไป 16,000 บาท
เจ้าหน้าที่จึงนำกำลังไปจับกุมตัวได้ที่บ้านเช่าไม่มีเลขที่หลังสนามบิน หมู่ 1 ต.บึง อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ซึ่งทั้ง 2 คนได้ให้การปฏิเสธว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง เนื่องจากนางกัลยามายืมรถจักรยานยนต์ยี่ห้อซูซูกิทะเบียนป้ายแดงของตนเองไปทำธุระแล้วกลับมานำเงินมาแบ่งให้ใช้ซึ่งก็ไม่ได้สนใจ และรับไว้ไม่คิดว่าจะไปขโมยเงินเขามา ซึ่งทางตำรวจไม่เชื่อในคำให้การของ 2 สามีภรรยา และคาดว่าในการลงมือก่อเหตุลักเงินสดในห้องนอนของผู้เสียหายในครั้งนี้น่าจะมีคนในบ้านเป็นคนชี้เป้า
เนื่องจากรู้ที่เก็บกุญแจห้องและรู้ห้องนอนของผู้เสียหายเป็นอย่างดีรวมถึงรู้ว่ามีเงินสดเก็บอยู่ภายในห้องนอนจำนวนมาก และใช้เวลาลงมือไม่เกิน 10 นาทีจนเจ้าของบ้านมาไหวตัวคนร้ายก็หนีไปไกลแล้ว
อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ทำการสอบสวนหาผู้ร่วมขบวนการในครั้งนี้ หลังจากนั้นได้ควบคุมตัวทั้ง 3 คนพร้อมของกลางส่ง สภ.บ่อวินเจ้าของท้องที่เกิดเหตุดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป