กาญจนบุรี - รอง ผวจ.กาญจนบุรี นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และอาสาสมัคร ปูพรมเข้าตรวจค้นยาเสพติดในเรือนจำกาญจนบุรี ไม่พบสิ่งผิดกฎหมายแม้แต่ชนิดเดียว
เมื่อเวลา 06.00 น.วันนี้ (7 เม.ย.) นายชัยวัฒน์ ลิมป์วรรณธะ รอง ผวจ.กาญจนบุรี พ.อ.บัลลังก์ วีระคุปต์ รอง ผบ.จทบ.จ.กาญจนบุรี พ.ต.ท.สุชาย เทศัชบุตร สวป.สภ.เมืองกาญจนบุรี นายวรากร พัฒนวิบูลย์ รอง ผบ.ร้อย.อส.จ.กาญจนบุรี พ.ต.ต.พิทักษ์ วาฤทธิ์ สารวัตรงานข่าว กก.ตชด.13 พร้อมเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ นปพ.และ อส.กว่า 100 นาย รวมทั้งนำสุนัขดมกลิ่นจาก กก.ตชด.13 จำนวน 4 นาย เข้าตรวจค้นเรือนนอนผู้ต้องหาภายในเรือนจำจังหวัดกาญจนบุรี เพื่อค้นหาสิ่งผิดกฎหมาย และยาเสพติด ก่อนถึงช่วงวันหยุดยาวเทศกาลวันสงกรานต์ โดยมีนายแดนไทย เจริญ ผบ.เรือนจำจังหวัดกาญจนบุรี และเจ้าหน้าที่เรือนจำ เป็นผู้นำพาในการตรวจค้นในครั้งนี้
เมื่อเจ้าหน้าที่ชุดตรวจค้นเดินทางไปถึงบริเวณเรือนจำ ได้มีการประชุมวางแผนกันที่ห้องประชุมเรือนจำด้านนอก จากนั้นได้กระจายกำลังกันออกตรวจค้นตามเรือนนอนของผู้ต้องหาซึ่งมีทั้งเรือนนอนผู้ต้องขังหญิง และชาย ส่วนผู้ต้องขังภายในเรือนจำมีทั้งหมด 1,964 คน สำหรับกลุ่มเป้าหมายที่สำคัญในการตรวจค้นในครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้เน้นไปที่บริเวณเรือนนอน 2 ซึ่งเป็นเรือนนอนของผู้ต้องขังคดีอุกฉกรรจ์ ถูกศาลตัดสินกำหนดโทษสูง และคดีค้ายาเสพติดที่ได้ของกลางเป็นจำนวนมาก ซึ่งเป็นผู้ต้องขังชายทั้งหมด และจากการตรวจค้นเจ้าหน้าที่ใช้เวลานาน 2.30 ชั่วโมง ผลปรากฏว่าไม่พบสิ่งผดกฎหมายหรือยาเสพติดแม้แต่ชนิดเดียว
นายชัยวัฒน์ ลิมป์วรรณธะ รอง ผวจ.กาญจนบุรี กล่าวภายหลังว่า การเข้าตรวจค้นเรือนจำครั้งนี้ เป็นการรวมกำลังของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งไม่มีการบอกกล่าวให้เจ้าหน้าที่ของเรือนจำรับรู้ล่วงหน้า รวมทั้งผู้ต้องขังทั้งหมดด้วย และผลการตรวจค้นตามจุดต่างๆ เช่นสถานที่ฝึกงาน สนามกีฬา เรือนนอนทุกหลัง โดยเฉพาะเรือนนอน 2 ซึ่งเป็นเรือนนอนของนักโทษที่ก่อคดีอุกฉกรรจ์ และนักโทษคดียาเสพติดรายใหญ่ ซึ่งอยู่ในเขตแดนความมั่นคง จากการตรวจค้นเป็นที่น่าพอใจอย่างยิ่งเนื่องจากเจ้าหน้าที่ของเราไม่พบสิ่งผิดกฎหมายหรือยาเสพติดชนิดใดๆ
ส่วนสาเหตุนั้นเนื่องจากเราพร้อมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้มีการเข้าตรวจค้นเรือนจำอยู่เป็นระยะ ซึ่งทุกครั้งที่ผ่านมาก็ไม่พบสิ่งผิดกฎหมายเช่นกันจะมีอยู่บ้าง เช่น ไพ่ สำหรับเล่นการพนันและลวดที่ผู้ต้องขังใช้สำหรับสักยันต์ตามร่างกายเท่านั้นและเพื่อเป็นการสนองนโยบายของรัฐบาลในการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ไม่เพียงแต่การตรวจค้นเรือนจำเท่านั้น แต่หมายถึงการสืบสวนสอบสวนของเจ้าหน้าที่เพื่อติดตามจับกุมกลุ่มผู้ค้ายาที่ยังมีการเคลื่อนไหวอยู่ภายนอก หรืออยู่ตามแนวชายแดน เราจะใช้มาตรการที่เข้มข้นขึ้น เพื่อป้องกันสกัดกั้นกลุ่มบุคคลเหล่านี้ไม่ให้มีการนำยาเสพติดเข้ามาในจังหวัดของเราให้จงได้
