"อลงกรณ์" เปิด สนง.พัฒนาธุรกิจการค้าสาขาย่อยหัวหินรองรับความเจริญเติบโตธุรกิจอสังหาฯ-ธุรกิจท่องเที่ยว

ประจวบคีรีขันธ์ - รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดสาขาย่อยสำนักงานพัฒนาธุรกิจการค้าพร้อมกันทั้งที่ หัวหิน เกาะสมุย พัทยา แม่สอด เพื่ออำนวยความสะดวกในก้านการบริการทั้งผู้ประกอบการและประชาชน ซึ่งจะเป็นส่วนผลักดันให้ประเทศไทยเป็นประเทศที่ง่ายต่อการประกอบการธุรกิจมากยิ่งขึ้น

วันนี้ (1 เมษายน 2554) นายอลงกรณ์ พลบุตร รมช.พาณิชย์  เป็นประธานเปิดสำนักงานพัฒนาธุรกิจการค้าจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ สาขาหัวหิน พร้อมด้วยนายบรรยงค์ ลิ้มประยูรวงศ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า,นายพรพิมล สุวรรณณวิโก หน.สนง.พัฒนาธุรกิจการค้าจังหวัดประจวบคีรีขันธ์(สาขาหัวหิน)นายสิริวุฒ เหมทัติ ปลัดจังหวัดประจวบฯ,นายจิระ พงษ์ไพบูลย์ นายกเทศมนตรีเมืองหัวหิน,นายศุรอัฐ ณรงค์ฤทธิ์ ประธานหอการค้าจังหวัดประจวบฯ ดร.รุ่งโรจน์ สีเหลืองสวัสดิ์ นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวหัวหิน/ชะอำ ,สโมโสรโรตารีหัวหิน ตลอดจนหัวหน้าส่วนราชการ ผู้ประกอบการธุรกิจ ร่วมพิธีเปิดเป็นจำนวนมาก

นายอลงกรณ์ พลบุตร รมช.พาณิชย์ กล่าวในระหว่างเปิดสำนักงานพัฒนาธุรกิจการค้าฯ สาขาหัวหิน ว่าอำเภอหัวหินเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจที่สำคัญของจังหวัดประจวบฯ ซึ่งมีสถานประกอบการตั้งอยู่เป็นจำนวนมาก และยังเป็นอำเภอที่มีปริมาณงานมากเป็นลำดับหนึ่งของจังหวัด ประกอบกับระยะทางจากหัวหินไปยังสำนักงานพัฒนาธุรกิจการค้าจังหวัดประจวบฯอยู่ห่างกันถึง 100 กม. ทำให้ผู้ประกอบการและประชาชนเดินทางไปไม่สะดวกเสียเวลาในการไปติดต่อราชการ ทางกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์
 
จึงจัดตั้งสาข่อยขึ้นที่หัวหิน เพื่ออำนวยความสะดวกในการให้บริการแก่ผู้ประกอบการและประชาชนทั่วไป ซึ่งจะเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยผลักดันให้ประเทศไทยเป็นประเทศที่ง่ายต่อการประกอบการธุรกิจมากยิ่งขึ้น ที่ผ่านมากรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้ปรับปรุงกระบวนงานและพัฒนารูปแบบการจดทะเบียนมาโดยตลอด เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับ นักธุรกิจและผู้ประกอบการค้าทั้งหลาย ทั้งในส่วนราชการ เชื่อมโยงข้อมูลกับหน่วยงานพันธมิตรที่เกี่ยวข้องกับการเริ่มต้น ประกอบธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นกรมสรรพากร สำนักงานประกันสังคม หรือหน่วยงานอื่นที่จะต้องขยายเครือข่ายต่อไปอีกในอนาคต ซึ่งในวันเดียวกันนี้นอกจากเปิดสาขาที่หัวหินแล้ว ยังมีที่ เกาะสมุย,แม่สอด และพัทยาอีกด้วย

รมช.พาณิชย์ กล่าวอีกว่าจังหวัดประจวบคีรีขันธ์มีผู้ประกอบการที่จดทะเบียนบุคคลประเภทต่างๆและยังคงดำเนินการอยู่จนถึงสิ้นปี 2553 มีจำนวน 4,274 รายทุนจดทะเบียนรวม 46,456.39 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่เป็นธุรกิจประเภทอสังหาริมทรัพย์ รองลงมาคือธุรกิจโรงแรม และในปี 2553 มีการจดทะเบียนนิติบุคคลตั้งใหม่รวม 384 ราย เพิ่มขึ้นจากปี 2552 ร้อยละ 15.32% ทุนจดทะเบียน 718.86 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2552 ร้อยละ 23.02 นับเป็นตัวเลขที่แสดงออกถึงความเจริญเติบโตของธุรกิจท่องเที่ยวและธุรกิจในภาพรวมของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์