จันทบุรี-ทหารพรานนาวิกโยธินร่วมกับผู้ใหญ่บ้าน ในอำเภอชายแดนเมืองจันท์ ตรวจจับการลักลอบตัดไม้เถื่อนกว่า 200 ไร่
วันนี้ (1 เม.ย.54) น.ท.เทพประทาน เข่งเจริญ หัวหน้าชุดควบคุมทหารพรานนาวิกโยธินที่ 2 อ.สอยดาว จ.จันทบุรี (ชค.ทพ.นย.ที่ 2) พร้อมด้วย น.ท.ประหยัด คำรุ้ง รองหัวหน้าชุดควบคุมทหารพรานนาวิกโยธินที่ 2 นำกำลังอาสาสมัครทหารพรานนาวิกโยธิน จากชุดควบคุมทหารพรานนาวิกโยธินที่ 2 และนายกฤษณะ วงศ์ศิริ ผู้ใหญ่บ้านหมู่บ้านป่าข้าวโพด หมู่ 2 ต.สะตอน อ.สอยดาว ทำการตรวจสอบการลักลอบตัดไม้ในบริเวณสวนลำไยและไร่มันสำประหลัง ไม่มีเลขที่ หมู่บ้านป่าข้าวโพด หมู่ 2 ต.สะตอน อ.สอยดาว
พบไม้ประดู่ ไม้แดง ไม้สะแกแสง ไม้ฟ่าว ไม่ต่ำกว่า 300 ท่อน เส้นผ่าศูนย์กลางตั้งแต่ 50 นิ้วไปจนถึงกว่า 1 เมตร อายุตั้งแต่ 50 - 100 ปี โดยต้นประดู่บางต้น พบมีขนาดใหญ่กว่า 1 คนโอบ หรือเส้นผ่าศูนย์กลางกว่า 1 เมตร ทั้งนี้ไม้ทั้งหมดถูกตัดเป็นท่อน ตั้งแต่ความยาว 1 เมตร 20 เซนติเมตร - 1 เมตร 50 เซนติเมตร รวมทั้งมีทั้งฝังในดินเพื่อตบตาเจ้าหน้าที่ และกองไว้บนดิน โดยมีการลอบตัดไม้กระจัดกระจายอยู่บนผืนดินกว่า 200 ไร่
นอกจากนั้น ยังพบตอไม้ทั้งเล็กทั้งใหญ่นับร้อยตอกระจายอยู่เต็มที่พื้นที่ดังกล่าว ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบพื้นที่ที่มีการลอบตัดไม้ พบว่ามีเขา 4 ลูกโอบล้อมพื้นที่ แต่ละลูกยังมีสภาพความอุดมสมบูรณ์ของป่าไม้ ขณะเดียวกันพื้นที่ที่มีการลักลอบตัดไม้พบว่า มีการปรับพื้นที่เพื่อทำสวนผลไม้ ไร่มันสำประหลัง มีการตัดทางและขุดสระน้ำขนาดใหญ่ด้วย
นายกฤษณะ ให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ว่าพื้นที่มีการตัดไม้ เป็นพื้นที่ บภท.5 ไม่มีเอกสารสิทธิ์ใด ๆ ทั้งสิ้น ไม้ทั้งหมดมีการตัดมานานแล้ว โดยก่อนหน้านี้เมื่อประมาณเดือน ส.ค. 53 ที่ผ่านมา พื้นที่ดังกล่าวยังมีความอุดมสมบูรณ์เป็นป่าไม้ มีไม้ต่าง ๆ ที่มีการตัดในครั้งนี้กระจัดกระจายอยู่ทั่วไป แต่หลังจากนั้นความสมบูรณ์ของพื้นที่นี้ก็กลายเป็นสภาพโล่งเตียน มีไม้ต่าง ๆ ถูกตัดอย่างที่เห็น
นายกฤษณะ ให้ข้อมูลต่อไปว่า ในการลอบตัดไม้ครั้งนี้ พบว่า มีรถแบ็คโฮ 1 คัน ทำการขุดหลุมเพื่อฝังไม้ที่ตัด แต่ปรากฏว่า ได้มีเจ้าหน้าที่บางหน่วยงานในพื้นที่ ซึ่งไม่ใช่ทหารพรานนาวิกโยธิน เข้ามาทำการตรวจสอบการตัดไม้ และสั่งปล่อยรถแบ็กโฮไป ไม่ยอมยึดเป็นของกลาง ซึ่งตนได้รายงานให้นายโสภณ เนื่องจำนงค์ นายอำเภอสอยดาว ได้รับทราบแล้ว
ด้าน น.ท.เทพประทาน เปิดเผยว่า การตัดไม้มีความผิดตามกฎหมาย เนื่องจากเป็นไม้หวงห้าม ซึ่งจะทำการประสานเจ้าหน้าที่หน่วยงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องมาดำเนินการต่อไป ส่วนเจ้าของพื้นที่ที่มีการตัดไม้ เบื้องต้นทราบว่า เป็นเจ้าของกิจการรับซื้อผลไม้รายหนึ่ง แต่ไมยอมรับว่า มีส่วนรู้เห็นในการตัดไม้ครั้งนี้ ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ก็จะมีการหาหลักฐานเพิ่มเติมเพื่อหาผู้กระทำผิดให้ได้ต่อไปอีกด้วย