ตร.จับดีเจดังทุ่งช้างเมืองน่าน เชื่อก่อเหตุฆ่าชิงทรัพย์

น่าน- จับดีเจดังทุ่งช้าง เมืองน่าน เจอข้อหาฆาตกรรมชิงทรัพย์ ตำรวจควานหาหลักฐานนาน 6 เดือน ก่อนยื่นขอหมายจับ เบื้องต้นผู้ต้องหาปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา อ้างเป็นแพะ

พ.ต.อ.ภาณุเดช บุญเรือง รอง ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ และในฐานะ หน.สนง.ผบช.ภาค 5 ได้เดินทางมาจังหวัดน่าน เพื่อเข้าร่วมสอบสวนคดีฆาตกรรมสำคัญสะเทือนขวัญประชาชน ร่วมกับ พ.ต.อ.สิริภพ สังข์ดิษฐ์ รอง ผบก.ภ.จว.น่าน ที่ห้องประชุมตำรวจภูธรจังหวัดน่าน วานนี้(29 มี.ค.54) หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนคดีอาญาเฉพาะกิจภาค 5, ชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดน่าน และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ทุ่งช้าง ติดตามและรวบรวมพยานหลักฐานกว่า 6 เดือน เพื่อขอให้ศาลจังหวัดน่านสาขาปัว ออกหมายจับ นายเอกวรรณ สิงห์ธนะ หรือดีเจลองจาม ดีเจดังแห่งคลื่นวิทยุชุมชนแห่งหนึ่งในอำเภอทุ่งช้าง จังหวัดน่าน เหตุคดีฆาตกรรมนางเกียบ วัดคำ อายุ 59 ปี อยู่บ้านเลขที่ 103 ม.1 ต.ทุ่งช้าง อ.ทุ่งช้าง จ.น่าน เมื่อวันที่ 23 กันยายน 2553 ที่ผ่านมา

พ.ต.อ.ภาณุเดชเปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 23 กันยายน 2553 เวลาประมาณ 19.00 น. สภ.ทุ่งช้าง ได้รับแจ้งพบศพนางเกียบ วัดคำ อายุ 59 ปี อยู่บ้านเลขที่ 103 หมู่ 1 ต.ทุ่งช้าง อ.ทุ่งช้าง จ.น่าน นอนเสียชีวิตอยู่ภายในบ้านพักสภาพศพอืดเน่า เปลือยด้านล่าง ถูกมัดด้วยเชือกฟาง และทรัพย์สินผู้ตายหายไปหลายรายการ ประกอบด้วย สร้อยคอทองคำ จำนวน 1 เส้น สร้อยแขนทองคำ จำนวน 2 เส้น กระเป๋าสะพาย 1 ใบ โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง และสมุดจดบัญชีรายชื่อลูกหนี้กู้ยืมเงินอีก 1 เล่ม

โดยในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่าเป็นฆ่าข่มขืนและชิงทรัพย์ เนื่องจากสภาพศพเปลือยลักษณะคล้ายถูกข่มขืนและมีทรัพย์สินหาย แต่หลังการชันสูตรพลิกศพไม่พบร่องรอยการข่มขืน เจ้าหน้าที่จึงเชื่อว่าต้องการเป็นฆ่าชิงทรัพย์ และคาดว่าคนร้ายต้องเป็นบุคคลใกล้ชิดที่ผู้ตายไว้วางใจสามารถเข้าออกในบ้านได้เป็นอย่างดี เนื่องจากไม่พบร่องรอยการงัดแงะ โดยผู้ก่อเหตุหลังลงมือฆ่าได้อำพรางสภาพศพให้คล้ายกับถูกข่มขืนเพื่อเบี่ยงประเด็นความสนใจให้ยากต่อการสืบสวนสอบสวน ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องใช้เวลาลงพื้นที่หาพยานบุคคล และได้พบหลักฐานสำคัญ

โดยเฉพาะหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ และข้อมูลที่ประชาชนแจ้งเบาะแสที่เป็นประโยชน์ ทำให้เชื่อได้ว่านายเอกวรรณ สิงห์ธนะ หรือดีเจลองจาม เป็นผู้ก่อเหตุในคดีฆาตกรรมสะเทือนขวัญนี้ จึงได้ตั้งข้อกล่าวหาในความผิดฆ่าผู้อื่นเพื่อสะดวกในการกระทำผิดอย่างอื่น ชิงทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และทำให้เสียทรัพย์ ทำลาย ซ่อนเร้น เอาไปเสียหรือทำให้สูญหายหรือไร้ประโยชน์ซึ่งเอกสารของผู้อื่น ยื่นขออำนาจศาลจังหวัดน่าน สาขาปัว ออกหมายจับนายเอกวรรณได้ในบ้านพัก โดยผู้ต้องหามิได้หลบหนี แต่ได้ปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา

อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจมั่นใจในพยานหลักฐานที่พบว่าจะสามารถเอาผิดผู้ต้องหาได้ ส่วนผู้ต้องหาจะปฏิเสธเป็นสิทธิ และหากผู้ต้องหาจะใช้สิทธิในการขอประกันตัวก็สามารถทำได้ แต่พนักงานสอบสวนจะพิจารณาตามหลักเกณฑ์ว่าจะคัดค้านการประกันตัวหรือไม่

ส่วนนายเอกวรรณ สิงห์ธนะ หรือดีเจลองจาม ผู้ต้องหาตามหมายจับศาล ได้ให้การปฏิเสธและไม่ตอบคำถามใดๆ กล่าวแต่ว่าตนเองเป็นแพะในคดีนี้