สุรินทร์ - ด่านศุลกากรช่องจอม ยันไม่พบการลักลอบขน “มะนาว” เขมร เข้าไทย ตามที่ “รมช.พาณิชย์” ระบุ มีการลอบนำเข้าด้านชายแดนอีสานแทนภาคตะวันออกทำเกษตรกรไทยเดือดร้อน ชี้ มีแต่พ่อค้าไทยน้ำมะนาวไปขายตลาดชายแดน อีกทั้งไม่พบ จว.ชายแดนเขมรปลูกมะนาวขาย เผย มูลค่าค้าชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านด่านช่องจอม 5 เดือนไทยส่งออก 251 ล้านนำเข้า 19 ล้าน
วันนี้ (25 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีที่ นายอลงกรณ์ พลบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ออกมาระบุว่า ขณะนี้รัฐบาลสามารถสกัดการลักลอบนำเข้ามะนาวทางด้นชายแดนด้านตะวันออกแล้วได้แต่ยังมีการลักลอบนำเข้ามะนาวทางด้านชายแดนพื้นที่ภาคอีสานแทน
เช่น ที่ด่านช่องจอม จ.สุรินทร์, ช่องสะงำ จ.ศรีสะเกษ และ ช่องเม็ก จ.อุบลราชธานี ส่งผลให้เกษตรกรชาวสวนมะนาวไทย ได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก นั้น ผู้สื่อข่าวจึงได้ลงพื้นที่ติดตามข้อมูลการนำมะนาวจากประเทศกัมพูชาเข้ามาจำหน่ายที่ตลาดชายแดนช่องจอม อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ ซึ่งต้องผ่านด่านศุลกากรช่องจอม อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์
นางอรวรรณ บุญสร้าง นักวิชาการศุลกากร ชำนาญการ รักษาราชการแทนนายด่านศุลกากรช่องจอม เปิดเผยยืนยันว่า ไม่พบข้อมูลการนำเข้ามะนาวเพื่อการค้าจากกัมพูชาทางด้านด่านผ่านแดนถาวรไทย-กัมพูชา ช่องจอม-โอร์เสม็ดแต่อย่างใด โดยสินค้าที่นำเข้าหลักส่วนใหญ่ จะเป็น เสื้อผ้าเก่ามือสอง, รถจักรยานมือสอง, อะไหล่เลื่อยยนต์เล็ก, น้ำมันยางและหวาย พร้อมทั้งสินค้าผลผลิตการเกษตรที่หาได้ตามฤดูกาล เช่น เห็ด, หน่อไม้, มะม่วง, ผักหวานป่า เป็นต้น
ขณะที่สินค้าส่งออกด้านการค้า เช่น น้ำมันดีเซล ซึ่งนานครั้งจะมีการขนส่งผ่านด้านนี้ รวมทั้งเครื่องดื่มต่างๆ นอกจากนั้น ส่วนมากจะเป็นของอุปโภคบริโภค ที่ชาวกัมพูชามักข้ามแดนเข้ามาซื้อเพื่อไปขายต่อและเพื่อปรุงอาหารในชุมชนของกัมพูชาในทุกวันเท่านั้น
ส่วนกรณีของมะนาวที่มีการกล่าวอ้างว่า มีการลักลอบนำเข้ามาจำหน่ายผ่านด่านช่องจอม จากการตรวจสอบกับเจ้าหน้าที่ ทั้งตรวจคนเข้าเมือง ศุลกากร ตำรวจและทหาร ซึ่งได้ตั้งจุดปฏิบัติการร่วมเพื่อตรวจค้นสินค้าและสิ่งผิดกฎหมายที่บริเวณหน้าจุดผ่านแดนถาวรช่องจอม-โอร์เสม็ด นั้น ก็ไม่พบว่ามีการขนมะนาวบรรจุถุงจำนวนมากเข้ามา และไม่พบว่า ในพื้นที่ จ.อุดรมีชัย กัมพูชา ตรงข้าม จ.สุรินทร์ มีการปลูกสวนมะนาวเพื่อการค้าอีกด้วย
“หากมีการลักลอบนำมะนาวเข้าไทยน่าจะเป็นพื้นที่อื่นมากกว่า ซึ่งการค้าขายมะนาวและพืชผักต่างๆ ที่บริเวณตลาดการค้าชายแดนช่องจอมก็มีเช่นกันแต่เป็นมะนาวของพ่อค้าแม่ค้าชาวไทยที่นำมาขายเท่านั้น ส่วนพ่อค้าแม่ค้ากัมพูชา จะนำพืชผักของป่าต่างๆ มาขายเป็นส่วนใหญ่” นางอรวรรณ กล่าว
นางอรวรรณ กล่าวอีกว่า สำหรับมะนาว เป็นสิ่งต้องห้ามตาม พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) กักพืช พ.ศ.2507 หากมีการขนข้ามแดนมาเจ้าหน้าที่ต้อวตรวจสอบและกักไว้เพื่อให้ผู้ที่นำเข้านำหลักฐานมาแสดง ประกอบด้วย หลักฐานใบรับรองจากกัมพูชา ว่า มะนาวปลอดภัยจากโรคศัตรูพืชต่างๆ และต้องแจ้งให้ด่านตรวจพืช จ.อุบลราชธานี มาตรวจสอบก่อนขอใบอนุญาตนำสิ่งต้องห้ามเข้ามาในราชอาณาจักรเพื่อการค้าตาม พ.ร.บ.กักพืช พ.ศ.2507
แต่ที่ผ่านมาไม่พบมีการนำเข้ามาแต่อย่างใด ส่วนการนำเข้าเล็กๆ น้อยๆ มาเพื่อบริโภคก็เห็นอยู่เป็นประจำและการนำมาจำหน่ายก็อยู่ในจำนวนที่น้อยมากหรือแทบไม่มีเลย ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ตรวจสอบตลอดเวลาอยู่แล้ว
ทั้งนี้ จากสถิติข้อมูลล่าสุด สินค้านำเข้า10 อันดับแรกของด่านศุลกากรช่องจอม ระหว่างต.ค. 53-ก.พ.54 คือ อะไหล่เลื่อย, น้ำมันยาง, รถบรรทุกเก่าใช้แล้ว, ชัน, หวายเส้น, เสื้อผ่าเก่าใช้แล้ว, รถจักรยานเก่าใช้แล้ว, โพลิเมอร์เอทิลีน, รถบดถนนเก่าใช้แล้ว, ท่อไร้ตะเข็บทำด้วยแสตนเลส ใช้ทำเข็ม และอื่นๆ มูลค่านำเข้ารวม 19,337,371.82 บาท
ส่วนสินค้าส่งออก 10 อันดับแรก คือ น้ำมันเชื้อเพลิง, ปูนซีเมนต์, วิสกี้, เบียร์, แพล้นผสมปูน, ก๊าซ LPG, เครื่องดื่มน้ำอัดลม, นมข้นหวาน, บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป, เครื่องดื่มน้ำผลไม้ และอื่นๆมูลค่าส่งออก 251,750,365.46 บาท