xs
xsm
sm
md
lg

พิษแผ่นดินไหวทำ “ลูกหมากเจดีย์หลวง 667 ปี” หัก-ฉัตรพระธาตุจอมกิตติ บิดงอ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เชียงราย - พบ “ลูกหมาก” พระธาตุเจดีย์หลวงเชียงแสนอายุ 667 ปี หักโค่นกระทบพระธาตุองค์เล็กเสียหาย ขณะที่ยอดฉัตรพระธาตุจอมกิตติ บิดงอ ผิดรูป ชี้ไปทางทิศตะวันตก ด้าน “ระฆังวัดดอยเวา-อาคารสมเด็จย่า รพ.เชียงราย” ร้าว หลังเกิดแผ่นดินไหว 6.7 ริกเตอร์ในพม่า และอาฟเตอร์ช็อกต่อเนื่องจนถึงเช้าวันนี้ (25 มี.ค.)

รายงานข่าวจาก จ.เชียงราย แจ้งว่า จากกรณีเกิดแผ่นดินไหวโดยมีศูนย์กลางอยู่ในเขตประเทศพม่าห่างจากชายแดนไทย-พม่า ด้าน อ.แม่สาย ไปทางทิศเหนือประมาณ 56 กิโลเมตร ความแรงตามมาตราวัดริกเตอร์ 6.7 ริกเตอร์ จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 1 รายที่ อ.แม่สาย และอาคารหลายแห่งได้รับความเสียหายนั้น

ล่าสุด ช่วงเช้าวันนี้ (25 มี.ค.) ยังมีอาฟเตอร์ช็อกขึ้นอีกเมื่อเวลาประมาณ 07.22 น.วัดความแรงได้ 4.9 ริกเตอร์ หลังจากคืนที่ผ่านมาได้เกิดอาฟเตอร์ช็อกหลายครั้ง และมีความแรงใกล้เคียงกับครั้งแรก 2 ครั้ง คือ 5.3 ริกเตอร์และ 4.9 ริกเตอร์ รวมทั้งมีระลอกเล็กๆ ตามมาอีกหลายครั้ง

สำหรับความเสียหายในพื้นที่ พบว่า ที่เขตเมืองประวัติศาสตร์เชียงแสน ที่วัดพระธาตุเจดีย์หลวง เขตเทศบาล ต.เวียงเชียงแสน อ.เชียงแสน พบว่า ส่วนปลายของยอดเจดีย์ตั้งแต่ระวังคว่ำด้านบนสุดได้หักโค่นลงมาและกระทบกับเจดีย์เล็กที่ตั้งอยู่ใกล้ฐานของพระธาตุเจดีย์หลวง ซึ่งตั้งอยู่ทางฝั่งทิศตะวันออก จนทำให้แตกหักทั้งยอดเจดีย์และพระธาตุองค์เล็ก ขณะที่ตรงส่วนยอดที่เหลือของพระธาตุเจดีย์หลวงได้บิดงอไปทางทิศตะวันตก รวมทั้งมีร่องรอยแตกร้าวหลายแห่ง โดยเฉพาะข้างเจดีย์ด้านทิศตะวันออก เกิดการพังทลายของอิฐและคอนกรีตฉาบด้านนอกเป็นโพรงขนาดใหญ่

ร.ต.ต.สุดใจ เชื้อเจ็ดตน อายุ 70 ปี ผู้เฒ่าผู้แก่ของเมืองเชียงแสน กล่าวว่า ตรงส่วนที่หักลงมาเรียกว่า “ลูกหมาก” หรือ “บัวหมาก” ซึ่งเป็นส่วนที่ตั้งอยู่เหนือฐานระฆังคว่ำไปจนถึงส่วนยอดสุด ที่เรียกว่า “ยอดปลี” โดยกรณีของยอดปลีนั้นไม่มีฉัตรเหมือนวัดพระธาตุจอมกิตติ ได้ตกลงมาพร้อมลูกหมากจนแตกละเอียดหมดแล้ว ส่วนตัวลูกหมากปกติจะมี 9 ข้อแต่ละข้อห่างกัน 2-3 ศอกพบว่าได้หักโค่นลงมา 6 ข้อครึ่ง จึงเหลือที่ค้างอยู่ตรงฐานระฆังคว่ำประมาณ 2 ข้อครึ่งและยังมีลักษณะเอียงตั้งแต่ฐานระฆังขึ้นไปอีกด้วย

ทั้งนี้ ตนเชื่อว่า เกิดจากแผ่นดินไหวที่ทำให้เกิดแรงเหวี่ยง 2 ครั้งติดต่อกัน โดยยอดเจดีย์ได้เหวี่ยงไปทางทิศตะวันออกและกลับมาทางทิศตะวันตกทำให้เกิดรอยแตกจนหักโค่นดังกล่าว

นายพลภพ มานะมนตรีกุล นายกเทศมนตรี ต.เวียงเชียงแสน กล่าวว่า ความยาวของยอดพระธาตุเจดีย์หลวงที่หักโค่นลงมามีความยาวประมาณ 7 เมตร จึงได้กันพื้นที่เอาไว้ เพื่อรอให้เจ้าหน้าที่กรมศิลปากรเข้าไปบูรณะซ่อมแซมต่อไป ซึ่งสิ่งที่น่าเสียใจคือนอกจากยอดเจดีย์จะหักโค่นลงมาแล้วยังไปตกกระทบกับเจดีย์เล็กที่อยู่ใต้ลงมาทำให้เสียหายเพิ่มเติมอีกด้วย

สำหรับพระธาตุเจดีย์หลวงเป็นโบราณสถานที่เป็นเจดีย์ทรงระฆังแบบล้านนาที่มีขนาดใหญ่มากที่สุดในเชียงแสน โดยความสูง 88 เมตร และฐานกว้าง 24 เมตร มีอายุเก่าแก่ประมาณ 667 ปีสร้างโดยพระเจ้าแสนภู ซึ่งเป็นพระราชนัดดาของพ่อขุนเม็งรายมหาราช ปฐมกษัตริย์แห่งอาณาจักรล้านนาเมื่อปี พ.ศ.1887

รายงานข่าวแจ้งต่อว่า ภายหลังเกิดเหตุทางเจ้าหน้าที่สำนักงานศิลปากรภาค 8 ร่วมกับทางวัดพระธาตุเจดีย์หลวงได้กันพื้นที่ดังกล่าวเอาไว้ เพื่อจะได้เข้าไปบูรณะซ่อมแซมต่อไป

ทั้งนี้ ทางกรมศิลปากรเคยบูรณะโบราณสถานในเขต อ.เชียงแสน อย่างหนักเมื่อหลายปีก่อนจึงทำให้ความเสียหายน้อยลง อย่างไรก็ตาม เนื่องจากครั้งนี้แผ่นดินไหวมีความรุนแรงเกินคาดทำให้เกิดความเสียหายดังกล่าว โดยในส่วนของยอดพระธาตุเจดีย์หลวงที่ตกลงมายังพบแท่งเหล็กที่ทางเจ้าหน้าที่ได้นำไปบูรณะเพื่อให้ความคงทนอยู่ด้วย

สำหรับความเสียหายจุดอื่นๆ พบว่า ที่ส่วนยอดฉัตรของพระธาตุจอมกิตติ ที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงกัน ซึ่งเป็นโลหะฉัตรหลายชั้นได้งอเอียงไปทางทิศตะวันตกอย่างเห็นได้ชัดแต่ยังไม่หักโค่นลงมา เหมือนเหตุการณ์เมื่อเดือน พ.ค.2550 ซึ่งเกิดแผ่นดินไหวในลักษณะเดียวกันจนหักโค่นลงมา

ส่วนที่หอระฆังวัดดอยเวา อ.แม่สาย พบมีการแตกร้าว เช่นเดียวกับโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ตรงอาคารสมเด็จย่าและอาคารเฉลิมพระเกียรติ ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นอาคารสำหรับเด็กทารก ได้มีการแตกร้าวหลายแห่งจนต้องอพยพผู้ป่วยลงไปนอนด้านล่าง รวมทั้งเจ้าหน้าที่พยาบาลบางหน่วยก็จัดทำสำนักงานชั่วคราวนอกอาคารด้วย

รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า จังหวัดได้ประสานขอกำลังเจ้าหน้าที่ อส.ฝ่ายปกครองและทหารจากค่ายเม็งรายมหาราช ออกไปดูแลตามท้องที่ต่างๆ เพื่อช่วยเหลือหน่วยงานและประชาชน เนื่องจากมีอาคารของสำนักงานส่วนราชการและบ้านเรือนประชาชนหลายแห่งเกิดแตกร้าวหลายแห่ง แต่ยังไม่รุนแรงถึงขั้นเสียหายทั้งหลัง

ส่วนที่บ้านเลขที่ 19 หมู่ 10 ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย ญาติได้ตั้งศพ นางหงส์ คำปิง อายุ 55 ปี เพื่อบำเพ็ญกุศลทางศานาที่บ้านผู้ตาย โดย นางหงส์ เสียชีวิตจากเหตุแผ่นดินไหวคืนที่ผ่านมา (24 มี.ค.) เพราะผนังคอนกรีตของบ้านล้มทับขณะนอนอยู่ในบ้าน ซึ่งทางสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้เข้าไปตรวจสอบเพื่อให้การช่วยเหลือในฐานะผู้ประสบภัยพิบัติทางธรรมชาติแล้ว







กำลังโหลดความคิดเห็น