ศูนย์ข่าวศรีราชา - โจรพัทยากร่างหนัก แค่นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษขับรถจักรยานยนต์ ปาดหน้าถูกติดตามเข้ามารุมทำร้ายก่อนชิงทรัพย์สินหลบหนีลอยนวล
วันนี้ (24 มี.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรเมืองพัทยา รุดไปตรวจสอบภายในซอยนกเขา พัทยากลาง เขตเมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี หลังได้รับแจ้งมีนักท่องเที่ยวต่างชาติถูกชายไทยจำนวนหลายคนเข้ามารุมทำร้าย ก่อนชิงทรัพย์สินหลบหนีไปได้หลายรายการ พบมิสเตอร์ แกลรี่ เบิร์น อายุ 60 ปี สัญชาติอังกฤษ ผู้เสียหาย ซึ่งให้การว่าก่อนเกิดเหตุได้ออกจากที่พักภายในซอยเนินพลับหวาน พัทยากลาง เพื่อไปทำธุระที่พัทยาใต้
โดยขณะขับรถจักรยานยนต์ผ่านมายังจุดเกิดเหตุ รถเกิดไปเบียดปาดหน้ารถตู้คันหนึ่งที่วิ่งมาบนเส้นทางเดียวกันเข้า แต่ก็ไม่ได้คิดอะไร จึงได้ขับรถไปตามปกติ
แต่ในระหว่างทางรถตู้คันดังกล่าวพร้อมกับรถยนต์กระบะสีเขียวอีก 1 คัน ได้ขับรถติดตามมาก่อนที่ชายไทยจำนวน 7 คน และหญิงไทยอีก 1 คน จะพากันเข้ามารุมทำร้ายและชิงเอาถุง พลาสติกขนาดเล็กที่ใส่ทรัพย์สินเอาไว้ซึ่งเป็นเงินสด 5,000 บาท และเอกสารสำคัญจำนวนหนึ่งก่อนพากันขับรถหลบหนีไป
ทั้งนี้ ทราบว่า หมายเลขทะเบียนของรถตู้คันดังกล่าวเป็นหมายเลข ฮอ-8622 กรุงเทพมหา นคร เจ้าหน้าที่จึงได้วิทยุแจ้งให้กำลังอาสาสมัครออกสกัดจับทุกเส้นทาง แต่ก็ไม่พบรถที่ก่อเหตุแต่อย่างใด
วันนี้ (24 มี.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรเมืองพัทยา รุดไปตรวจสอบภายในซอยนกเขา พัทยากลาง เขตเมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี หลังได้รับแจ้งมีนักท่องเที่ยวต่างชาติถูกชายไทยจำนวนหลายคนเข้ามารุมทำร้าย ก่อนชิงทรัพย์สินหลบหนีไปได้หลายรายการ พบมิสเตอร์ แกลรี่ เบิร์น อายุ 60 ปี สัญชาติอังกฤษ ผู้เสียหาย ซึ่งให้การว่าก่อนเกิดเหตุได้ออกจากที่พักภายในซอยเนินพลับหวาน พัทยากลาง เพื่อไปทำธุระที่พัทยาใต้
โดยขณะขับรถจักรยานยนต์ผ่านมายังจุดเกิดเหตุ รถเกิดไปเบียดปาดหน้ารถตู้คันหนึ่งที่วิ่งมาบนเส้นทางเดียวกันเข้า แต่ก็ไม่ได้คิดอะไร จึงได้ขับรถไปตามปกติ
แต่ในระหว่างทางรถตู้คันดังกล่าวพร้อมกับรถยนต์กระบะสีเขียวอีก 1 คัน ได้ขับรถติดตามมาก่อนที่ชายไทยจำนวน 7 คน และหญิงไทยอีก 1 คน จะพากันเข้ามารุมทำร้ายและชิงเอาถุง พลาสติกขนาดเล็กที่ใส่ทรัพย์สินเอาไว้ซึ่งเป็นเงินสด 5,000 บาท และเอกสารสำคัญจำนวนหนึ่งก่อนพากันขับรถหลบหนีไป
ทั้งนี้ ทราบว่า หมายเลขทะเบียนของรถตู้คันดังกล่าวเป็นหมายเลข ฮอ-8622 กรุงเทพมหา นคร เจ้าหน้าที่จึงได้วิทยุแจ้งให้กำลังอาสาสมัครออกสกัดจับทุกเส้นทาง แต่ก็ไม่พบรถที่ก่อเหตุแต่อย่างใด
