xs
xsm
sm
md
lg

“ตร.ภ.3” รวบอีกแก๊งขนกัญชาของกลางอื้อ 100 กก.-เผยสถิติยอดจับสูงอันดับ 2 ของประเทศ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พล.ต.ท.เดชาวัต รามสมภพ  ผบช.ภ.3 และคณะ แถลงข่าว ตำรวจภูธรภาค 3 สกัดจับแก๊งขนกัญชารายใหญ่ได้ผู้ต้องหา 3 ราย พร้อมของกลางร่วม 100 กก. วันนี้ (24 มี.ค.)
ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - ตำรวจภาค 3 รวบอีก แก๊งขนกัญชารายใหญ่ได้ผู้ต้องหา 3 ราย พร้อมของกลางอื้อ 100 กก.รถตู้ 2 คัน เงินสดอีก 1 แสน ขณะลำเลียงส่งเข้า กทม.โดยซุกซ่อนไว้ใต้ช่องไฟหลังคารถตู้ สารภาพรับจ้างขนกัญชานำเข้าจาก สปป.ลาว เที่ยวละกว่า 1.5 แสน ทำมาแล้ว 2 ครั้ง “ผบช.ภ.3” ระบุสถิติในรอบ 3 เดือน 8 จว.อีสานใต้ จับกุมคดียาเสพติด 13,000 ราย มากเป็นอันดับ 2 ของประเทศ พร้อมสั่งเพิ่มความเข้มปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย

วันนี้ (24 มี.ค.)เมื่อเวลา 11.00 น.ที่หน้ากองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 อ.เมือง จ.นครราชสีมา พล.ต.ท.เดชาวัต รามสมภพ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 (ผบช.ภ.3) พร้อมด้วย พล.ต.ต.กรกต สาริยา รองผบช.ภ.3 และ พ.ต.อ.วชิรวิญช์ กฤษณ์ฤทธิศักย์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (รองผบก.ภ.จว.) นครราชสีมา ร่วมกันแถลงผลการจับกุมผู้ค้ายาเสพติดรายสำคัญได้ผู้ต้องหารวม 3 ราย คือ นายวีรชน หรือ รัก มัยวงศ์ อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 290 ม. 2 ต.นาเดื่อ อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม, นายคำล้อม แก้วปีลา อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 55 หมู่ 8 ต.นาเดื่อ อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม และ นายจรวด เรืองสุขสุด อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 41 ม. 6 ต.กุดแข้ อ.เมือง จ.มุกดาหาร

พร้อมของกลางกัญชาแห้งอัดแท่งจำนวน 98 แท่ง น้ำหนักรวม 98 กิโลกรัม รวมมูลค่ากว่า 980,000 บาท, รถยนต์ตู้ยี่ห้อโตโยต้าจำนวน 2 คัน โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง เงินของกลางจำนวน 100,000 บาท

ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 3 สืบทราบว่า จะมีการลักลอบขนยาเสพติดผ่านเข้ามาในพื้นที่ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา จึงตั้งด่านตรวจสกัดที่บริเวณส่วนป่าบ้านท่างอย ต.หนองสาหร่าย อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา พบรถยนต์ตู้ต้องสงสัยตามที่สายรายงาน จึงขอเข้าตรวจค้น รถคันดังกล่าวมี นายจรวด เรืองสุขสุด เป็นคนขับ และพบกัญชาแห้งอัดแท่งซุกซ้อนไว้ช่องไฟด้านบนของรถตู้รวมจำนวน 98 แท่ง เจ้าหน้าที่จึงจับกุมตัวและทำการสอบสวน

นายจรวด เรืองสุขสุด คนขับรถ สารภาพว่า ได้รับจ้างขนยาเสพติดดังกล่าวไปส่งให้ลูกค้าที่กรุงเทพฯ โดยได้ค่าจ้างเที่ยวละ 30,000 บาท ซึ่งมี นายวีรชน และ นายคำล้อม ขับรถตู้นำหน้าเพื่อดูเส้นทาง เจ้าหน้าที่จึงติดตามจับกุมได้ห่างจากจุดเกิดเหตุไปประมาณ 2-3 กิโลเมตร (กม.)

นายวีรชน นายวีรชน หรือ รัก มัยวงศ์ ผู้ต้องหาอีกรายให้การรับสารภาพว่า ได้ค่าจ้างขนกัญชาจากนายทุนชาว สปป.ลาวในราคา 1.5 แสนบาท จึงมาแบ่งให้ลูกทีมเพื่อลำเลียงยาเสพติดไปส่งให้ลูกค้าที่กรุงเทพฯ ทำมาแล้ว 2 ครั้ง โดยกัญชาจำนวนดังกล่าวได้ขนมาทางเรือข้ามแม่น้ำโขงด้าน จ.นครพนม และซุกซ่อนในรถตู้ใช้เส้นทางลัดเลาะผ่านมาทาง จ.สกลนคร, กาฬสินธุ์, มหาสารคาม, อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น และ จ.นครราชสีมา ซึ่งมาถูกจับกุมได้ดังกล่าว

เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหา “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 5 (กัญชา) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย”และนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ปากช่องดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

พล.ต.ท.เดชาวัต รามสมภพ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 เปิดเผยว่า สถิติการจับกุมยาเสพติดในพื้นที่รับผิดชอบ 8 จังหวัดอีสานตอนล่างในระยะเวลากว่า 3 เดือน (ธ.ค.53-มี.ค.54) มีการยอดการจับกุมเกือบ 13,000 ราย เป็นอันดับ 2 ของประเทศ รองจากสำนักงานตำรวจนครบาล ส่วนใหญ่เป็นยาเสพติดที่ถูกลำเลียงมาจากนอกประเทศ ซึ่งในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 3 ผู้ค้ามักใช้เป็นเส้นทางลำเลียงยาเสพติด จากการข่าวยังไม่พบมีแหล่งผลิตในพื้นที่

“อย่างไรก็ตาม การทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจจากนี้ไปจะเพิ่มความเข้มข้นมากยิ่งขึ้นในการปิดล้อมตรวจค้นในพื้นที่เป้าหมาย เพื่อให้ผลการดำเนินงานมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นตามที่รัฐบาลตั้งเป้าหมายไว้” พล.ต.ท.เดชาวัต กล่าว

ซุกซ่อนกัญชาไว้ใต้หลังคารถตู้



กำลังโหลดความคิดเห็น