ตาก - ผู้ว่าฯ สั่งตั้งคณะกรรมการร่วม ตรวจสอบผู้ค้า-แผงลอยตลาดดอยมูเซอ ตัวจริง ก่อนจัดระเบียบแผงขายใหม่ตามโครงการปรับปรุงตลาด แก้ปัญหาถูกกลุ่มชาวเขารวมตัวประท้วง-ขวางโครงการ
รายงานข่าวจากจังหวัดตาก แจ้งถึงความคืบหน้ากรณี นายสามารถ ลอยฟ้า ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก จะจัดระเบียบและปรับปรุงตลาดชาวไทยภูเขาที่ดอยมูเซอ ด้วยงบประมาณ 7.2 ล้านบาท และได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ ตำรวจภูธร-ตำรวจตระเวนชายแดนตาก-อส.แม่สอด-ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) จำนวนกว่า 300 นาย เข้ารื้อถอนตลาดดอยมูเซอ ถนนสายตาก-แม่สอด ต.ด่านแม่ละเมา อ.แม่สอด เมื่อวานที่ผ่านมา
ทำให้ชาวไทยภูเขาเผ่ามูเซอส่วนหนึ่ง นำโดย นายจักรพงษ์ มงคลคีรี แกนนำผู้ประท้วง คัดค้าน พร้อมชาวบ้านมาชุมนุมต่อต้านและเกิดปะทะกับกำลัง จนท.ชุดรื้อถอน จนส่งผลทำให้เกิดความวุ่นวาย เนื่องจากกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าไม่พอใจเจ้าหน้าที่ พากันปิดล้อมประจันหน้ากับเจ้าหน้าที่จนไม่สามารถเข้าไปรื้อตลาดได้นั้น
ล่าสุด วันนี้ (23 มี.ค.) นายจักรพงษ์ มงคลคีรี แกนนำชาวเขาเผ่ามูเซอ พร้อมพ่อค้าแม่ค้า ชาวไทยภูเขา ที่ค้าขายในตลาดดอยมูเซอ จำนวนกว่า 300 คน ได้เดินทางเข้าพบนายสามารถ ลอยฟ้า ผวจ.ตาก เพื่อร้องขอความเป็นธรรม กรณีจัดแบ่งพื้นทีขายของ ตามโครงการปรับปรุงตลาดดอยมูเซอ ของจังหวัดตาก ที่ยังไม่ลงตัว
นายสามารถ กล่าวย้ำว่า โครงการพัฒนา ปรับปรุง ตลาดดอยมูเซอ เป็นโครงการของจังหวัดตาก ที่ต้องการปรับปรุงตลาดดอยมูเซอ ซึ่งเป็นร้านค้าตามโครงการของศูนย์สงเคราะห์และพัฒนาชาวเขา ให้ชาวไทยภูเขาได้นำผลผลิตทางการเกษตรมาจำหน่าย ให้กับนักท่องเที่ยว ประกอบด้วย ชาวไทยภูเขา เผ่ามูเซอ, ม้ง, ลีซอ ฯลฯ ที่ก่อสร้างมานาน ตั้งแต่ พ.ศ.2521 ชำรุดทรุดโทรม สกปรก ไม่เป็นระเบียบ มีการตั้งร้านค้ารุกล้ำ เข้ามาในเขตพื้นที่จอดรถและผิวถนน ไม่เป็นระเบียบ ไม่สวยงาม และยังก่ออันตราย ต่อผู้ใช้รถสัญจร
ดังนั้น จังหวัดตาก จึงมีโครงการที่จะปรับปรุงใหม่ ให้เป็นระเบียบสวยงาม เพื่อเป็นแหล่งที่นักท่องเที่ยวแวะมาซื้อของได้สะดวก แต่ก็มีปัญหาจำนวนพื้นที่ค้าขาย ไม่เพียงพอต่อจำนวนพ่อค้าแม่ค้า ทำให้ชาวเขาทั้ง 3 เผ่าไม่พอใจ จังหวัดได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบผู้ที่ค้าขายตัวจริง และผู้ที่แฝงหาผลประโยชน์ ประกอบด้วย ตัวแทนชาวเขา 3 เผ่า อบต.ด่านแม่ละเมา, สนง.โยธาธิการจังหวัด, นายอำเภอแม่สอด และทางจังหวัดตาก เป็นคณะกรรมการร่วมกันทำงานในการแก้ปัญหาในส่วนต่างๆ เพื่อให้โครงการสำเร็จลุล่วงด้วยดี
ส่วนชาวไทยภูเขาทั้ง 3 เผ่า ต่างพอใจแยกย้ายกันกลับบ้านและรอผลสรุปของคณะกรรมการชุดที่ฝ่ายปกครองจังหวัดตากตั้งขึ้นมา
รายงานข่าวจากจังหวัดตาก แจ้งถึงความคืบหน้ากรณี นายสามารถ ลอยฟ้า ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก จะจัดระเบียบและปรับปรุงตลาดชาวไทยภูเขาที่ดอยมูเซอ ด้วยงบประมาณ 7.2 ล้านบาท และได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ ตำรวจภูธร-ตำรวจตระเวนชายแดนตาก-อส.แม่สอด-ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) จำนวนกว่า 300 นาย เข้ารื้อถอนตลาดดอยมูเซอ ถนนสายตาก-แม่สอด ต.ด่านแม่ละเมา อ.แม่สอด เมื่อวานที่ผ่านมา
ทำให้ชาวไทยภูเขาเผ่ามูเซอส่วนหนึ่ง นำโดย นายจักรพงษ์ มงคลคีรี แกนนำผู้ประท้วง คัดค้าน พร้อมชาวบ้านมาชุมนุมต่อต้านและเกิดปะทะกับกำลัง จนท.ชุดรื้อถอน จนส่งผลทำให้เกิดความวุ่นวาย เนื่องจากกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าไม่พอใจเจ้าหน้าที่ พากันปิดล้อมประจันหน้ากับเจ้าหน้าที่จนไม่สามารถเข้าไปรื้อตลาดได้นั้น
ล่าสุด วันนี้ (23 มี.ค.) นายจักรพงษ์ มงคลคีรี แกนนำชาวเขาเผ่ามูเซอ พร้อมพ่อค้าแม่ค้า ชาวไทยภูเขา ที่ค้าขายในตลาดดอยมูเซอ จำนวนกว่า 300 คน ได้เดินทางเข้าพบนายสามารถ ลอยฟ้า ผวจ.ตาก เพื่อร้องขอความเป็นธรรม กรณีจัดแบ่งพื้นทีขายของ ตามโครงการปรับปรุงตลาดดอยมูเซอ ของจังหวัดตาก ที่ยังไม่ลงตัว
นายสามารถ กล่าวย้ำว่า โครงการพัฒนา ปรับปรุง ตลาดดอยมูเซอ เป็นโครงการของจังหวัดตาก ที่ต้องการปรับปรุงตลาดดอยมูเซอ ซึ่งเป็นร้านค้าตามโครงการของศูนย์สงเคราะห์และพัฒนาชาวเขา ให้ชาวไทยภูเขาได้นำผลผลิตทางการเกษตรมาจำหน่าย ให้กับนักท่องเที่ยว ประกอบด้วย ชาวไทยภูเขา เผ่ามูเซอ, ม้ง, ลีซอ ฯลฯ ที่ก่อสร้างมานาน ตั้งแต่ พ.ศ.2521 ชำรุดทรุดโทรม สกปรก ไม่เป็นระเบียบ มีการตั้งร้านค้ารุกล้ำ เข้ามาในเขตพื้นที่จอดรถและผิวถนน ไม่เป็นระเบียบ ไม่สวยงาม และยังก่ออันตราย ต่อผู้ใช้รถสัญจร
ดังนั้น จังหวัดตาก จึงมีโครงการที่จะปรับปรุงใหม่ ให้เป็นระเบียบสวยงาม เพื่อเป็นแหล่งที่นักท่องเที่ยวแวะมาซื้อของได้สะดวก แต่ก็มีปัญหาจำนวนพื้นที่ค้าขาย ไม่เพียงพอต่อจำนวนพ่อค้าแม่ค้า ทำให้ชาวเขาทั้ง 3 เผ่าไม่พอใจ จังหวัดได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบผู้ที่ค้าขายตัวจริง และผู้ที่แฝงหาผลประโยชน์ ประกอบด้วย ตัวแทนชาวเขา 3 เผ่า อบต.ด่านแม่ละเมา, สนง.โยธาธิการจังหวัด, นายอำเภอแม่สอด และทางจังหวัดตาก เป็นคณะกรรมการร่วมกันทำงานในการแก้ปัญหาในส่วนต่างๆ เพื่อให้โครงการสำเร็จลุล่วงด้วยดี
ส่วนชาวไทยภูเขาทั้ง 3 เผ่า ต่างพอใจแยกย้ายกันกลับบ้านและรอผลสรุปของคณะกรรมการชุดที่ฝ่ายปกครองจังหวัดตากตั้งขึ้นมา