จันทบุรี-ชาวบ้านแก่งหางแมว จังหวัดจันทบุรี พร้อมสื่อมวลชน รวมตรวจสอบการรื้อถอน สำนักปฏิบัติธรรม ที่ตั้งอยู่เชิงเขาเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาสอยดาว หลังเจ้าหน้าที่ป่าไม้ เร่งรัดการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออกจากพื้นที่ โดยอ้างว่าสำนักปฏิบัติธรรมแห่งนี้ตกการสำรวจจากทางการ ทั้งที่ตั้งมา 24 ปีแล้ว
วันนี้ (19 มี.ค. 2554 ) กลุ่มชาวบ้านนำสื่อมวลชน เข้าตรวจสอบการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างสำนักสงฆ์โป่งเขาแหลม หมู่ที่ 10 ตำบลขุนซ่อง อำเภอแก่งหางแมว จังหวัดจันทบุรี หลังเจ้าหน้าที่ป่าไม้ขอพื้นที่ป่าคืน แม้ว่าชาวบ้าน และพระภิกษุสงฆ์ นำโดยพระอาจารย์มนัส มนฺตชาโต (มันตะชาโต) ช่วยกันขนย้ายสิ่งของ แต่มีปัญหาเรื่องดินฟ้าอากาศ และคอยเฝ้าระวังช้างป่าที่จะเข้ามากัดกินผลผลิตในช่วงนี้ด้วย
นายบุญนาค พิมพ์ม่วง คณะกรรมการหมู่บ้าน ม.10 ต.ขุนซ่อง กล่าวว่า พื้นที่บริเวณดังกล่าว มีพระภิกษุสงฆ์ใช้เพื่อปฏิบัติธรรมและโปรดธรรมญาติโยมมานาน โดยไม่เคยสร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้าน มีแต่ช่วยรักษาป่า เมื่อถูกสั่งให้รื้อถอนชาวบ้านและพระสงฆ์ต้องช่วยกันขนย้ายสิ่งของออกมาให้เร็วที่สุดแล้ว นอกจากนี้ยังต้องเตรียมสถานที่แห่งใหม่ที่อยู่ใกล้กันให้พร้อมก่อน เพราะหากไม่สร้างที่พักให้พระสงฆ์ หรือ ที่กันฝนกันแดดชั่วคราวไว้ก่อน โดยขนย้ายได้ไม่ทันท่วงที่เท่าที่ควร
ด้านนายเกด จอกทอง ผู้ใหญ่บ้าน ม.10 ต.ขุนซ่อง กล่าวว่า ตั้งแต่พระอาจารย์มนัส มาอยู่ ซึ่งญาติโยม ก็มาทำบุญปฏิบัติธรรมได้ง่าย สร้างความอุ่นใจอยู่เย็นเป็นสุขเพราะมีที่พึ่ง นอกจากนี้หลวงพ่อก็ยังช่วยรักษาป่าให้อุดมสมบูรณ์มาตลอด พร้อมทั้งสอนชาวบ้านไม่ให้ตัดไม้ทำลายป่า และเมื่อมีช้างป่าลงมา ก็นำชาวบ้านช่วยดูแล นำเงินไปซื้อสับปะรด และปลูกอ้อยปลูกกล้วยไว้ให้ช้างกินในป่า โดยเฉพาะช่วงนี้มีช้างป่าลงมามากถึง 50 - 60 เชือก ถ้าไม่ไปดูแล ช้างจะไปสร้างความเสียหายกับไร่ สวนของชาวบ้าน
ส่วนนายทองหยุด ว่องธัญญากรณ์ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ฝ่ายรักษาความสงบ กล่าวว่า สถานที่ปฏิบัติธรรมนี้ ตั้งอยู่มานานแล้ว ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ป่าไม้ก็ไม่เคยมีปัญหากัน แต่ขณะนี้ ต้องการให้ออกไปทันทีทันใดภาย ใน 24 ชั่วโมง ซึ่งไม่สามารถทำได้ แต่อย่างไรก็ตาม ชาวบ้านและพระสงฆ์พยายามช่วยกันขนสิ่งของ โดยควรจะต้องให้เวลาประมาณ 1 - 2 เดือน แต่ขอยืนยันว่าไม่ได้ขัดขืน แต่จำเป็นต้องใช้เวลาเท่านั้น
วันนี้ (19 มี.ค. 2554 ) กลุ่มชาวบ้านนำสื่อมวลชน เข้าตรวจสอบการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างสำนักสงฆ์โป่งเขาแหลม หมู่ที่ 10 ตำบลขุนซ่อง อำเภอแก่งหางแมว จังหวัดจันทบุรี หลังเจ้าหน้าที่ป่าไม้ขอพื้นที่ป่าคืน แม้ว่าชาวบ้าน และพระภิกษุสงฆ์ นำโดยพระอาจารย์มนัส มนฺตชาโต (มันตะชาโต) ช่วยกันขนย้ายสิ่งของ แต่มีปัญหาเรื่องดินฟ้าอากาศ และคอยเฝ้าระวังช้างป่าที่จะเข้ามากัดกินผลผลิตในช่วงนี้ด้วย
นายบุญนาค พิมพ์ม่วง คณะกรรมการหมู่บ้าน ม.10 ต.ขุนซ่อง กล่าวว่า พื้นที่บริเวณดังกล่าว มีพระภิกษุสงฆ์ใช้เพื่อปฏิบัติธรรมและโปรดธรรมญาติโยมมานาน โดยไม่เคยสร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้าน มีแต่ช่วยรักษาป่า เมื่อถูกสั่งให้รื้อถอนชาวบ้านและพระสงฆ์ต้องช่วยกันขนย้ายสิ่งของออกมาให้เร็วที่สุดแล้ว นอกจากนี้ยังต้องเตรียมสถานที่แห่งใหม่ที่อยู่ใกล้กันให้พร้อมก่อน เพราะหากไม่สร้างที่พักให้พระสงฆ์ หรือ ที่กันฝนกันแดดชั่วคราวไว้ก่อน โดยขนย้ายได้ไม่ทันท่วงที่เท่าที่ควร
ด้านนายเกด จอกทอง ผู้ใหญ่บ้าน ม.10 ต.ขุนซ่อง กล่าวว่า ตั้งแต่พระอาจารย์มนัส มาอยู่ ซึ่งญาติโยม ก็มาทำบุญปฏิบัติธรรมได้ง่าย สร้างความอุ่นใจอยู่เย็นเป็นสุขเพราะมีที่พึ่ง นอกจากนี้หลวงพ่อก็ยังช่วยรักษาป่าให้อุดมสมบูรณ์มาตลอด พร้อมทั้งสอนชาวบ้านไม่ให้ตัดไม้ทำลายป่า และเมื่อมีช้างป่าลงมา ก็นำชาวบ้านช่วยดูแล นำเงินไปซื้อสับปะรด และปลูกอ้อยปลูกกล้วยไว้ให้ช้างกินในป่า โดยเฉพาะช่วงนี้มีช้างป่าลงมามากถึง 50 - 60 เชือก ถ้าไม่ไปดูแล ช้างจะไปสร้างความเสียหายกับไร่ สวนของชาวบ้าน
ส่วนนายทองหยุด ว่องธัญญากรณ์ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ฝ่ายรักษาความสงบ กล่าวว่า สถานที่ปฏิบัติธรรมนี้ ตั้งอยู่มานานแล้ว ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ป่าไม้ก็ไม่เคยมีปัญหากัน แต่ขณะนี้ ต้องการให้ออกไปทันทีทันใดภาย ใน 24 ชั่วโมง ซึ่งไม่สามารถทำได้ แต่อย่างไรก็ตาม ชาวบ้านและพระสงฆ์พยายามช่วยกันขนสิ่งของ โดยควรจะต้องให้เวลาประมาณ 1 - 2 เดือน แต่ขอยืนยันว่าไม่ได้ขัดขืน แต่จำเป็นต้องใช้เวลาเท่านั้น