แม่ฮ่องสอน- ทหารสนธิกำลังกับตำรวจแม่ฮ่องสอน ทำการจับกุมผู้ต้องหาพร้อมฝิ่นดิบกว่า 12 กิโลกรัม ระบุ หากนำออกขายจะได้เงินกว่า 1 ล้านบาท
รายงานข่าวจากจังหวัดแม่ฮ่องสอน แจ้งว่า วันนี้ (17 มี.ค.) ที่หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 7 จ.แม่ฮ่องสอน นายธานินทร์ สุภาแสน รองผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน พต.ต.ต.เกษมสันต์ บุญญกาญจน์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดแม่ฮ่องสอน พ.อ.บุญยืน อินกว่าง รองผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 7 จ.แม่ฮ่องสอน ได้ร่วมแถลงข่าวการจับกุมตัว นายแปล (ไม่มีนามสกุล) อายุ 43 ปี ต่างด้าวชาวไทยใหญ่ สัญชาติพม่า มีบัตรสีชมพู อยู่บ้านเลขที่ 78 / ช หมู่ 6 ต.หมอกจำแป่ อ.เมืองแม่ฮ่องสอน, น.ส.เจ่ง ( ไม่มีนามสกุล ) สัญชาติพม่า อายุ 24 ปี อาศัยอยู่บ้านเลขที่ 79 หมู่ 5 ต.ผาบ่อง อ.เมืองแม่ฮ่องสอน 2 ผู้ต้องหาค้ายาเสพติด
พร้อมรถจักรยานยนต์ ฮอนด้าเวฟ สีน้ำเงินหมายเลขทะเบียน กรข 75 ลำพูน โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง เงินสด 90 บาท พร้อมของกลางฝิ่นดิบ จำนวน 8 จ้อย คิดเป็นน้ำหนัก 12.8 กิโลกรัม มาสอบปากคำ ที่หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 7 จังหวัดแม่ฮ่องสอน
ในการจับกุมยาเสพติดครั้งนี้สืบเนื่องจากเวลา 20.00 น คืนที่ผ่านมา ร้อยโท สุพล ธิป่าหนาด หัวหน้าชุดปฏิบัติการพิเศษกองกำลังนเรศวร พร้อมกำลัง 19 นาย และหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 7 ได้รับรายงานว่าจะมีการส่งยาเสพติดบนถนนเส้นทางสายบ้านน้ำเพียงดิน-บ้านห้วยปูแกง ต.ผาบ่อง อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน
จึงได้จัดกำลังทหารจากชุดปฏิบัติการพิเศษ กองร้อยลาดตระเวนระยะไกล กองกำลังนเรศวร เข้าไปยังพื้นที่เป้าหมาย พบกลุ่มขบวนการค้ายาเสพติดจึงเข้าตรวจค้น สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 2 คน พร้อมฝิ่นดิบ และหนีไปได้อีก 2 คน จึงได้ควบคุมตัวผู้ต้องหามาสอบปากคำที่ ฉก.ร.7 เพื่อขยายผลติดตามตัวผู้ที่หลบหนีมาดำเนินคดีต่อไป
นายแปล ผู้ต้องหา และนางเจ่ง สองสามีภรรยา ยอมรับสารภาพว่า ทำงานก่อสร้างอยู่ในพื้นที่แม่ฮ่องสอน และมีผู้ว่าจ้างให้นำฝิ่นดิบจำนวนดังกล่าวมาส่งให้บริเวณถนนสายระหว่างบ้านห้วยปูแกง-บ้านห้วยแก้ว ต.ผาบ่อง องเมือง จ.แม่ฮ่องสอน โดยได้ค่าจ้างจำนวน 160,000 บาท และเมื่อมาถึงจุดนัดพบก็ถูกทหารจับกุมได้ดังกล่าว
สำหรับราคาฝิ่นดิบดังกล่าว ราคาจำหน่วยในตัวเมืองแม่ฮ่องสอน จ้อยละ 140, 000 บาท รวม 8 จ้อย หรือ 13 กิโลกรัม เป็นเงินจำนวน 1.2 ล้านบาท เจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรบ้านน้ำเพียงดิน อ.เมืองแม่ฮ่องสอน ดำเนินคดีมียาเสพติดไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย และจะติดตามผู้ที่หลบหนีมาดำเนินคดีต่อไป
รายงานข่าวจากจังหวัดแม่ฮ่องสอน แจ้งว่า วันนี้ (17 มี.ค.) ที่หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 7 จ.แม่ฮ่องสอน นายธานินทร์ สุภาแสน รองผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน พต.ต.ต.เกษมสันต์ บุญญกาญจน์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดแม่ฮ่องสอน พ.อ.บุญยืน อินกว่าง รองผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 7 จ.แม่ฮ่องสอน ได้ร่วมแถลงข่าวการจับกุมตัว นายแปล (ไม่มีนามสกุล) อายุ 43 ปี ต่างด้าวชาวไทยใหญ่ สัญชาติพม่า มีบัตรสีชมพู อยู่บ้านเลขที่ 78 / ช หมู่ 6 ต.หมอกจำแป่ อ.เมืองแม่ฮ่องสอน, น.ส.เจ่ง ( ไม่มีนามสกุล ) สัญชาติพม่า อายุ 24 ปี อาศัยอยู่บ้านเลขที่ 79 หมู่ 5 ต.ผาบ่อง อ.เมืองแม่ฮ่องสอน 2 ผู้ต้องหาค้ายาเสพติด
พร้อมรถจักรยานยนต์ ฮอนด้าเวฟ สีน้ำเงินหมายเลขทะเบียน กรข 75 ลำพูน โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง เงินสด 90 บาท พร้อมของกลางฝิ่นดิบ จำนวน 8 จ้อย คิดเป็นน้ำหนัก 12.8 กิโลกรัม มาสอบปากคำ ที่หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 7 จังหวัดแม่ฮ่องสอน
ในการจับกุมยาเสพติดครั้งนี้สืบเนื่องจากเวลา 20.00 น คืนที่ผ่านมา ร้อยโท สุพล ธิป่าหนาด หัวหน้าชุดปฏิบัติการพิเศษกองกำลังนเรศวร พร้อมกำลัง 19 นาย และหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 7 ได้รับรายงานว่าจะมีการส่งยาเสพติดบนถนนเส้นทางสายบ้านน้ำเพียงดิน-บ้านห้วยปูแกง ต.ผาบ่อง อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน
จึงได้จัดกำลังทหารจากชุดปฏิบัติการพิเศษ กองร้อยลาดตระเวนระยะไกล กองกำลังนเรศวร เข้าไปยังพื้นที่เป้าหมาย พบกลุ่มขบวนการค้ายาเสพติดจึงเข้าตรวจค้น สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 2 คน พร้อมฝิ่นดิบ และหนีไปได้อีก 2 คน จึงได้ควบคุมตัวผู้ต้องหามาสอบปากคำที่ ฉก.ร.7 เพื่อขยายผลติดตามตัวผู้ที่หลบหนีมาดำเนินคดีต่อไป
นายแปล ผู้ต้องหา และนางเจ่ง สองสามีภรรยา ยอมรับสารภาพว่า ทำงานก่อสร้างอยู่ในพื้นที่แม่ฮ่องสอน และมีผู้ว่าจ้างให้นำฝิ่นดิบจำนวนดังกล่าวมาส่งให้บริเวณถนนสายระหว่างบ้านห้วยปูแกง-บ้านห้วยแก้ว ต.ผาบ่อง องเมือง จ.แม่ฮ่องสอน โดยได้ค่าจ้างจำนวน 160,000 บาท และเมื่อมาถึงจุดนัดพบก็ถูกทหารจับกุมได้ดังกล่าว
สำหรับราคาฝิ่นดิบดังกล่าว ราคาจำหน่วยในตัวเมืองแม่ฮ่องสอน จ้อยละ 140, 000 บาท รวม 8 จ้อย หรือ 13 กิโลกรัม เป็นเงินจำนวน 1.2 ล้านบาท เจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรบ้านน้ำเพียงดิน อ.เมืองแม่ฮ่องสอน ดำเนินคดีมียาเสพติดไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย และจะติดตามผู้ที่หลบหนีมาดำเนินคดีต่อไป