กาฬสินธุ์- คุมประพฤติกาฬสินธุ์ เผยตัวเลขบำบัดผู้ติดยาเสพติดเฉลี่ยเพิ่มจากเดิม เดือนละ 100 ราย ด้านผู้ว่าฯ ประชุมเข้มคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด เร่งปฏิบัติการตรวจจับผู้ค้า ลดจำนวนผู้เสพ โดยนำเข้าระบบบำบัดรักษาและฟื้นฟูช่วยเหลือ เพื่อกลับเป็นคนดีสู่สังคม
วันนี้ (14 มี.ค.) เวลา 10.30 น.ที่ห้องประชุมชั้น 4/2 ศาลากลางจังหวัดกาฬสินธุ์ นายวิโรจน์ จิวะรังสรรค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ เป็นประธานประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด โดยมีตัวแทนส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง และองค์ปกครองท้องถิ่น ร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง
นายวิโรจน์ จิวะรังสรรค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด มีคำสั่งที่ 14/2553 ลงวันที่ 21 ธันวาคม 2553 กำหนดให้มีปฏิบัติการเร่งรัด 3 เดือน (มกราคม-มีนาคม 2554) รองรับการปฏิบัติการประเทศไทยเข้มแข็ง ชนะยาเสพติดยั่งยืน ภายใต้ยุทธศาสตร์ 5 รั้วป้องกันระยะที่ 3 โดยได้กำหนดแนวทางสำคัญประการหนึ่งคือ เร่งปฏิบัติการลดจำนวนผู้เสพ
โดยนำผู้เสพเข้าระบบบำบัดรักษาตามความเหมาะสม เน้นการชักชวน สมัครใจ ใช้กระบวนการชุมชนเป็นแนวทางแรกและแนวทางบำบัด และระบบต้องโทษเป็นแนวทางรองลงมา รวมทั้งจัดให้มีสถานที่บำบัดที่เหมาะสมเพียงพอ
นายวิโรจน์ กล่าวอีกว่า จังหวัดกาฬสินธุ์ได้ดำเนินการจัดทำแผนปฏิบัติการเร่งรัด 3 เดือน เพื่อค้นหา กำหนดจุดที่เป็นปัญหาสำคัญ (Critical Points) ในแต่ละรั้ว/โครงการ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง มาตรการค้นหาบุคคลผู้ค้ายาเสพติดรายสำคัญ ค้นหาหมู่บ้าน หรือชุมชน ที่มีปัญหายาเสพติดระบาดเป็นเป้าหมายดำเนินการเร่งด่วน โดยบูรณาการทุกส่วนที่เกี่ยวข้อง ร่วมเร่งรัดปฏิบัติการอย่างเข้มงวด ทั้งตรวจค้น ปิดล้อมพื้นที่เป้าหมาย ดำเนินการจับกุมผู้มีพฤติการณ์ค้าและแพร่ระบาดยาเสพติดทุกเดือน
ทั้งนี้ เพื่อเร่งปฏิบัติการลดจำนวนผู้เสพ โดยนำเข้าระบบบำบัดตามความเหมาะสม พิจารณาหาที่บำบัดรักษาอย่างเพียงพอ และทำการบำบัดอย่างครบวงจร สามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ไม่กลับเข้าไปอยู่ในกลุ่มเสี่ยงที่จะไปกระทำผิด และกลับคืนสู่สังคมได้ตามปกติต่อไป
อย่างไรก็ตาม จากการปฏิบัติการที่ผ่านมา สามารถจับกุมผู้กระทำผิดได้มากขึ้น ขณะที่ในส่วนของผู้ถูกคุมประพฤติ เพิ่มขึ้นเฉลี่ยเดือนละ 100 ราย
ด้านสถานบำบัดและฟื้นฟู ได้ขยายจากสถานที่ราชการ และวัด สู่องค์กรปกครองท้องถิ่นเป็นแห่งแรกที่เทศบาลตำบลห้วยเม็ก อ.ห้วยเม็ก ซึ่งดำเนินการบำบัดมาแล้ว 1 รุ่น สามารถบำบัดและฟื้นฟูผู้ถูกคุมประพฤติคดียาเสพติดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
