ตาก - เสนอรัฐพัฒนาเส้นทางเชื่อม R3a-R3b และEast-West Economic Corridor ต่อภาพถนนธุรกิจ การค้าชายแดน การลงทุน การท่องเที่ยวและวัฒนธรรม รับแผนยกระดับ “ ทน.แม่สอด-เขตเศรษฐกิจชายแดน”
นายเทอดเกียรติ ชินสรนันท์ นายกเทศมนตรีนครแม่สอด กล่าวว่า เทศบาลฯ ได้ทำหนังสือผ่านนายสามารถ ลอยฟ้า ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก เพื่อนำเสนอรัฐบาลให้ดำเนินโครงการก่อสร้างถนนเชื่อมเส้นธุรกิจ เศรษฐกิจการค้าชายแดน การลงทุน การส่งเสริมภาคการเกษตร และอุตสาหกรรมเพื่อการเกษตร ระหว่างเส้นทาง R3a-R3b และEast-West Economic Corridor -EWEC โดยผลักดันให้เป็นเส้นทางสายเศรษฐกิจสำคัญในภูมิภาคและสร้าง “นครแม่สอด” เป็นเมืองเศรษฐกิจหมายเลข 1 ก่อนที่รัฐบาลจะผลักดันให้พื้นที่ชายแดนแม่สอดเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ และการยกฐานะองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นรูปแบบพิเศษ “นครแม่สอด”
เขาเสนอว่า ควรจะมีการขุดเจาะอุโมงค์ระหว่างเส้นทางสายตาก-แม่สอด จากเดิมระยะทาง 86 กิโลเมตร(กม.)ให้เหลือเพียง 28- 30 กม. ซึ่งใช้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญได้ด้วย
นอกจากนี้ยังจะเป็นเส้นทางลำเลียงสินค้าและลดระยะเวลาและค่าใช้จ่ายในการเดินทางมากกว่าครึ่ง ถือว่าคุ้มค่าต่อการลงทุนอย่างยิ่ง เช่น ลดเวลาการเดินทางจากเดิมแม่สอด-ตาก 1 ชั่วโมง(ชม.)เหลือเพียงไม่เกิน 20 นาทีเท่านั้น
เส้นทางดังกล่าว จะเชื่อมระหว่างไทย-จีน-ลาวและเวียดนาม จากเชียงรุ่ง(จีน)-บ่อเต็ง(ลาว)-เชียงแสน-เชียงของ(ไทย)และ บูรณาการเส้นทางเชื่อมกับเส้นทาง EWEC ตัดผ่านที่นครแม่สอด ไปยังสะหวันเขต(ลาว)และดานัง-เวียดนาม ด้วย
นายเทอดเกียรติ กล่าวต่อว่า จากการที่ทีมผู้บริหาร สมาชิกสภานครแม่สอดและส่วนราชการของนครแม่สอดได้เดินโดยรถยนต์จากชายแดนแม่สอดไปยังเชียงรายและเข้าสู่ลาวไปจีนที่สิบสองปันนา พบว่าเป็นเส้นทางที่น่าจะมีการพัฒนาเชื่อมโยงกัน โดยการเดินทางจากชายแดนไทย-พม่า-ลาวเข้าสู่จีน ตามเส้นทางนี้ใช้เวลาประมาณ 15 ชม. หากมีการพัฒนาแล้วจะเหลือระยะเวลาไม่เกิน 7 ชม.เท่านั้น
ขณะที่นายสามารถ ลอยฟ้า ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก กล่าวว่า จ.ตากสนับสนุนการที่ท้องถิ่นจะเสนอให้เกิดการพัฒนาเศรษฐกิจในท้องถิ่น ก่อนที่จะมีการยกฐานะ “นครแม่สอด” เพราะเป็นนโยบายในการพัฒนาพื้นที่เศรษฐกิจชายแดนของรัฐบาล ตนเห็นว่านอกจากการสนับสนุนเส้นทาง EWEC ควรพัฒนาเส้นทาง R3a-R3bควบคู่เป็นเส้นทางที่เชื่อมโยงกันด้วย
ส่วนความคืบหน้าการก่อสร้างเส้นทาง EWEC ระหว่างตาก-แม่สอด ได้ขยายเป็น 4 ช่องทางจราจรแล้ว รวมทั้งการร่วมกับพม่าพัฒนาเส้นทางจากนครแม่สอด-เมียวดี ไปยังเมืองสำคัญทางเศรษฐกิจในพม่า ซึ่งในปี 2554 เป็นต้นไปจะได้งบเข้ามาก่อสร้างอีกกว่า 1,000 ล้านบาท