สุรินทร์ - จังหวัดสุรินทร์จัดงาน “วันช้างไทย” ทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้ช้างและบรรพบุรุษคนเลี้ยงช้างที่ล่วงลับ พร้อมจัดเลี้ยงอาหารโต๊ะจีนช้างอีกกว่า 188 เชือก
วันนี้ (13 มี.ค.) ที่ บ้านตากลาง ต.กระโพ อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ ซึ่งมีจำนวนช้างเลี้ยงมากที่สุดในโลกและเป็นที่ตั้งของศูนย์คชศึกษา นายเสริม ไชยณรงค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ เป็นประธานประกอบพิธีทางศาสนา ทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้แก่บรรพบุรุษ คนเลี้ยง ที่ล่วงลับไปแล้ว และอุทิศส่วนกุศลไปให้แก่ช้างที่ล้มตายไปแล้ว เนื่องในวันช้างไทย ตามมติของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ประกาศเมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2541 โดยนิมนต์พระสงฆ์จำนวน 9 รูป มาประกอบพิธีทางศาสนา
พร้อมทั้งทำพิธีเซ่นไหว้ศาลปะกำ เพื่อบอกกล่าวบรรพบุรุษ ตามประเพณีชาวกวย คนเลี้ยงช้างที่สืบทอดมานาน โดยมี นายธงชัย มุ่งเจริญพร นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) สุรินทร์ พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ หมอช้าง หรือ พระมอเฒ่า คนเลี้ยงช้าง และประชาชนทั่วไป เข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก
โดยได้นำเชือกปะกำ หรือเชือกคล้องช้าง ที่ทำมาจากหนังควายแห้งมาร่วมพิธีด้วย ซึ่งชาวกวยคนเลี้ยงช้างถือว่าเชือกประกำ ดังกล่าวเป็นเชือกศักดิ์สิทธิ์ มีความสำคัญมากที่สุด และเป็นที่สิงสถิตของดวงวิญญาณครูบาอาจารย์และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย แต่ละตระกูลมักมีเชือกปะกำ ไว้ใช้เฉพาะคนในตระกูลของตัวเอง ซึ่งต้องเคารพนับถือ และเชื่อว่า ผีปะกำสามารถบันดาลให้โชคดี หรือโชคร้ายในการคล้องช้างได้
จากนั้นได้จัดเลี้ยงโต๊ะจีนอาหารช้าง ด้วยการนำผลไม้ เช่น สับปะรด แตงโม ข้าวโพด และต้นอ้อย มาเลี้ยงช้าง กว่า 188 เชือกที่อาศัยอยู่ในศูนย์คชศึกษา และศูนย์คชอาณาจักรช้างสุรินทร์ ต.กระโพ อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์
ขณะที่วัดป่าอาเจียง บ้านตากลาง ต.กระโพ อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ พระธรรมโมลี เจ้าคณะจังหวัดสุรินทร์ ได้รับบริจาคช้าง 1 เชือก อายุ 70 ปี จากควาญช้าง เพื่อปล่อยช้างเข้าสู่ป่าในวัดป่าอาเจียง ให้ช้างได้อาศัยอยู่กับป่าอย่างธรรมชาติต่อไป ซึ่งกระดูกช้างบางส่วนได้นำกลับมาเก็บไว้ที่สุสานช้างวัดป่าอาเจียง บ้านตากลาง แห่งนี้
สำหรับ วันช้างไทย เกิดจากการริเริ่มของ คณะอนุกรรมการประสานงานการอนุรักษ์ช้างไทย ซึ่งเป็นหน่วยงานประสานงานองค์กรภาครัฐและเอกชนที่ทำงานเกี่ยวกับการอนุรักษ์ช้างไทย ของคณะกรรมการเอกลักษณ์ของชาติ สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เนื่องจากเล็งเห็นว่าหากมีการสถาปนาวันช้างไทย ขึ้น จะช่วยให้ประชาชนคนไทย หันมาสนใจช้าง รักช้าง หวงแหนช้าง ตลอดจนให้ความสำคัญต่อการให้ความช่วยเหลืออนุรักษ์ช้าง มากขึ้น คณะอนุกรรมการฯ จึงได้กำหนดให้ วันที่ 13 มีนาคม ของทุกปี เป็นวันช้างไทย
