ตราด - ชลประทานตราด เผยเหตุปล่อยน้ำตามมติผู้ใช้น้ำ เอื้อประโยชน์ 3 อาชีพ นอภ.บ่อไร่ ระบุ ส่งผลดีต่อการค้าชายแดน
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าการปล่อยน้ำจากอ่างเก็บน้ำคลองโสน ต.นนทรีย์ อ.บ่อไร่ จ.ตราด จนได้รับการร้องเรียนจากกลุ่มองค์กรภาคประชาชน และผู้ว่าราชการจังหวัดตราด ต้องเดินทางไปตรวจสอบข้อเท็จจริงในพื้นที่นั้น
นายสมคิด สัมมา หัวหน้าฝ่ายดูแลรักษาน้ำ สำนักงานชลประทาน จ.ตราด เปิดเผยว่า เหตุของการปล่อยน้ำในอ่างเก็บน้ำคลองโสน เป็นไปตามมติของผู้เกี่ยวข้อง 3 อาชีพ ประกอบด้วย เกษตรกร ผู้ค้าชายแดน และเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้ง ซึ่งที่ประชุมเมื่อปลายเดือนธันวาคม 2553 ที่มีนายอำเภอเขาสมิง นายอำเภอบ่อไร่ นายก อบต.ใน อ.เขาสมิง 6 ตำบล และ อบต.นนทรีย์ เป็นเจ้าของพื้นที่ตั้งอ่างเก็บน้ำ
ทั้งนี้ เนื่องจากหลังการเก็บน้ำในอ่างเก็บน้ำคลองโสน ที่เก็บเต็มความจุ 68 ล้านลูกบาศก์เมตร ได้ส่งผลกระทบต่อถนนสายบ้านนทรีย์-บ้านมะม่วง-จุดผ่อนปรนการค้าเนิน 400 ทำให้รถยนต์สัญจรไปมาไม่ได้ การค้าชายแดนก็ได้รับผลกระทบ หากชลประทาน จ.ตราด ปล่อยน้ำออกจะเกิดประโยชน์ต่อการค้าชายแดน ส่วนเรื่องปัญหาภัยแล้งนั้นยังไม่มีผลกระทบเท่าไร เนื่องจากเกษตรกร ยังไม่ขยายพื้นที่การปลูกพืชเท่าไรนัก
“อบต.นนทรีย์ ได้รับเรื่องร้องเรียนจากพ่อค้าชายแดน ที่ได้รับผลกระทบจากการขนส่งสินค้าไปกัมพูชา จึงได้เชิญนายอำเภอ 2 แห่ง นายก อบต.6-7 คน รวมทั้งเจ้าหน้าที่ขลประทานตราดเข้าร่วมประชุมด้วย และได้มีมติว่าจะมีการปล่อยน้ำออกจนถนนแห้ง รถยนต์ไปมาได้ เป็นเวลา 1 เดือน โดยจะเปิกประตูน้ำสูง 30 ซม.เพื่อระบายออกทีละน้อย ซึ่งเกษตรกรในตำบลนนทรีไม่เดือดร้อน การค้าขายชายแดนก็ทำได้ ขณะเดียวกัน ผู้ประกอบนากุ้งปลายน้ำก็จะได้ประโยชน์ด้วย ทั้งหมดก็ได้ประโยชน์จากเรื่องนี้ทั้งนั้น”
ด้านว่าที่ร้อยตรี พิเชียน ลิมป์หวังอยู่ นายอำเภอบ่อไร่ กล่าวว่า ไม่อยากจะให้รื้อฟื้นปัญหาที่เกิดขึ้น เพราะทุกฝ่ายได้ประโยชน์จากเรื่องนี้ ทั้งการค้าขายแดนที่จะขนส่งสินค้าได้ดีขึ้น การเกษตรกรรมก็ได้ประโยชน์ทั้งปาล์มน้ำมัน ทั้งนากุ้ง รวมทั้งจังหวัดภาคอื่น ทุกวันนี้ อ.บ่อไร่มีศักยภาพและต้องเปิดประตูสู่การค้าชายแดนไปยัง จ.พระตะบอง กัมพูชา หากทุกฝ่ายจะมาตรวจสอบว่าใครผิดใครถูกจึงเป็นเรื่องที่น่าจะปล่อยให้ผ่านไปจะดีกว่า
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าการปล่อยน้ำจากอ่างเก็บน้ำคลองโสน ต.นนทรีย์ อ.บ่อไร่ จ.ตราด จนได้รับการร้องเรียนจากกลุ่มองค์กรภาคประชาชน และผู้ว่าราชการจังหวัดตราด ต้องเดินทางไปตรวจสอบข้อเท็จจริงในพื้นที่นั้น
นายสมคิด สัมมา หัวหน้าฝ่ายดูแลรักษาน้ำ สำนักงานชลประทาน จ.ตราด เปิดเผยว่า เหตุของการปล่อยน้ำในอ่างเก็บน้ำคลองโสน เป็นไปตามมติของผู้เกี่ยวข้อง 3 อาชีพ ประกอบด้วย เกษตรกร ผู้ค้าชายแดน และเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้ง ซึ่งที่ประชุมเมื่อปลายเดือนธันวาคม 2553 ที่มีนายอำเภอเขาสมิง นายอำเภอบ่อไร่ นายก อบต.ใน อ.เขาสมิง 6 ตำบล และ อบต.นนทรีย์ เป็นเจ้าของพื้นที่ตั้งอ่างเก็บน้ำ
ทั้งนี้ เนื่องจากหลังการเก็บน้ำในอ่างเก็บน้ำคลองโสน ที่เก็บเต็มความจุ 68 ล้านลูกบาศก์เมตร ได้ส่งผลกระทบต่อถนนสายบ้านนทรีย์-บ้านมะม่วง-จุดผ่อนปรนการค้าเนิน 400 ทำให้รถยนต์สัญจรไปมาไม่ได้ การค้าชายแดนก็ได้รับผลกระทบ หากชลประทาน จ.ตราด ปล่อยน้ำออกจะเกิดประโยชน์ต่อการค้าชายแดน ส่วนเรื่องปัญหาภัยแล้งนั้นยังไม่มีผลกระทบเท่าไร เนื่องจากเกษตรกร ยังไม่ขยายพื้นที่การปลูกพืชเท่าไรนัก
“อบต.นนทรีย์ ได้รับเรื่องร้องเรียนจากพ่อค้าชายแดน ที่ได้รับผลกระทบจากการขนส่งสินค้าไปกัมพูชา จึงได้เชิญนายอำเภอ 2 แห่ง นายก อบต.6-7 คน รวมทั้งเจ้าหน้าที่ขลประทานตราดเข้าร่วมประชุมด้วย และได้มีมติว่าจะมีการปล่อยน้ำออกจนถนนแห้ง รถยนต์ไปมาได้ เป็นเวลา 1 เดือน โดยจะเปิกประตูน้ำสูง 30 ซม.เพื่อระบายออกทีละน้อย ซึ่งเกษตรกรในตำบลนนทรีไม่เดือดร้อน การค้าขายชายแดนก็ทำได้ ขณะเดียวกัน ผู้ประกอบนากุ้งปลายน้ำก็จะได้ประโยชน์ด้วย ทั้งหมดก็ได้ประโยชน์จากเรื่องนี้ทั้งนั้น”
ด้านว่าที่ร้อยตรี พิเชียน ลิมป์หวังอยู่ นายอำเภอบ่อไร่ กล่าวว่า ไม่อยากจะให้รื้อฟื้นปัญหาที่เกิดขึ้น เพราะทุกฝ่ายได้ประโยชน์จากเรื่องนี้ ทั้งการค้าขายแดนที่จะขนส่งสินค้าได้ดีขึ้น การเกษตรกรรมก็ได้ประโยชน์ทั้งปาล์มน้ำมัน ทั้งนากุ้ง รวมทั้งจังหวัดภาคอื่น ทุกวันนี้ อ.บ่อไร่มีศักยภาพและต้องเปิดประตูสู่การค้าชายแดนไปยัง จ.พระตะบอง กัมพูชา หากทุกฝ่ายจะมาตรวจสอบว่าใครผิดใครถูกจึงเป็นเรื่องที่น่าจะปล่อยให้ผ่านไปจะดีกว่า
