สตรีเมืองน้ำดำรณรงค์ส่งเสริมความเสมอภาค ประกาศเจตนารมณ์ปกป้องสถาบันด้วยชีวิต

กาฬสินธุ์ - กลุ่มเครือข่ายสตรีเมืองกาฬสินธุ์เดินขบวนรณรงค์ส่งเสริมความเสมอภาค กระตุ้นสังคมตะหนักถึงการคุ้มครองและพิทักษ์สิทธิสตรีให้เท่าเทียมชายและยุติความรุนแรงต่อสตรี พร้อมประกาศเจตนารมณ์ปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ด้วยชีวิต

วันนี้ (11 มี.ค.) นางจงกลนี เกียรติดำเนินงาม ประธานคณะกรรมการพัฒนาสตรีจังหวัดกาฬสินธุ์ นายสาย เตรียมไธสง พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดกาฬสินธุ์ นายจารุวัฒน์ บุญเพิ่ม นายกเทศมนตรีเมืองกาฬสินธุ์ นายเกษตร หาญสุริย์ พัฒนาการจังหวัดกาฬสินธุ์

พร้อมด้วยตัวแทนจากสำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดกาฬสินธุ์ ตัวแทนเครือข่ายสตรีจังหวัดกาฬสินธุ์ นักเรียน นักศึกษาหลายร้อยคนร่วมกันเดินรณรงค์ส่งเสริมความเสมอภาคไปตามถนนสายต่างๆภายในเขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์

ทั้งนี้ เพื่อกระตุ้นให้คนในสังคมได้ตะหนักถึงการคุ้มครองและพิทักษ์สิทธิสตรีให้เท่าเทียมกับเพศชาย รวมทั้งบทบาทหน้าที่ในสังคมพร้อมเรียกร้องให้ยุติปัญหาความรุนแรงต่อสตรี

จากนั้น นายวิโรจน์ จิวะรังสรรค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้เป็นประธานเปิดโครงการวันสตรีสากล จังหวัดกาฬสินธุ์ ประจำปี 2554 พร้อมทั้งมอบโล่และใบประกาศเกียรติคุณให้กับสตรีที่ทำคุณประโยชน์เพื่อสังคม และร่วมกันประกาศเจตนารมณ์ปกป้องสถาบันด้วยชีวิตที่หอประชุมเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา

นางจงกลนี เกียรติดำเนินงาม ประธานคณะกรรมการพัฒนาสตรีจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า ด้วยค่านิยมและวัฒนธรรมในอดีตบทบาทของสตรีมักถูกจำกัดด้านสิทธิเสรีภาพ รวมทั้งการเอารัดเอาเปรียบระหว่างเพศมาโดยตลอด ซึ่งจากข้อมูลสถานการณ์ทางสังคมท้องถิ่นปี 2553 พบว่า ปัญหาของสตรีที่พบมากที่สุด คือ 1.ปัญหาสตรีหม้ายที่ต้องดูแลบุตรเพียงลำพัง 2.ปัญหาสตรีที่ถูกทำร้ายร่างกายและจิตใจ และ 3.ปัญหาสตรีไม่มีอาชีพ ไม่มีรายได้และต้องถูกล่อลวงไปทำงานต่างประเทศ

นอกจากนี้ ยังมีปัญหาความไม่เสมอระหว่างสตรีและชาย จนกลายเป็นแรงผลักดันให้สตรีส่วนหนึ่งลุกขึ้นมาต่อสู้ เพื่อเรียกร้องสิทธิอันชอบธรรมและความเท่าเทียมกันในสังคม จนเป็นเหตุให้มีวันสตรีสากล ซึ่งกำหนดให้วันที่ 8 มีนาคมของทุกปี เป็นวันสตรีสากล

นางจงกลนี กล่าวอีกว่า การจัดงานวันสตรีสากลครั้งนี้ เป็นการบูรณาการร่วมกันทุกภาคส่วนของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและเครือข่ายสตรีทุกองค์กรในจังหวัดกาฬสินธุ์ เพื่อรณรงค์ส่งเสริมความเสมอภาค กระตุ้นให้สังคมได้ตะหนักถึงการคุ้มครองและพิทักษ์สิทธิสตรี ยุติความรุนแรงต่อสตรี ตลอดจนเห็นความสำคัญของบทบาทหน้าที่ต่างๆ เพื่อที่จะสตรีได้มีส่วนร่วมทั้งการแสดงศักยภาพ ผลงานที่จะพัฒนาครอบครัวและสังคมต่อไป

ด้าน นายวิโรจน์ วะรังสรรค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า สตรีถือเป็นกำลังสำคัญของประเทศ เพราะเป็นประชากรมากกว่าครึ่งหนึ่งของประชาชนทั้งหมด ดังนั้น สตรีควรได้รับการพัฒนาศักยภาพและส่งเสริมสถานภาพให้มีความเสมอภาคและเท่าเทียมกับชาย และให้มีโอกาสเข้าไปมีส่วนร่วมในการพัฒนาประเทศทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม การเมือง และวัฒนธรรม

รวมทั้งการเข้าไปมีส่วนร่วมในการดำเนินกิจกรรมต่างๆ ของครอบครัว ชุมชน และสังคม อย่างเสมอภาคกับชาย