กาญจนบุรี - จังหวัดกาญจนบุรีเร่งช่วยเหยื่อพายุฤดูร้อนถล่มเมืองกาญจน์บ้านเรือนพังเสียหายกว่า 100 หลัง ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนกว่า 1,000 คน บาดเจ็บ 2 เบื้องต้น นอภ.และ ปภ.กาญจนบุรี เร่งระดมกำลังช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน คาดเสียหายมากกว่า 3 ล้านบาท
นายไชโย ฤทธิรงศ์ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จังหวัดกาญจนบุรี เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ (2 มี.ค.) เวลา 18.50 น.ได้เกิดพายุฝนตกถล่มพื้นที่ อ.เมืองกาญจนบุรี และเกิดกระแสลมกระโชกพัดถล่มพื้นที่ หมู่ 2 และหมู่ 7 ต.แก่งเสี้ยน อ.เมือง จ.กาญจนบุรี บ้านเรือนได้รับความเสียหายกว่า 100 หลังคาเรือน มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 2 ราย โดยขณะนี้ นายบุญญะพัฒน์ จันทรอุไร นายอำเภอเมืองกาญจนบุรี พร้อมด้วย นายไชโย ฤทธิรงศ์ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดกาญจนบุรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เร่งระดมกำลังเข้าให้ความช่วยเหลือผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนในครั้งนี้แล้ว
นายไชโย เปิดเผยต่อว่า พายุได้ก่อตัวขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 18.50 น.จากนั้นได้เกิดฝนตกลงมาอย่างหนัก ประกอบกับมีกระแสลมพัดกระโชกอย่างรุนแรงนานกว่า 1 ชั่วโมง ทำให้บ้านเรือนของชาวบ้านได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก
โดยเฉพาะในพื้นที่ หมู่ 2 และหมู่ 7 ต.แก่งเสี้ยน บ้านเรือนถูกลมพัดเสียหายกว่า 150 หลังคาเรือน ประชาชนได้รับความเดือดร้อนประมาณ 1,000 คน และมีผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ในครั้งนี้จำนวน 2 ราย ชื่อ นายวิน เมี่ยงพันธุ์ อายุ 85 ปี อยู่บ้านเลขที่ 50/4 หมู่ 7 ต.แก่งเสี้ยน ขณะนี้นอนพักรักษาอาการบาดเจ็บอยู่ที่โรงพยาบาลพหลพลพยุหเสนา
ส่วนรายที่ 2 ชื่อ นายบุญส่ง สภาพักต์ อายุ 46 ปี ทั้งสองรายเป็นพ่อตากับลูกเขย เบื้องต้น ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้สั่งวัสดุก่อสร้างโดยเฉพาะ หลังคามุงกระเบื้องซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นที่สุด เนื่องจากบ้านเรือนที่ได้รับความเสียหายส่วนใหญ่นั้นกระเบื้องหลังคาถูกลมพัดปลิวไปหมด ส่วนอื่นๆ ก็จะเป็นเครื่องนุ่งห่ม และอาหาร
ส่วนในเรื่องของค่าเสียหายในครั้งนี้ เบื้องต้นได้ของบฉุกเฉินจากจังหวัดให้ความช่วยเหลือหลังละ 2 หมื่นบาท แต่ไม่เกิน 3 หมื่นบาท คาดว่า น่าจะใช้งบฉุกเฉินในครั้งนี้กว่า 3 ล้านบาท
ด้าน นายบุญญะพัฒน์ จันทรอุไร นายอำเมืองกาญจนบุรี เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางอำเภอได้ประสานไปยังจังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อตรวจสอบดูว่า มีบ้านเรือนได้รับความเสียหายมากน้อยแค่ไหน ซึ่งในวันนี้เท่าที่ดูจากบัตรคิวที่แจกจ่ายให้กับชาวบ้าน มีประมาณ 150 ใบ หรือ 150 ครัวเรือน แต่อย่างไรก็ตาม ตนได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ อส.ร่วมกับ ปภ.ช่วยติดตามให้ความช่วยเหลือชาวบ้านอย่างเร่งด่วน
ทางด้าน นายบุญส่ง สภาพักต์ อายุ 46 ปี ชาวบ้านหมู่ 7 เปิดเผยว่า เวลาประมาณหนึ่งทุ่มได้เกิดเหตุพายุฝนตกลงมาอย่างหนักขณะที่ตนนั่งเล่นอยู่ในบ้านส่วนพ่อตาของตนกำลังนอนหลับอยู่ภายในห้อง จู่ๆ หลังคาบ้านก็เกิดพังลงมา ทำให้ตนถูกสังกะสีบาดเข้าที่บริเวณข้อเท้าขวาด้านหลัง ต้องเย็บถึง 7 เข็ม ส่วนพ่อตาที่กำลังนอนหลับถูกหลังคาบ้านหล่นทับที่บริเวณแขนด้านขวาทำให้กระดูกแตก ซึ่งขณะนี้นอนพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลพหลฯ
ส่วน นางจำเรียง แก่งเสี้ยน อายุ 56 ปี อยู่บ้านเลขที่ 7/1 หมู่ 7 กล่าวว่า พายุฝนที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ถือว่ารุนแรงที่สุดในรอบหลายสิบปี ส่วนความเสียหายนั้นกระแสลมได้พัดหลังคาบ้านหายไปหมดทั้งหลัง และสิ่งของเครื่องใช้ภายในบ้านก็ได้รับความเสียหายเกือบทั้งหมด ซึ่งคาดว่าค่าเสียหายน่าจะประมาณ 1 แสนบาท
