ศูนย์ฯฝนหลวงภาคเหนือเริ่มปฏิบัติการบรรเทาภัยแล้ง

ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคเหนือเริ่มเดินเครื่องภารกิจทำฝนหลวงบรรเทาความเดือดร้อนจากปัญหาภัยแล้งให้เกษตรกรแล้ว เบื้องต้นมุ่งช่วยเหลือพื้นที่วิกฤตในภาคเหนือตอนบน ทั้งเชียงราย และน่าน คาดปีนี้ภัยแล้งไม่รุนแรงเท่าปีก่อน แต่ต้องดำเนินการตามแผนเพื่อช่วยเหลือพื้นที่ที่เดือดร้อนแล้ว ส่วนการบรรเทาปัญหาหมอกควัน แม้เป็นภารกิจเสริมแต่ติดตามสถานการณ์ใกล้ชิดพร้อมปฏิบัติการทันที

นายทรง กลิ่นประทุม ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคเหนือ เปิดเผยถึงแผนปฏิบัติการฝนหลวงของศูนย์ฯ ในปี 2554ว่า มีการแบ่งหน่วยปฏิบัติการออกเป็น 2 หน่วย โดยหน่วยแรกตั้งหน่วยอยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่ รับผิดชอบปฏิบัติการในพื้นที่จังหวัดภาคเหนือตอนบน และหน่วยที่สองตั้งหน่วยอยู่ที่จังหวัดพิษณุโลก รับผิดชอบปฏิบัติการในพื้นที่จังหวัดภาคเหนือตอนล่าง ทั้งนี้ในส่วนของหน่วยปฏิบัติการที่ตั้งอยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่ ได้เริ่มปฏิบัติภารกิจมาแล้วตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค.54 จนกระทั่งจะไปสิ้นสุดในวันที่ 20 ต.ค.54

ส่วนหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงที่ตั้งอยู่ที่จังหวัดพิษณุโลกนั้น จะเริ่มปฏิบัติการในช่วงเดือน เม.ย.54 เป็นต้นไปเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรและพื้นที่เพาะปลูก โดยเฉพาะพื้นที่ปลูกข้าวในพื้นที่จังหวัดภาคเหนือตอนล่าง เช่น พิจิตร พิษณุโลก เป็นต้น จนกระทั่งสิ้นสุดช่วงปลูกข้าวประมาณเดือน ก.ค.-ส.ค.54 จากนั้นจะย้ายพื้นที่เป้าหมายปฏิบัติการไปยังทางด้านตะวันตกของภาค เน้นการเพิ่มปริมาณน้ำในเขื่อนภูมิพล จังหวัดตาก เป็นเป้าหมายหลัก

สำหรับผลการปฏิบัติการในช่วงที่ผ่านมาของปีนี้ นายทรง เปิดเผยว่า ตั้งแต่ที่ได้เริ่มปฏิบัติการฝนหลวงเมื่อวันที่ 1 มี.ค.54 เป็นต้นมา ได้ทำให้เกิดฝนตกบ้างเล็กน้อยแล้วในพื้นที่ปฏิบัติการ ซึ่งผลการปฏิบัติการและเป้าหมายในการปฏิบัติการ จะมีการประชุมวิเคราะห์และกำหนดเป้าหมายเป็นประจำทุกวันเวลา 09.00 น. โดยเป้าหมายเบื้องต้นในเวลานี้จะมุ่งเน้นการช่วยเหลือเกษตรกรในพื้นที่ที่ประสบภาวะวิกฤตภัยแล้งมากเป็นพิเศษ ได้แก่ จังหวัดเชียงราย และน่าน เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคเหนือ แสดงความเห็นว่า จากการดูแนวโน้มต่างๆ และปัจจัยรอบด้านแล้ว คาดว่าสถานการณ์ภัยแล้งในปีนี้ไม่น่าจะมีความรุนแรงมากไปกว่าปีที่ผ่านมา และไม่น่าจะเกิดภาวะฝนแล้งยาวนานเท่าปีก่อน แต่ทั้งนี้ในส่วนของปฏิบัติการฝนหลวงยังคงมีความจำเป็นต้องดำเนินการต่อไปตามแผนที่วางไว้ เพื่อให้ความชวยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนที่เกิดขึ้นแล้วในเวลานี้

ส่วนการปฏิบัติการฝนหลวงเพื่อป้องกันและบรรเทาปัญหาหมอกควันของภาคเหนือ ที่มักจะเกิดขึ้นในช่วงแล้งของทุกปี นายทรงกล่าวว่า นับเป็นภารกิจเสริมอีกอย่างหนึ่งของทางศูนย์ปฎิบัติการฝนหลวงภาคเหนือ ซึ่งทุกวันนี้ได้มีการติดตามจับตาดูสถานการณ์อย่างใกล้ชิดต่อเนื่องอยู่แล้ว และพร้อมที่จะปฏิบัติการทันทีที่เกิดปัญหาขึ้นโดยไม่จำเป็นต้องมีการร้องขอ อย่างไรก็ตาม จนถึงเวลานี้ปัญหาหมอกควันยังไม่ได้มีความรุนแรง จนถึงขั้นวิกฤตแต่อย่างใด และภาพรวมเมื่อเทียบกับปีที่แล้วถือว่าดีกว่าค่อนข้างมาก