อุตรดิตถ์ - วอนสาธารณสุข ส่งเจ้าหน้าที่ตรวจคุณภาพน้ำเหนือเขื่อนสิริกิติ์ หลังชาวบ้านใต้เขื่อนหลายหมู่บ้าน ต้องสูบน้ำจากเขื่อนมาใช้อุปโภค-บริโภคสู้ภัยแล้งปีนี้ ทั้งที่รู้อาจมีสารเคมีตกค้างจากเรือกสวน ไร่นาชาวบ้าน
นายรูม อินแจ้ นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ท่าแฝก อ.ท่าปลา จ.อุตรดิตถ์ กล่าวว่า เวลานี้ชาวบ้าน 84 หลังคาเรือนใน หมู่ 7 ต.ท่าแฝก กำลังเผชิญปัญหาภัยแล้ง ระบบการผลิตน้ำประปาไม่มีน้ำต้นทุนทำการผลิต ส่วนหมู่ 9 ต้องติดตั้งปั๊มน้ำเข้ากับระบบการผลิตประปา เพื่อสูบน้ำจากใต้ดินที่เจาะเพิ่มและรับน้ำจากรถบรรทุกน้ำมาใช้ผลิตน้ำประปา
ล่าสุด ได้ประกาศให้ ต.ท่าแฝก เป็นพื้นที่ประสบภัยแล้งแล้ว เพราะตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคมนี้ ชาวบ้านทั้ง 9 หมู่ 1,138 ครัวเรือน มากกว่า 4,000 คน จะต้องประสบกับการขาดน้ำซ้ำซากเหมือนทุกปี
นายรูม กล่าวว่า อบต.ท่าแฝก ตั้งงบประมาณไว้ 100,000 บาท เพื่อซื้อน้ำมันเติมรถบรรทุกน้ำสำหรับแจกจ่ายช่วยเหลือชาวบ้านที่เดือดร้อน แต่คาดว่าไม่เพียงพอ จึงได้หารือไปยังอำเภอแล้วเพื่อขอรับการสนับสนุนงบประมาณ แต่ไม่ทราบว่าจะได้รับหรือไม่ หากไม่ได้คงต้องขอรับการสนับสนุนไปยังองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) อุตรดิตถ์
เขาบอกว่า ปัญหาความเดือดร้อนจากภัยแล้ง ไม่เพียงคนเท่านั้นที่เดือดร้อน แต่บรรดาสัตว์เลี้ยงทั้งวัว ควาย ก็อดน้ำเช่นกันหลายครอบครัวต้องขาย เพราะหญ้าขาดน้ำแห้งตายจึงไม่มีให้สัตว์เลี้ยงกิน
“มีอีกหลายหมู่บ้านที่ประสบปัญหาภัยแล้ง ต้องอาศัยสูบน้ำจากอ่างเก็บน้ำเขื่อนสิริกิติ์ขึ้นมาอุปโภคบริโภค แม้จะรู้ว่าน้ำในอ่างเก็บน้ำเขื่อนสิริกิติ์ มีสารเคมีตกค้างจากการทำสวนทำไร่ปะปนอยู่จำนวนมาก ตอนนี้อาจจะยังไม่มีอันตรายหากเกิดการสะสมนานวันเข้าจะเป็นอันตรายได้ จึงอยากให้สาธารณสุขเข้ามาตรวจสอบคุณภาพน้ำ หากมีสารเคมีปะปนมากก็อยากให้ทำให้น้ำสะอาด นอกจากนี้ อยากให้ทางกระทรวงวิทยาศาสตร์เข้ามาตรวจสอบคุณภาพน้ำในอ่างเก็บน้ำเขื่อนสิริกิติ์ เพราะมีหลายอาชีพที่ต้องอาศัยน้ำจากเขื่อนเพื่อการยังชีพ” นายรูม กล่าว