กาฬสินธุ์-หนุ่มใบ้กาฬสินธุ์โร่แจ้งชาวบ้านหลังพบศพคนลอยอืดในคลองส่งน้ำชลประทานลำปาว ท่ามกลางความชื่นชมของชาวบ้านและเจ้าหน้าที่ ขณะที่สภาพอากาศที่ร้อนอบอ้าวทำให้มีเหตุจมน้ำเสียชีวิตวันเดียว 2 ศพรวด
ที่จังหวัดกาฬสินธุ์ เกิดเหตุคนจมน้ำเพียงวันเดียวมีผู้เสียชีวิตถึง 2 ศพ โดยรายแรกเกิดขึ้น เมื่อเวลา 08.00 น. พ.ต.ต.โด่งศักดิ์ นนทวงศ์ ร้อยเวรฯ สภ.เมืองกาฬสินธุ์ ได้รับแจ้งเหตุคนจมน้ำเสียชีวิตที่บริเวณทุ่งนาบ้านคอนเรียบ ต.หลุบ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ จึงได้ประสานไปยังเจ้าหน้าที่ชันสูตรรพ.กาฬสินธุ์ เจ้าหน้าที่กู้ภัยเต็กก่าจีสิ่งเกาะและรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุในทันที
โดยที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจได้พบร่างของผู้เสียชีวิตนำมาวางไว้บริเว๊คูน้ำท่ามกลางเสียงร้องไห้ดังระงมของบรรดาญาติพี่น้อง โดยผู้ตายทราบชื่อภายหลังคือ ดช.อนันต์ ปีรพันธ์ อายุ 7 ปี อยู่บ้านเลขที่ 72 หมู่ 11 บ้านคอนเรียบ ต.หลุบ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งได้ออกมาเกี่ยวหญ้าให้สัตว์เลี้ยงกับตาคือนายแสง รัตน์ชยา อายุ 72 ปี ตั้งแต่เช้ามืดกระทั่งถึงเวลาจะกลับเข้าบ้านเพื่อไปรับประทานอาหารเช้ากลับพบว่าลอยอยู่ในคลองส่งน้ำย่อยในเขตส่งน้ำชลประทานลำปาว
จากนั้นเมื่อเวลา 11.30 น. ร.ต.อ.สังคม เวียงปฏิ ร้อยเวรฯสภ.เมืองกาฬสินธุ์ ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่ามีผู้พบศพลอยอยู่ในคลองชลประทานลำปาว จึงประสานทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรุดไปที่เกิดเหตุในทันที โดยที่เกิดเหตุอยู่บริเวณคลองส่งน้ำชลประทาน ต.ลำพาน อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ มีประชาชนกว่า 200 คน มุงดูที่เกิดเหตุอย่างใกล้ชิดจนเจ้าหน้าที่ต้องกันออกจาพื้นที่เนื่องจากทำให้การจราจรติดขัดเป็นอย่างมาก โดยร่างของผู้ตายชาวบ้านได้นำขึ้นมาจากน้ำ ลักษณะศพแข็งทื่อทั้งตัวคาว่าน่าจะเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 5 ชั่วโมง และทราบชื่อภายหลังว่าผู้ตายคือนายบุญมี เกื้อปัญญา อายุประมาณ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 28 หมู่ 7 ต.ลำพน อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์
ทั้งนี้เพื่อนบ้านระบุว่าผู้ตาย ได้ออกจากบ้านมาตั้งแต่เย็นวานนี้ โดยมานั่งดื่มเหล้าที่ร้านค้าในหมู่บ้านจนเมามายอย่างหนักก่อนจะเดินออกมาจากหมู่บ้านและพบกลายเป็นศพในคลองชลประทานดังกล่าว โดยคาดว่าผู้ตายน่าจะลงเล่นน้ำเพื่อคลายร้อน ซึ่งจากการสอบถามเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบว่าผู้พบศพคนแรกคือนายโอเล่ ไม่ทราบนามสกุล เป็นชายอายุประมาณ 40 ปี พิการด้านการพูดเป็นใบ้ไม่สามารถสื่อสารได้ชัดเจน เป็นผู้พบศพคนแรกและได้วิ่งไปบอกชาวบ้านบริเวณใกล้เคียงที่กว่าจะสื่อสารได้และแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องใช้เวลาอธิบายตีความหมายจากภาษามือนานร่วมชั่วโมง
ชาวบ้านต่างพากันชื่นชมความเป็นพลเมืองดีของหนุ่มใบ้ และช่วยกันแปลภาษาให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ทำการสอบปากคำ ทั้งนี้หนุ่มใบ้ได้พยายามสื่อสารพื่อเป็นการร่วมมือกับเจ้าหน้าที่รัฐอย่างเต็มที่ทั้งภาษามือ แสดงสีหน้า ท่าทางต่าง ๆ ซึ่งทำให้เกิดเสียงหัวเราะผ่อนคลายในสภาพอากาศที่ร้อนอบอ้าวเป็นอย่างดี
ที่จังหวัดกาฬสินธุ์ เกิดเหตุคนจมน้ำเพียงวันเดียวมีผู้เสียชีวิตถึง 2 ศพ โดยรายแรกเกิดขึ้น เมื่อเวลา 08.00 น. พ.ต.ต.โด่งศักดิ์ นนทวงศ์ ร้อยเวรฯ สภ.เมืองกาฬสินธุ์ ได้รับแจ้งเหตุคนจมน้ำเสียชีวิตที่บริเวณทุ่งนาบ้านคอนเรียบ ต.หลุบ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ จึงได้ประสานไปยังเจ้าหน้าที่ชันสูตรรพ.กาฬสินธุ์ เจ้าหน้าที่กู้ภัยเต็กก่าจีสิ่งเกาะและรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุในทันที
โดยที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจได้พบร่างของผู้เสียชีวิตนำมาวางไว้บริเว๊คูน้ำท่ามกลางเสียงร้องไห้ดังระงมของบรรดาญาติพี่น้อง โดยผู้ตายทราบชื่อภายหลังคือ ดช.อนันต์ ปีรพันธ์ อายุ 7 ปี อยู่บ้านเลขที่ 72 หมู่ 11 บ้านคอนเรียบ ต.หลุบ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งได้ออกมาเกี่ยวหญ้าให้สัตว์เลี้ยงกับตาคือนายแสง รัตน์ชยา อายุ 72 ปี ตั้งแต่เช้ามืดกระทั่งถึงเวลาจะกลับเข้าบ้านเพื่อไปรับประทานอาหารเช้ากลับพบว่าลอยอยู่ในคลองส่งน้ำย่อยในเขตส่งน้ำชลประทานลำปาว
จากนั้นเมื่อเวลา 11.30 น. ร.ต.อ.สังคม เวียงปฏิ ร้อยเวรฯสภ.เมืองกาฬสินธุ์ ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่ามีผู้พบศพลอยอยู่ในคลองชลประทานลำปาว จึงประสานทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรุดไปที่เกิดเหตุในทันที โดยที่เกิดเหตุอยู่บริเวณคลองส่งน้ำชลประทาน ต.ลำพาน อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ มีประชาชนกว่า 200 คน มุงดูที่เกิดเหตุอย่างใกล้ชิดจนเจ้าหน้าที่ต้องกันออกจาพื้นที่เนื่องจากทำให้การจราจรติดขัดเป็นอย่างมาก โดยร่างของผู้ตายชาวบ้านได้นำขึ้นมาจากน้ำ ลักษณะศพแข็งทื่อทั้งตัวคาว่าน่าจะเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 5 ชั่วโมง และทราบชื่อภายหลังว่าผู้ตายคือนายบุญมี เกื้อปัญญา อายุประมาณ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 28 หมู่ 7 ต.ลำพน อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์
ทั้งนี้เพื่อนบ้านระบุว่าผู้ตาย ได้ออกจากบ้านมาตั้งแต่เย็นวานนี้ โดยมานั่งดื่มเหล้าที่ร้านค้าในหมู่บ้านจนเมามายอย่างหนักก่อนจะเดินออกมาจากหมู่บ้านและพบกลายเป็นศพในคลองชลประทานดังกล่าว โดยคาดว่าผู้ตายน่าจะลงเล่นน้ำเพื่อคลายร้อน ซึ่งจากการสอบถามเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบว่าผู้พบศพคนแรกคือนายโอเล่ ไม่ทราบนามสกุล เป็นชายอายุประมาณ 40 ปี พิการด้านการพูดเป็นใบ้ไม่สามารถสื่อสารได้ชัดเจน เป็นผู้พบศพคนแรกและได้วิ่งไปบอกชาวบ้านบริเวณใกล้เคียงที่กว่าจะสื่อสารได้และแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องใช้เวลาอธิบายตีความหมายจากภาษามือนานร่วมชั่วโมง
ชาวบ้านต่างพากันชื่นชมความเป็นพลเมืองดีของหนุ่มใบ้ และช่วยกันแปลภาษาให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ทำการสอบปากคำ ทั้งนี้หนุ่มใบ้ได้พยายามสื่อสารพื่อเป็นการร่วมมือกับเจ้าหน้าที่รัฐอย่างเต็มที่ทั้งภาษามือ แสดงสีหน้า ท่าทางต่าง ๆ ซึ่งทำให้เกิดเสียงหัวเราะผ่อนคลายในสภาพอากาศที่ร้อนอบอ้าวเป็นอย่างดี
