ตาก-ปปส. ตำรวจ เรือนจำ บูรณาการกำลัง ตรวจค้นเรือนจำอำเภอแม่สอด แต่ไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย ขณะเดียวกับ จนท.ได้รวบตัวลูกจ้างป่าไม้ ควงเมีย-ลูกชายวัย 3 ขวบซื้อยาบ้าใต้สะพานฯริมเมย อ้างไม่ได้เงินเดือนมา 3 เดือน ต้องหันมาค้ายาเสพติดหาเงินเลี้ยงครอบครัว
วันนี้(26 ก.พ.) ที่จังหวัดตาก พ.ต.อ.เดชชาติ วัฒนพนม ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรแม่สอด จ.ตาก พร้อมด้วยนายสุชาติ แก้วอ้น ผู้บัญชาการเรือนจำอำเภอแม่สอด นายจรรยา สระมัจฉา ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด(ปปส.) เขต 6. ภาคเหนือ ได้บูรณาการกำลังเจ้าหน้าที่ประมาณ 50 นายพร้อมอาวุธ เข้าตรวจค้นภายในเรือนจำแม่สอด สุดสัปดาห์นี้ โดยกระจายกำลังไปตามจุดต่างๆ เช่น ตรวจค้นตู้ อุปกรณ์ โรงฝึกงาน และจุดล่อแหลมต่างๆ แต่ไม่พบสิ่งผิดกฎหมายใดๆ ซึ่งก่อนเริ่มตรวจค้น เจ้าหน้าที่เรือนจำได้ให้นักโทษออกมาทั้งหมด และขอกุญแจห้องต่างๆ เพื่อเข้าตรวจค้นโดยไม่ให้รู้ตัวล่วงหน้ามาก่อน
นายสุชาติ กล่าวว่า นักโทษและผู้ต้องขัง ในเรือนจำอำเภอแม่สอด มีทั้งหมดประมาณ 800 คน แยกเป็นชายกว่า 600 คน หญิง กว่า 100 คน ส่วนมากเป็นคดียาเสพติด ซึ่งที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่เรือนจำได้มีการเฝ้าระวังมาโดยตลอด และตรวจสอบประวัตินักโทษแต่ละคน โดยเฉพาะนักโทษที่ย้ายมาใหม่ ซึ่งไม่มีปัญหาเรื่องยาเสพติดแต่อย่างใด และทางเรือนจำพร้อมให้ความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการเข้าไปตรวจค้นยาเสพติด ทั้งนี้เพื่อสนองนโยบายของกรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม ที่จะระวังและป้องกันการค้าและแพร่ระบาดของยาเสพติดในเรือนจำ
ขณะเดียวกัน ผกก.สภ.แม่สอด จ.ตาก ซึ่งได้รับแจ้งจากสายลับว่า มีบุคคลกำลังซื้อยาเสพติด บริเวณ ใต้สะพานมิตรไทย - พม่า ตลาดริมเมย หมู่ 2 ต.ท่าสายลวด อ.แม่สอด วานนี้(25 ก.พ.)จึงประสานกับ พ.อ.ประสาน แสงศิริรักษ์ เสนาธิการหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 4 แม่สอด (ฉก.ร.4)พร้อมนำกำลัง ตำรวจ-ทหาร เจ้าหน้าที่ตำรวจประจำจุดตรวจ 407 ท่าสายลวด เข้าจับกุมนาย เจษฎา คุ้มเณร อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 11/35 ถ.รามคำแหง ต.หัวเดียด อ.เมือง จ.ตาก ตรวจค้นพบยาบ้า สีส้ม จำนวน 59 เม็ดอยู่ในซองบุรี สีขาว กำอยู่ในมือข้างขวาของนายเจษฎา จนท.จึงควบคุมตัวพร้อมของกลางยาบ้าซึ่งเป็นยาบ้าชนิดใหม่ส่งให้พนักงานสอบสวน สภ.แม่สอด เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
โดยการจับกุมมีขึ้น หลังจนท.ได้สังเกตเห็นผู้ต้องหาพาภรรยาและลูกชาย วัย 3 ขวบ แฝงตัวเป็นนักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวบริเวณตลาดริมเมย และเห็นพิรุธผิดสังเกต โดยทำทีเป็นเดินเข้าไปซื้อบุหรี่-ยาไวอกร้า หนีภาษี อีกจำนวน 2 ชิ้น แต่มีการจ่ายเงินให้แก่กลุ่มพ่อค้าชาวพม่ามากจนผิดสังเกต จึงได้แสดงตัวเข้าทำการตรวจค้น จึงพบยาบ้าจำนวน 59 เม็ด ซุกซ่อนอยู่ในห่อซองบุหรี่หนีภาษีดังกล่าว จึงได้ควบคุมตัว พร้อมของกลางยาบ้า และรถจักรยานยนต์ยี่ห้อ ฮอนด้า สีดำ หมายเลขทะเบียน กยท 851 ตาก มาทำสอบสวนปัสสาวะพบว่าฉี่เป็นสีม่วง
จากการสอบสวนนายเจษฎา ให้การรับสารภาพ ว่ายาบ้าทั้งหมดเป็นของตนเอง โดยซื้อมาจากกลุ่มขบวนการค้ายาบ้าชาวพม่าที่บริเวณเกาะกลางใต้สะพานมิตรภาพไทย-พม่า จำนวน 59 เม็ด เป็นเงินจำนวน 9,200 บาท เตรียมจะนำไปจำหน่ายให้กับกลุ่มวัยรุ่นในพื้นที่อำเภอเมือง จังหวัดตากในราคาเม็ดละ 250 - 300 บาท
นายเจษฎา อ้างว่า เนื่องจากตนเองเป็นลูกจ้างป่าไม้อยู่ในหน่วยงานป้องกันและรักษาป่าไม้แห่งหนึ่งในพื้นที่ ซึ่งไม่ได้รับเงินตอบแทนของลูกจ้างป่าไม้มากว่า 3 เดือนแล้ว ทนเห็นสภาพครอบครัว เมีย ลูก อดอยาก ยากจนไม่ไหว จึงได้หาเงินมาทำทุนนำไปซื้อยาบ้าจากแก๊งค้ายาบ้าบริเวณใต้สะพานมิตรภาพฯ ซึ่งเพิ่งทำครั้งนี้เป็นครั้งแรก แต่มาถูกเจ้าหน้าที่ทหารจับตัวได้เสียก่อน
เจ้าหน้าที่จึงนำตัวนาย เจษฎา ผู้ต้องหาพร้อมของกลางยาบ้านำส่ง พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรแม่สอด ดำเนินคดีในข้อหา มียาบ้าไว้ในความครอบครองเพื่อเสพและจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต
เสนาธิการหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 4 กล่าวเพิ่มเติมว่า ห้วงระยะเดือนที่ผ่านมาทางเจ้าหน้าที่ สามารถจับได้ยาเสพติดประเภทยาบ้า ที่นำมาจากประเทศเพื่อนบ้าน จำนวนกว่า 10 ครั้ง ได้ยาบ้า รวมแล้วกว่า 19,000 เม็ด ส่วนมากเป็นยาบ้าพันธ์ที่มีชื่อเรียกว่า G84 (มีอักษร WY ตัวพิมพ์ใหญ่ โดยปกติ ทั่วไปอักษร wy เป็นตัวพิมพ์เล็ก) ซึ่งเป็นยาบ้าที่ผลิตขึ้นมาใหม่ในพื้นที่ด้านตรงข้ามชายแดนตาก
ส่วนสาเหตุที่แพร่ระบาดเข้ามามากสืบเนื่องจากสาเหตุหลายประการทั้งสภาพน้ำเมยที่เริ่มแห้งปริมาณลดน้อยลงทำให้สามารถนำข้ามแม่น้ำเมยมาได้ง่ายสามารถข้ามมาได้ทุกพื้นที่ และสืบเนื่องจากสถานการณ์ชายแดนในปัจจุบันที่มีสถานการณ์การสู้รบและมีการวางระเบิดก่อวินาศกรรมในพื้นที่ชายแดนฝั่งพม่าบ่อยครั้งทำให้ทางฝ่ายพม่าได้มีการควบคุมดูแลบริเวณแนวชายแดนริมแม่น้ำเมยอย่างเข้มงวด ทำให้การค้าชายแดนพลอยหยุดชะงักไปด้วย ทำให้มีการการหันมาค้ายาเสพติดกันมากขึ้น ซึ่งทาง จนท. ได้จัดกำลังพลทั้งหน่วยทหารราบ ทหารพราน และตำรวจตระเวนชายแดนที่ 34 ร่วมกับ ตำรวจแม่สอด ทำการหาข่าวจับกุม ปราบปรามอย่างต่อเนื่องเพื่อป้องกันและสกัดมิให้มีการแพร่ทะลักของยาบ้าดังกล่าวเข้าไปสู่พื้นที่ชั้นในของประเทศ