ศูนย์ข่าวศรีราชา- สถานการณ์น้ำในพื้นที่จังหวัดระยองไม่น่าเป็นห่วง ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำทุกแห่งมีเกินกว่าครึ่ง นอกจากนั้นยังมีแผนรองรับเต็มที่
นายเนตร อัจฉริยะพิทักษ์ ผู้อำนวยการโครงการชลประทานจังหวัดระยอง กล่าวถึงสถานการณ์น้ำในจังหวัดระยองในฤดูกาลนี้ว่า ไม่น่าเป็นห่วงหรือหวั่นวิกฤตจะประสบปัญหาภัยแล้งเหมือนหลายปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ เนื่องจากปัจจุบันปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำต่างๆ มีปริมาณน้ำเกินกว่าครึ่งในการกักเก็บ ประกอบด้วย อ่างเก็บน้ำหนองปลาไหล สามารถกักเก็บน้ำได้ 163.75 ล้าน ลบ.ม. มีน้ำเหลือประมาณ 75%, อ่างเก็บน้ำดอกกราย กักเก็บน้ำได้ 71.40 ล้านลบ.ม. มีน้ำเหลือ 60%, อ่างเก็บน้ำประแสร์ กักเก็บน้ำได้ 248 ล้าน ลบ.ม. มีปริมาณน้ำเหลอ 84% และอ่างเก็บน้ำคลองใหญ่ กักเก็บน้ำได้ 40.10 ล้าน ลบ.ม. มีปริมาณน้ำเหลือ 56% จึงไม่น่าหวั่นวิตกถึงปัญหาภัยแล้งหรือขาดแคลนน้ำในฤดูกาลนี้
ขณะนี้ปริมาณการใช้น้ำถือว่าเป็นไปตามปกติ ทั้งปริมาณฝน และการใช้น้ำขององค์กรหรือหน่วยงานต่างๆ เป็นปกติ จึงไม่น่าหวั่นวิตก แต่อย่างไรก็ตาม กรมชลประทานมีแผนรองรับสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นในระยะสั้นและระยะยาว เพื่อป้องกันปัญหาและผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นได้ อย่างทันท่วงที เช่น การวางท่อส่งน้ำไปยังแหล่งชุมชน เพื่อให้ชุมชนดำเนินการบริหารจัดการน้ำเอง, การจัดหาภาชนะกักเก็บน้ำ
นายเนตรกล่าวว่า สำหรับแผนระยะยาว คือ โครงการผันน้ำจากพื้นที่จังหวัดจันทบุรี ไปยังอ่างเก็บน้ำในจังหวัดระยอง โดยจะก่อสร้างระบบผันน้ำจากคลองวังโตนด จังหวัดจันทบุรี ไปยังอ่างเก็บน้ำประแสร์ จังหวัดระยอง ก่อนที่จะส่งน้ำต่อมายังอ่างเก็บน้ำคลองใหญ่ และอ่างเก็บน้ำหนองปลาไหล ทั้งนี้เพื่อให้มีปริมาณน้ำเพียงพอสำหรับการอุปโภคบริโภค การท่องเที่ยว และการอุตสาหกรรมในเขตจังหวัดระยอง
นอกจากนั้นยังมีโครงการผันน้ำจากพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยาฝั่งตะวันออกตอนล่าง ไปยังอ่างเก็บน้ำบางพระ จังหวัดชลบุรี โดยจะก่อสร้างระบบท่อผันน้ำจากคลองพระองค์เจ้าไชยานุชิต ไปยังอ่างเก็บน้ำบางพระ เพื่อเพิ่มปริมาณน้ำต้นทุนให้กับอ่างเก็บน้ำบางพระ ซึ่งเป็นแหล่งน้ำสำคัญของภาคอุตสาหกรรม การท่องเที่ยว การเกษตร และการอุปโภคบริโภค โดยทั้ง 2 โครงการอยู่ระหว่างขั้นตอนการดำเนินการโดยใช้ระยะเวลาประมาณ 700 วัน คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2555 นี้