เชียงราย - ศุลกากรเชียงของ ร่วมกับ นรข.เข้าตรวจยึดไม้พะยูงเต็มคันรถมูลค่านับล้าน ขณะเตรียมลักลอบขนลงเรือกาบในน้ำโขง คาดขนจากอุบลฯหวังส่งขายจีน ขณะคนงาน-คนเรือเห็นเจ้าหน้าที่ก่อนหนีรอดไปได้หมด
วันนี้ (22 ก.พ.54) นายธนาพันธ์ ลิ่ววัฒนากรณ์ รักษาการนายด่านศุลกากร อ.เชียงของ นำเจ้าหน้าที่ศุลกากรเชียงของ ร่วมกับหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง (นรข.) เขตเชียงราย ประจำสถานีเชียงของ ตรวจยึดท่อนซุงไม้พยุง 1 คันกว่า 61 ท่อน โดยเป็นไม้ยาวท่อนละกว่า 3-4 เมตร หน้ากว้างประมาณ 30 ซม. แต่ละท่อนมีสภาพสมบูรณ์ รวมมูลค่าที่ชายแดนประมาณ 980,000 บาทและหากส่งออกไปได้จะมีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 1 ล้านบาท และกำลังเตรียมลักลอบส่งออกที่ชายแดนโดยไม่ผ่านพิธีการทางศุลกากรอย่างถูกต้อง
โดยการตรวจยึดดังกล่าวมีขึ้นหลังจากเจ้าหน้าที่สืบทราบว่าจะมีการลักลอบส่งออกสินค้าผิดกฎหมาย จึงได้ทำการลาดตระเวนตลอดแนวชายแดน กระทั่งไปถึงบริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขงชายแดนไทย-สปป.ลาว ตรงบริเวณจุดผ่อนปรนหมู่บ้านหาดบ้าย ต.ริมโขง อ.เชียงของ ได้พบท่อนซุงจำนวนมากถูกกองเอาไว้ริมฝั่งและบางส่วนยังอยู่บนรถบรรทุกหกล้อ 1 คัน มีเรือกาบในแม่น้ำโขงเตรียมจะขนส่งเพื่อลำเลียงออกนอกประเทศ จึงเข้าไปตรวจสอบ
แต่ปรากฏว่าคนงานขนไม้ต่างไหวตัวและพากันหลบหนี ขณะที่เรือกาบได้แล่นออกจากฝั่งไปอย่างรวดเร็วเจ้าหน้าที่จึงเข้าไปตรวจยึดไม้ไว้
จากการตรวจสอบไม่พบผู้ใดแสดงตัวเป็นเจ้าของและท่อนไม้ซุงทั้งหมดเป็นไม้พะยูง ซึ่งเป็นไม้หายากและมีค่า รวมทั้งไม่มีเอกสารที่แสดงถึงการส่งออกอย่างถูกต้อง ขณะเดียวกันไม้ดังกล่าวถือเป็นของต้องห้ามในการสงออกนอกราชอาณาจักรด้วย จึงได้ทำการยึดไว้เป็นของกลางตามความผิดฐานลักลอบหนีศุลกากรตามมาตรา 27 แห่ง พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ. 2469 และเป็นของอันพึงริบตามมาตรา 16, 17 แห่ง พ.ร.บ.ศุลกากร ฉบับที่ 9 พ.ศ. 2482
นายธนาพันธ์กล่าวว่า ทางกรมศุลกากรและสำนักงานศุลกากรภาค 3 ได้มีนโยบายให้เข้มงวดกวดขันการลักลอบขนสินค้าหนีภาษี โดยให้ดำเนินการตรวจสอบอย่างเข้มงวด สำหรับท่อนไม้ซุงดังกล่าวสืบทราบว่าได้ลักลอบนำมาจากอีสานใต้คาดว่าน่าจะเป็นอุบลราชธานี และไม้ชนิดเดียวกันนี้เคยถูกเจ้าหน้าที่ตรวจยึดได้ที่อุบลฯ รวมทั้งถูกอายัดไว้ที่ท่าเรือใหญ่ๆ ของประเทศไทยแล้ว เพราะไม้ดังกล่าวเป็นที่นิยมของคนจีนที่ถือเป็นไม้มงคล จึงมีความพยายามในการจะลักลอบส่งออกไปจีนอย่างต่อเนื่อง
สำหรับชายแดนด้าน อ.เชียงของ ติดต่อกับ สปป.ลาว แต่มีเส้นทางเชื่อมไปยังมณฑลหยุนหนัน จีนตอนใต้ เพียงแค่ประมาณ 248 กิโลเมตร จึงความพยายามลักลอบส่งออกด้านนี้ แต่ถูกเจ้าหน้าที่ตรวจพบและเข้าไปยึดได้เสียก่อนดังกล่าว