กาญจนบุรี - จังหวัดกาญจนบุรีจัดพิธีอัญเชิญพระพุทธเมตตา ที่สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ประทานให้ประดิษฐานไว้ในหอพระประวัติฯจากวัดบวรนิเวศวิหารนำมาประดิษฐานเป็นการชั่วคราวก่อน ที่บริเวณวัดเทวสังฆาราม (วัดเหนือ) ต.บ้านเหนือ อ.เมือง จ.กาญจนบุรี เพื่อให้ประชาชนถวายสักการะเนื่องในวันมาฆบูชา เพื่อความเป็นสิริมงคล
นายณฐพลษ์ วิเชียรเพริศ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี เปิดเผยว่า เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ทรงมีพระเมตตาประทานพระพุทธเมตตา ซึ่งพระองค์ท่านมีความเคารพศรัทธามาก ก่อนที่จะเสด็จออกจากวัดบวรนิเวศวิหาร และก่อนเสด็จกลับพระตำหนัก ต้องถวายสักการะพระพุทธเมตตานี้ทุกครั้ง ให้จังหวัดกาญจนบุรีอัญเชิญมาประดิษฐานไว้ในอาคารหอพระประวัติ "สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก" ที่กำลังดำเนินการก่อสร้างอยู่ในขณะนี้
โดยให้อัญเชิญพระพุทธเมตตามาก่อนวันมาฆบูชา เพื่อให้ชาวพุทธศาสนิกชนจังหวัดกาญจนบุรีและประชาชนโดยทั่วไปได้ถวายสักการะบูชา เพื่อความสิริมงคล
ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี กล่าวว่า จังหวัดกาญจนบุรีได้กำหนดพิธีอัญเชิญพระพุทธเมตตา จากวัดบวรนิเวศวิหารมาประดิษฐานเป็นการชั่วคราวที่วัดเทวสังฆาราม (พระอารามหลวง) เมื่อวันอังคารที่ 15 กุมภาพันธ์ 2554 ที่ผ่านมา โดยขบวนอัญเชิญพระพุทธเมตตาจากวัดบวรนิเวศมาถึงจังหวัดกาญจนบุรี เมื่อเวลา 16.00 น.จัดพิธีสงฆ์และจัดงานเฉลิมฉลองโดยมีมหรสพสมโภชพร้อมเปิดโอกาสให้ประชาชนร่วมถวายสักการะตั้งแต่เวลา 17.30 น.เป็นต้นไป จึงขอเชิญพระพุทธศาสนิกชนชาวจังหวัดกาญจนบุรีและจังหวัดใกล้เคียง ร่วมถวายสักการะพระพุทธเมตตาได้ นับแต่วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2554 นี้เป็นต้นไป
ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี กล่าวอีกว่า วันที่ 3 ตุลาคม 2554 เป็นวันคล้ายวันประสูติ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายกและเป็นวาระที่ทรงเจริญพระชนมายุครบ 8 รอบ 96 พรรษา วัดบวรนิเวศวิหารเห็นชอบให้มีการจัดตั้งมูลนิธิในนามเจ้าประคุณสมเด็จพระสังฆราชขึ้น เพื่อบำเพ็ญประโยชน์ส่งเสริมกิจกรรมพระพุทธศาสนา ปกป้อง รัก และเชิดชูพระเกียรติคุณของสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก
ในปีนี้ วัดบวรนิเวศวิหารเห็นชอบตามที่คณะกรรมการมูลนิธิเสนอ “โครงการน้ำพระทัยสมเด็จพระสังฆราช ประธานอุปถัมภ์ทุนเพื่อการศึกษาเยาวชนของชาติ ผู้ตั้งใจเรียนดีแต่ขัดสนทุนทรัพย์ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระองค์ท่านโดยมูลนิธิฯ มอบทุนเบื้องต้นจำนวน 3 ทุน เป็นทุนระดับประถมศึกษา/ทุน ๆ ละ 5,000 บาท และทุนระดับมัธยมศึกษา 1 ทุน 8,๐๐๐ บาท รวม 18,000 บาท และมอบให้แต่ละจังหวัดไปดำเนินการจัดหาทุนเพิ่มเติมตามความเหมาะสม จังหวัดกาญจนบุรี ได้ตั้งคณะกรรมการจัดหาทุนขึ้นโดยตั้งเป้าหมายระดับประถมศึกษา 9 ทุน และระดับมัธยมศึกษา 9 ทุน
ปรากฏว่าการจัดหาทุนครั้งนี้ได้รับความร่วมมืออย่างดียิ่งจากคณะสงฆ์ ส่วนราชการ และภาคเอกชน อันควรแก่การขอบคุณไว้ ณ โอกาสนี้ ได้เงินทั้งหมดจำนวน 124,881 บาท จัดเป็นทุนการศึกษาระดับประถมศึกษาทุนละ 5,000 บาท จำนวน 8 ทุน และทุนระดับมัธยมศึกษาและ ปวช. ทุนละ 8,000 บาท จำนวน 10 ทุน รวมเป็นเงิน 120,000 บาท คงเหลือสมทบในปีต่อไป จำนวน 4,881 บาท
นายณฐพลษ์ วิเชียรเพริศ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี เปิดเผยว่า เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ทรงมีพระเมตตาประทานพระพุทธเมตตา ซึ่งพระองค์ท่านมีความเคารพศรัทธามาก ก่อนที่จะเสด็จออกจากวัดบวรนิเวศวิหาร และก่อนเสด็จกลับพระตำหนัก ต้องถวายสักการะพระพุทธเมตตานี้ทุกครั้ง ให้จังหวัดกาญจนบุรีอัญเชิญมาประดิษฐานไว้ในอาคารหอพระประวัติ "สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก" ที่กำลังดำเนินการก่อสร้างอยู่ในขณะนี้
โดยให้อัญเชิญพระพุทธเมตตามาก่อนวันมาฆบูชา เพื่อให้ชาวพุทธศาสนิกชนจังหวัดกาญจนบุรีและประชาชนโดยทั่วไปได้ถวายสักการะบูชา เพื่อความสิริมงคล
ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี กล่าวว่า จังหวัดกาญจนบุรีได้กำหนดพิธีอัญเชิญพระพุทธเมตตา จากวัดบวรนิเวศวิหารมาประดิษฐานเป็นการชั่วคราวที่วัดเทวสังฆาราม (พระอารามหลวง) เมื่อวันอังคารที่ 15 กุมภาพันธ์ 2554 ที่ผ่านมา โดยขบวนอัญเชิญพระพุทธเมตตาจากวัดบวรนิเวศมาถึงจังหวัดกาญจนบุรี เมื่อเวลา 16.00 น.จัดพิธีสงฆ์และจัดงานเฉลิมฉลองโดยมีมหรสพสมโภชพร้อมเปิดโอกาสให้ประชาชนร่วมถวายสักการะตั้งแต่เวลา 17.30 น.เป็นต้นไป จึงขอเชิญพระพุทธศาสนิกชนชาวจังหวัดกาญจนบุรีและจังหวัดใกล้เคียง ร่วมถวายสักการะพระพุทธเมตตาได้ นับแต่วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2554 นี้เป็นต้นไป
ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี กล่าวอีกว่า วันที่ 3 ตุลาคม 2554 เป็นวันคล้ายวันประสูติ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายกและเป็นวาระที่ทรงเจริญพระชนมายุครบ 8 รอบ 96 พรรษา วัดบวรนิเวศวิหารเห็นชอบให้มีการจัดตั้งมูลนิธิในนามเจ้าประคุณสมเด็จพระสังฆราชขึ้น เพื่อบำเพ็ญประโยชน์ส่งเสริมกิจกรรมพระพุทธศาสนา ปกป้อง รัก และเชิดชูพระเกียรติคุณของสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก
ในปีนี้ วัดบวรนิเวศวิหารเห็นชอบตามที่คณะกรรมการมูลนิธิเสนอ “โครงการน้ำพระทัยสมเด็จพระสังฆราช ประธานอุปถัมภ์ทุนเพื่อการศึกษาเยาวชนของชาติ ผู้ตั้งใจเรียนดีแต่ขัดสนทุนทรัพย์ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระองค์ท่านโดยมูลนิธิฯ มอบทุนเบื้องต้นจำนวน 3 ทุน เป็นทุนระดับประถมศึกษา/ทุน ๆ ละ 5,000 บาท และทุนระดับมัธยมศึกษา 1 ทุน 8,๐๐๐ บาท รวม 18,000 บาท และมอบให้แต่ละจังหวัดไปดำเนินการจัดหาทุนเพิ่มเติมตามความเหมาะสม จังหวัดกาญจนบุรี ได้ตั้งคณะกรรมการจัดหาทุนขึ้นโดยตั้งเป้าหมายระดับประถมศึกษา 9 ทุน และระดับมัธยมศึกษา 9 ทุน
ปรากฏว่าการจัดหาทุนครั้งนี้ได้รับความร่วมมืออย่างดียิ่งจากคณะสงฆ์ ส่วนราชการ และภาคเอกชน อันควรแก่การขอบคุณไว้ ณ โอกาสนี้ ได้เงินทั้งหมดจำนวน 124,881 บาท จัดเป็นทุนการศึกษาระดับประถมศึกษาทุนละ 5,000 บาท จำนวน 8 ทุน และทุนระดับมัธยมศึกษาและ ปวช. ทุนละ 8,000 บาท จำนวน 10 ทุน รวมเป็นเงิน 120,000 บาท คงเหลือสมทบในปีต่อไป จำนวน 4,881 บาท