น่าน - ชาวบ้านอำเภอปัว กว่า 200 คน รวมตัวขับไล่หัวหน้าส่วนโยธา อบต.สถาน หลังกินรวบงานประมูลและรับเหมาก่อสร้าง แต่งานไม่ได้มาตรฐาน มานานกว่า 10 ปี
วันนี้ (17 ก.พ.) ชาวบ้านอำเภอปัว 12 หมู่บ้าน ต.สถาน อ.ปัว จ.น่าน กว่า 200 คน นำโดย นางพร สุวรรณนนท์ กำนันตำบลสถาน ได้รวมตัวบริเวณด้านหน้าองค์การบริหารส่วนตำบลสถาน พร้อมใช้เครื่องขยายเสียงกล่าวโจมตีการทำงานที่ไม่โปร่งใส และร้องโห่ขับไล่นายคณาวุฒิ สิงห์ธนะ หัวหน้าส่วนโยธา นักบริหารงานช่าง ระดับ 7 โดยชาวบ้านได้แสดงความไม่พอใจอย่างมาก และต้องการให้ย้ายนายคณาวุฒิ ออกจากตำแหน่งทันที
นายแสวง สามส้าน 1 ในกลุ่มชาวบ้าน กล่าวว่า หัวหน้าช่างโยธา ทำงานรับผิดชอบในตำแหน่งดูแลเรื่องงานก่อสร้างสาธารณูปโภคในตำบลสถาน และทำงานในตำแหน่งนี้มานานกว่า 10 ปี โดยจะทราบการประมูลงาน และส่งต่องานให้กับผู้รับเหมา ซึ่งเป็นของภรรยาและพวกพ้องของตนเอง
ปรากฏว่า งานก่อสร้างถนนในหมู่บ้าน คลองส่งน้ำ หลายโครงการไม่ได้มาตรฐาน แต่นายคณาวุฒิ เป็นผู้ตรวจรับงาน ก็จะให้งานผ่าน ทำให้ชาวตำบลสถานได้รับความเดือดร้อน
ทั้งนี้ บรรยากาศการชุมนุมเป็นไปด้วยความตึงเครียด ชาวบ้านพลัดกันกล่าวโจมตีการทำงานที่ไม่โปร่งใสของนายคณาวุฒิ และโห่ร้องกดดันให้ขับไล่ให้ออกจากตำแหน่ง ท่ามกลางการดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปัว เพื่อป้องกันเหตุการณ์ความรุนแรงที่อาจเกิดขึ้นได้
ต่อมา นายอุดม จิตอารี นายก อบต.สถาน ได้ออกมารับฟังข้อเรียกร้องของชาวบ้าน โดยชาวบ้านได้เรียกร้องให้นายคณาวุฒิ แสดงตัวเพื่อรับผิด แต่เพื่อเป็นการป้องกันเหตุการณ์ปะทะของชาวบ้านกับ นายคณาวุฒิ ที่อาจบานปลายเกิดความรุนแรง จึงได้อ้างว่า นายคณาวุฒิ ได้ขอลาพักงาน ซึ่งได้สร้างความไม่พอใจให้กับชาวบ้านเป็นอย่างมาก
เมื่อชาวบ้านบางส่วนทราบว่า นายคณาวุฒิ หลบหน้าอยู่ภายในสำนักงาน ทำให้เกิดความวุ่นวายโกลาหลขึ้น โดยกลุ่มชาวบ้านพยายามเข้าให้ถึงตัวนายคณาวุฒิ เพื่อให้แสดงตัวรับผิดชอบ ซึ่งหลายคนเกรงว่าอาจเกิดความรุนแรงขึ้นได้ ท้ายที่สุดนายอุดม ก็พยายามเจรจาให้เหตุการณ์ยุติลงได้
จากนั้นได้เปิดห้องประชุมเพื่อหารือร่วมกัน โดยมี นายอุดม จิตอารี นายก อบต.สถาน-นายชุมพล สูงงาม ตัวแทนฝ่ายท้องถิ่นอำเภอปัว และแกนนำชาวบ้าน ซึ่งใช้เวลานานกว่า 30 นาที จึงได้ข้อสรุปว่า ทางท้องถิ่นอำเภอ จะย้าย นายคณาวุฒิ ออกจากตำแหน่งหัวหน้าส่วนโยธา อบต.สถาน และแขวนชื่อไว้ก่อน เพื่อตั้งคณะกรรมการสอบสวนและหากมีความผิดจริง จะต้องดำเนินการตามขั้นตอนและระเบียบต่อไป ทำให้ชาวบ้านได้พอใจกับคำตอบ ก่อนแยกย้ายกันไปในที่สุด