สระแก้ว - ผบ.ร้อยทหารพราน ยื่นฟ้องศาลจังหวัดสระแก้วขอความเป็นธรรม หลังเข้าจับกุมแก๊สเถื่อนส่งขายกัมพูชา แต่เจอตอบิ๊กมีสีเบื้องหลังทั้งค้าของเถื่อน แรงงานเถื่อน แอบขุดทองในที่โครงการ “เจ้าฟ้าหญิงจุฬาภรณ์” จนทำเดือดร้อนถูกสั่งย้ายไม่ชอบธรรม ทนไม่ไหวดับเครื่องชนลั่นพร้อมแฉทุกเรื่องเพื่อเรียกศักดิ์ศรีคืน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ร.อ.ทองทศ มากสาคร ผบ.ร้อยทหารพรานกรมที่ 13 ประจำอยู่ที่ อ. คลองหาด จ.สระแก้ว ได้เดินทางเข้ายื่นเรื่องแจ้งความร้องทุกข์ต่อศาลจังหวัดสระแก้ว หลังนำกำลังเข้าจับกุมรถบรรทุกแก๊สหุงต้มที่ลักลอบส่งเข้าไปในประเทศกัมพูชา จำนวน 180 ถัง บริเวณแนวชายแดนของอำเภอคลองหาด เมื่อคืนวันที่ 21 ตุลาคม 2553 ที่ผ่านมา
หลังทำการจับกุมแก๊สแล้ว ทราบว่ามีนายทหารระดับสูงของจังหวัดสระแก้วอยู่เบื้องหลังการค้าแก๊สเถื่อนดังกล่าว จนถูกข่มขู่มาโดยตลอด อีกทั้งล่าสุดร้อยเอกทองทศ ยังถูกย้ายไปช่วยราชการที่ พล.1 รักษาพระองษ์ หลังถูกย้ายแล้วเรื่องยังไม่ยุติ โดยถูกใส่ร้ายต่างๆ นานา จนตัดสินใจดับเครื่องชนเพื่อเรียกศักดิ์ศรีกลับคืน และเพื่อเรียกขวัญของทหารหาญที่ทำงานอย่างตรงไปตรงมากลับคืนมา
ร.อ.ทองทศกล่าวต่อไปว่า ปัจจุบันทหารหาญที่อยู่หน้าแนวต่างต้องทำใจทนดูผู้บังคับบัญชา ทำสิ่งผิดกฎหมาย ไม่ว่าจะเป็นการนำแก๊สเถื่อนเข้ากัมพูชา การขนแรงงานเถื่อน ซึ่งกระทำกันอย่างไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย และที่แย่ไปกว่านั้นคือ มีการนำเครื่องจักรเข้าไปขุดทองคำที่ทับทิมสยาม 05 ของสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ฯ ที่เขาตาง็อก
“ปัญหาต่างๆ เป็นเรื่องใหญ่ที่ทหารชั้นผู้น้อยถูกรังแก จนต้องออกมาเรียกร้องความเป็นธรรม ขอให้ผู้สื่อข่าวนำนายทหารนายนี้ออกรายการทีวี เพื่อที่จะทำให้ส่วยชายแดนที่สระแก้วลดน้อยลง โดยเฉพาะการนำเครื่องจักรกลเข้าไปขุดทองคำในที่โครงการของพระองค์ท่าน ผมมีภาพการลักลอบขุดทองคำ และภาพขนแรงงานเถื่อน ที่หน้ากองร้อยทหารพรานด้วย” ร.อ.ทองทศกล่าว
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวได้เข้าไปสำรวจตรวจสอบสถานที่ที่ร้องเรียน พบว่ามีการขุดแร่ทองคำจริง โดยพบร่องรอยการขุดแล้วถึง 1,400 บ่อ โดยมีคนไทยเป็นผู้ควบคุมงาน นอกจากนั้นมีการขนแรงงานเถื่อนทั้งกลางวันและกลางคืนออกเส้นทางนี้อีกด้วย ที่สำคัญแก๊สหุงต้มก็ทะลักออกทางนี้แทบทุกคืน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ร.อ.ทองทศ มากสาคร ผบ.ร้อยทหารพรานกรมที่ 13 ประจำอยู่ที่ อ. คลองหาด จ.สระแก้ว ได้เดินทางเข้ายื่นเรื่องแจ้งความร้องทุกข์ต่อศาลจังหวัดสระแก้ว หลังนำกำลังเข้าจับกุมรถบรรทุกแก๊สหุงต้มที่ลักลอบส่งเข้าไปในประเทศกัมพูชา จำนวน 180 ถัง บริเวณแนวชายแดนของอำเภอคลองหาด เมื่อคืนวันที่ 21 ตุลาคม 2553 ที่ผ่านมา
หลังทำการจับกุมแก๊สแล้ว ทราบว่ามีนายทหารระดับสูงของจังหวัดสระแก้วอยู่เบื้องหลังการค้าแก๊สเถื่อนดังกล่าว จนถูกข่มขู่มาโดยตลอด อีกทั้งล่าสุดร้อยเอกทองทศ ยังถูกย้ายไปช่วยราชการที่ พล.1 รักษาพระองษ์ หลังถูกย้ายแล้วเรื่องยังไม่ยุติ โดยถูกใส่ร้ายต่างๆ นานา จนตัดสินใจดับเครื่องชนเพื่อเรียกศักดิ์ศรีกลับคืน และเพื่อเรียกขวัญของทหารหาญที่ทำงานอย่างตรงไปตรงมากลับคืนมา
ร.อ.ทองทศกล่าวต่อไปว่า ปัจจุบันทหารหาญที่อยู่หน้าแนวต่างต้องทำใจทนดูผู้บังคับบัญชา ทำสิ่งผิดกฎหมาย ไม่ว่าจะเป็นการนำแก๊สเถื่อนเข้ากัมพูชา การขนแรงงานเถื่อน ซึ่งกระทำกันอย่างไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย และที่แย่ไปกว่านั้นคือ มีการนำเครื่องจักรเข้าไปขุดทองคำที่ทับทิมสยาม 05 ของสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ฯ ที่เขาตาง็อก
“ปัญหาต่างๆ เป็นเรื่องใหญ่ที่ทหารชั้นผู้น้อยถูกรังแก จนต้องออกมาเรียกร้องความเป็นธรรม ขอให้ผู้สื่อข่าวนำนายทหารนายนี้ออกรายการทีวี เพื่อที่จะทำให้ส่วยชายแดนที่สระแก้วลดน้อยลง โดยเฉพาะการนำเครื่องจักรกลเข้าไปขุดทองคำในที่โครงการของพระองค์ท่าน ผมมีภาพการลักลอบขุดทองคำ และภาพขนแรงงานเถื่อน ที่หน้ากองร้อยทหารพรานด้วย” ร.อ.ทองทศกล่าว
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวได้เข้าไปสำรวจตรวจสอบสถานที่ที่ร้องเรียน พบว่ามีการขุดแร่ทองคำจริง โดยพบร่องรอยการขุดแล้วถึง 1,400 บ่อ โดยมีคนไทยเป็นผู้ควบคุมงาน นอกจากนั้นมีการขนแรงงานเถื่อนทั้งกลางวันและกลางคืนออกเส้นทางนี้อีกด้วย ที่สำคัญแก๊สหุงต้มก็ทะลักออกทางนี้แทบทุกคืน
