ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - เกิดอุบัติเหตุหมู่ รถโดยสารปรับอากาศชั้น 2 สาย “ราชสีมา-ศรีเชียงใหม่” ยางระเบิดเสียหลักพลิกคว่ำสยอง ผู้โดยสารดับคาที่ 5 ศพ บาดเจ็บระนาวกว่า 30 คน บริเวณ ถ.มิตรภาพ อ.คง โคราช ตำรวจรวบตัวคนขับได้ทันควัน
วันนี้ (10 ก.พ.) เมื่อเวลา 11.30 น. พ.ต.ท.ธนวัฒน์ พูลเฉลิม พนักงานสอบสวน (สบ3) สภ.คง อ.คง จ.นครราชสีมา ได้รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถโดยสารประจำทางพลิกคว่ำ เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก ที่บริเวณ กม.ที่ 204-205 ถ.มิตรภาพ ขาออกจากตัวเมืองนครราชสีมา บ้านทุ่งแหลมทอง ต.ตาจั่น อ.คง จ.นครราชสีมา จึงนำกำลังรุดตรวจสอบที่เกิดเหตุ
ในที่เกิดเหตุพบรถโดยสารประจำทางปรับอากาศชั้น 2 สีส้มขาว หมายเลขข้างรถ 262-11 หมายเลขทะเบียนรถ 10-6539 นครราชสีมา สายราชสีมา-อุดรธานี-ขอนแก่น-ศรีเชียงใหม่ ของ บริษัท ประหยัดทัวร์ จำกัด สภาพพังยับเยิน พลิกคว่ำอยู่ร่องกลางถนน กระจกหน้าและด้านซ้ายของรถแตกกระจาย ยางล้อหลังด้านซ้ายระเบิด มีผู้โดยสารได้รับบาดเจ็บกว่า 30 ราย
มีผู้เสียชีวิตทันทีในที่เกิดเหตุจำนวน 5 ราย เป็นชาย 3 หญิง 2 ทราบชื่อผู้เสียชีวิตเพียง 2 รายคือ นายจำรูญ นะเสวี อายุ 36 ปี ชาว อ.เมือง จ.จันทบุรี และ นายกีรติ ปานธนนท์ อยู่บ้านเลขที่ 8/23 หมู่ 3 ต.ท่าช้าง อ.เมือง จ.จันทบุรี ส่วนอีก 3 ราย ไม่พบเอกสารยืนยัน ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้นำผู้บาดเจ็บส่งเข้ารักษาที่โรงพยาบาลคง อ.คง, โรงพยาบาลโนนแดง อ.โนนแดง และ โรงพยาบาลพิมาย อ.พิมาย ส่วนผู้บาดเจ็บสาหัสจำนวน 6 ราย ส่งรักษาต่อที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา และ โรงพยาบาลกรุงเทพฯ-ราชสีมา อ.เมือง ซึ่งในจำนวนนี้มีผู้บาดเจ็บบาดเป็นชาวต่างชาติด้วย 1 ราย
ทั้งนี้ จากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทราบว่า คนขับรถโดยสารประจำทางคันเกิดเหตุดังกล่าว คือ นายทองใบ ศรีโนรักษ์ อายุ 48 ปี บ้านเลขที่ 189 หมู่ 1 บ้านนาพู่ อ.เพ็ญ จ.อุดรธานี ซึ่งได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยให้ปากคำ ว่า ได้รับผู้โดยสารออกมาจากสถานีขนส่งผู้โดยสารนครราชสีมาแห่งที่ 2 ถ.มิตรภาพ อ.เมือง จ.นครราชสีมา มาประมาณ 30 คน มุ่งหน้าไปยังจังหวัดอุดรธานี เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ ซึ่งวิ่งรถมาด้วยความเร็ว ประมาณ 80 กิโลเมตร/ชั่วโมง ได้ยินเสียงคล้ายยางรถระเบิด จากนั้นไม่สามารถควบคุมรถได้ จึงเสียหลักพลิกคว่ำหลายตลบลงร่องกลางถนน ทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บดังกล่าว
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัว นายทองใบ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ส่วนสาเหตุที่แน่ชัดเจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำการสอบสวนอีกครั้งหนึ่ง