ตราด -สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ด้าน จ.ตราด หาดเล็ก ท่าเส้น ค้าขายคึกคัก ด่านศุลกากรคลองใหญ่ตรวจชายแดน เผยค้าขายกระทบบ้างแต่แค่ระยะสั้น ด้านทหารไทยกัมพูชาจับมือไม่มีปัญหา ขณะ ผบ.นย.ตรวจชายแดนสั่งเตรียม 100%
สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านจังหวัดตราดตั้งแต่ ต.หนองบอน อ.บ่อไร่ ถึงบ้านหาดเล็ก อ.คลองใหญ่ ภายหลังทหารไทย-กัมพูชา ยิงสู้รบกันที่จังหวัดศรีษะเกษนั้นไม่น่าเป็นห่วง
ที่จุดผ่านแดนถาวรบ้านหาดเล็ก อ.คลองใหญ่ นายอดิศร สิทธิชอบธรรม ผู้ช่วยนายด่านศุลกากรคลองใหญ่ นายวิชัย กันสาด นักวิชาการศุลกากร พร้อมเจ้าหน้าที่เดินทางตรวจที่บริเวณจุดผ่านแดนถาวรบ้านหาดเล็ก เพื่อตรวจดูสถานการณ์ พบว่า ยังมีพ่อค้าแม่ค้าชาวกัมพูชาเดินทางเข้ามาซื้อสินค้าในตลาดชายแดนบ้านหาดเล็กจำนวนกว่า 300 คน ซึ่งถือว่าเป็นไปตามปกติ
ขณะที่ พ่อค้า-แม่ค้าชาวไทยสามารถขายสินค้าได้มากขึ้น แต่เป็นที่น่าสังเกตว่านักท่องเที่ยวชาวไทยและผู้เล่นพนันเดินทางเข้ายังบ้านหาดเล็กและเดินทางเข้าไปยังฝั่งกัมพูชาน้อยลง ซึ่จากเดิมที่มีอยู่จำนวน 200-300 คน แต่ขณะนี้มีเพียงไม่ถึง 100 คน
ขณะที่จุดผ่อนปรนการค้าชั่วคราว บ้านท่าเส้น ต.แหลมกลัด อ.เมือง ที่เป็นที่ตั้งองตลาดถาวรค้าชายแดน ปรากฎว่า บริเวณฐานทหารพรานนาวิกโยธินที่ 535 บ้านท่าเส้น มีชาวบ้านทมอดา ต.ทมอดา อ.เวียงเวล จ.โพธิสัต นำสินค้าและของป่ามาขายในตลาดบ้านท่าเส้นโดยก่อนลงมาจากชายแดนได้ลงทะเบียนเข้า-ออก ที่ฐานบ้านท่าเส้นตำรสร 220 คน และไม่ได้วิตกกังวลกับความขัดแย้งที่เกิดขึ้นระหว่าง 2 ประเทศ
ร.อ.ซก อุล ผบ.กองลาดตะเวนที่ 2 กองพัน 501 (คลองม่วง) อ.เวียงเวล จ.โพธิสัต ที่เดินทางมาประสานงานกับ ร.อ.ณัฐพงษ์ ปรีดารัตน ผบ.ร้อย ทพ.นย.ที่ 535 (บ้านท่าเส้น) พร้อมนายอดิสร สิทธิชอบธรรม ได้ร่วมกันสนทนาถึงสถานการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นใน จ.ศรีสะเกษ และยืนยันว่าสถานการณ์ในพื้นที่ไม่มีความขัดแย้งใดๆ
โดยในขณะนี้ผู้บัญชาการทหารภูมิภาคที่ 5 (พล.ท.บุญเช็ง) ได้ย้ำเตือนทหารกัมพูชาในชายแดนให้เตรียมพร้อมก็ตาม แต่ทหารทั้ง 2 ฝ่าย มีความสัมพันธ์ที่ดีและยังติดต่อไปมากันตลอดแนวด้านจังหวัดตราด ซึ่งระหว่างสนทนาทั้ง 2 ฝ่ายได้ร่วมดื่มกาแฟและร่วมกันจับมือแสดงความสามัคคีและร่วมมือกัน
ร.อ.ซุก อุล กล่าวว่า ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นเป็นเพียงจุดเดียวในพื้นที่ทางเหนือของกัมพูชา แต่ในพื้นที่ด้านตะวันออกใน จ.พระตะบอง และโพธิสัต ไม่มีความขัดแย้งใดๆ ประชาชนทั้ง 2 ฝ่าย ยังสามารถเดินทางไป-มาหาสู่กันได้ รวมทั้งการทำการค้าระหว่างกันก็ทำได้อย่างปกติ ที่ผ่านมา แม้สถานการณ์ในด้านอื่นจะมีการสู้รบแต่ทหารกัมพูชาและทหารไทยในพื้นที่จังหวัดตราด ไม่เคยเปิดการสู้รบกันแต่กลับมานั่งสนทนากันตามปกติ และยืนยันว่าทั้ง 2 ฝ่ายคือเพื่อนกัน
ขณะที่ ร.อ.ณัฐพงษ์ กล่าวว่า ทางทหารไทยด้าน จ.ตราด ได้เตรียมความพร้อมตลอดแนวชายแดน เฉพาะที่บ้านท่าเส้นมีความพร้อม 100% และได้เรียกกำลังพลที่หยุดกลับเข้ามาประจำฐานตามปกติ ขณะที่ได้มีการประสานงานระหว่างทหารชายแดนทั้งสองฝ่ายอย่างใกล้กัน
และไม่น่ามีเหตุการณ์ใดๆ ที่จะนำไปสู่ความขัดแย้ง ขณะที่ประชาชน ชาวกัมพูชายยังคงเดินทางมาขายสินค้าและซื้อสินค้าจากฝั่งจังหวัดตราด โดยทางทหารจะเป็นผู้จดทะเบียนเข้า-ออก ซึ่งเป็นไปตามปกติ อีกทั้งทหารกัมพูชาในพื้นที่นี้ต้องอาศัยสินค้าและอาหารจากฝั่งตราด เนื่องจากหากเดินทาไงปยังจังหวัดโพธิสัตจะลำบากและใช้เวลานานหลายวัน
ขณะบรรยากาศภายในฐานท่าเส้น ทหารพรานนาวิกโยธินที่ 535 กำลังเฝ้าติดตามสถานการณ์การสู้รบที่จังหวัดศรีสะเกษ จากสถานีโทรทัศน์ที่รายงานสถานการณ์ตามแนวชายแดนอย่างสนใจ และมีการวิพากษ์วิจารณ์ถึงสาเหตุที่เกิดขึ้น
โดยบริเวณฐานได้มีการเตรียมความพร้อมทั้งกำลังพล เครื่องมือสื่อสาร รถยนต์ เพื่อดำเนินการตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชา หากมีสถานการณ์ใดๆ เกิดขึ้น พร้อมกันนี้ เจ้าอาวาสวัดสะพานหิน เดินทางขึ้นมามอบวัตถุมงคลให้กับเหล่าทหารพรานนาวิกโยธินของฐานบ้านท่าเส้นทุกคนเพื่อให้เป็นขวัญกำลังใจกับทุกคน
สำหรับสถานการณ์ชายแดนด้าน จ.ตราด พล.ร.ท.พงษ์ศักดิ์ ภูรีโรจน์ ผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด และผู้บัญชาการนาวิกโยธิน ได้เดินทางมาตรวจเยี่ยมพื้นที่ชายแดนและหน่วยทหารนาวิกโยธินที่ อ.บ่อไร่ อ.เมือง และ อ.คลองใหญ่ เพื่อมอบนโยบายและมอบขวัญและกำลังใจ และให้ทหารนาวิกโยธินในพื้นที่เตรียมความพร้อม 100% โดยหากมีคำสั่งใดๆ ก็สามารถดำเนินการได้ทันที
นอกจากนี้ กองเรือภาคที่ 1 กองทัพเรือภาค 1 นำกองเรือรบจำนวนหนึ่งเข้ามาเสริมในพื้นที่ด้านทะเลด้านจังหวัดตราด ตั้งแต่บ้านหาดเล็ก อำเภอคลองใหญ่ ถึงอำเภอเกาะกูด โดยมีฐานทหารเรือที่บ้านแหลมเทียน อ.เกาะกูด ฐานส่งกำลังบำรุงทหารเรือตราด ที่บ้านธรรมชาติ อำเภอแหลมงอบ จังหวัดตราด เป็นศูนย์ในการสนับสนุนกำลังทหาร และกำลังอาวุธด้วย