กาญจนบุรี - พบ 2 พี่น้องเป็นหญิงวัยชรา ชีวิตสุดรันทด อาศัยอยู่ภายในบ้านหลังเก่าสภาพเสื่อมโทรม ฐานะสุดยากจน บางวันไม่มีอาหารยอมกินแม้กระทั่งแมลงสาบ หรือหนูที่วิ่งผ่านมาเพื่อประทังชีวิต วอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือ นายอำเภอาสังขละบุรี เต้นสั่งให้ช่วยเหลือ 2 หญิงชราทันที
เมื่อเวลา 09.00 น.วันนี้ (3 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจาก นายสิริชัย สังขจรัส อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 38/1 หมู่ 3 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี ว่า มีสองพี่น้องเป็นหญิงวัยชราอาศัยอยู่บ้านไม่มีเลขที่สภาพเสื่อมโทรม ฐานะทางบ้านยากจน บางวันไม่มีอาหารยอมกินแม้กระทั่งแมลงสาบ หรือหนู ที่วิ่งผ่านเข้ามาภายในบ้านเพื่อประทังชีวิตให้อยู่รอดไปวันๆ หลังจากได้รับแจ้งผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปพบกับสองพี่น้องวัยชรา เพื่อดูสภาพความเป็นอยู่
เมื่อไปถึงพบสภาพบ้านหลังดังกล่าวอยู่ในสภาพที่เสื่อมโทรมเป็นอย่างมาก ฝาบ้านทำด้วยไม้ไผ่ขัดแตะสภาพเก่า พื้นบ้านทำด้วยฟากไม้ไผ่ ส่วนหลังคามุงด้วยสังกะสี ภายในบ้านพบสองพี่น้องวัยชรากำลังนั่งทานอาหาร ซึ่งประกอบไปด้วย ขนมจีน และ มาม่า โดยอาหารทั้งสองอย่างทราบว่ามีเพื่อนบ้านที่พอจะมีฐานะนำมาให้เพราะเกิดความสงสาร
ทราบชื่อหญิงชราทั้งสอง คือ ยายบัวเงิน ปัญญา อายุ 75 ปี อยู่บ้านเลขที่ 7 หมู่ 3 ต.ปรังเผล อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี และยาย ดวงใจ กันทิมา อายุ 80 ปี พี่สาว
ยายบัวเงิน ปัญญา เล่าให้ฟังว่า ยายและพี่สาวเกิดที่ตำบลปลังเผล แต่ย้ายมาอาศัยอยู่บ้านหลังปัจจุบันมานานกว่า 50 ปีแล้ว โดยบ้านหลังนี้มีฝรั่งใจดีที่มาเห็นสภาพความเป็นอยู่เป็นคนสร้างให้ แต่ฝรั่งคนนั้นก็กลับประเทศไปนานแล้ว ส่วนลูกบุญธรรมก็หนีออกจากบ้านไปนานแล้ว เพราะทนสภาพความเป็นอยู่ไม่ได้ และไม่ได้มาเยี่ยมยายอีกเลย
ปัจจุบันยายจะต้องดูแลพี่สาวที่มีอายุ 80 ปีแล้ว สภาพร่างกายก็ไม่แข็งแรงไม่สามารถเดินไปไหนมาไหนได้ จะต้องอยู่เฉพาะภายในบ้านเท่านั้น ส่วนสุขภาพของยายก็ไม่ต่างจากพี่สาวเลย แต่จำเป็นต้องหุงหาอาหารให้พี่สาวกิน บางวันยายไม่มีเงินที่จะซื้อข้าวและอาหาร ถ้าหากเจอแมลงสาบ หรือ หนู ที่วิ่งผ่านมาในบ้านก็จะจับ หรือใช้ไม้ตี เพื่อกินเป็นอาหาร และบางวันไม่มีแมลงสาบ หรือ หนู วิ่งผ่านมา ยายกับพี่สาวก็ดื่มน้ำที่เพื่อนบ้านเป็นคนตักมาให้เพื่อประทังชีวิตไปวันๆ
ถ้าหากวันไหนน้ำหมดยายกับพี่สาว จะต้องทนหิว เพราะบ่อน้ำที่มีอยู่หลังบ้าน ยายไม่สามารถลงไปตักมาดื่มได้ เนื่องจากสุขภาพของยายไม่แข็งแรง ต้องรอจนกว่าเพื่อนบ้านจะมาตักให้เท่านั้น
ด้าน นายสิริชัย สังขจรัส กล่าวว่า คุณยายทั้งสองคนมีฐานะยากจนมาก บ้านตนอยู่ห่างจากบ้านของยายประมาณ 100 เมตร เมื่อก่อนบ้านของยายทั้งสองคนไม่มีไฟฟ้าใช้ ตนและภรรยา จึงช่วยกันต่อสายไฟจากบ้านไปที่บ้านของยาย เพื่อให้ยายทั้งสองมีไฟฟ้าใช้ และถ้าหากมีโอกาสก็จะนำข้าวและอาหารไปให้ แต่ก็นานๆ ครั้ง
“เพราะฐานะของตนก็ไม่ได้ร่ำรวยอะไร และเพื่อนบ้านของยายที่อาศัยอยู่บริเวณนั้น ต่างก็มีฐานะยากจนกันทั้งนั้น แต่อย่างไรก็ตาม เพื่อนบ้านทุกคนก็ช่วยเหลือคุณยายทั้งสองเท่าที่จะช่วยได้ คุณยายทั้งสองมีสุขภาพที่ไม่แข็งแรง ที่สำคัญ คุณยายทั้งสองไม่เคยได้รับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุแม้แต่ครั้งเดียว ดังนั้น จึงขอเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปให้ความช่วยเหลือคุณยายทั้งสองด้วย” นายสิริชัย กล่าว
ด้าน นายแขก เพื่อนบ้านของคุณยาย กล่าวว่า ตนรู้จักครอบครัวของคุณยายมานานแล้ว ซึ่งเท่าที่ทราบคุณยายทั้งสองคนไม่เคยขอความช่วยเหลือจากเพื่อนบ้านเลยถึงแม้จะมีฐานะยากจน ไม่มีเงินซื้อข้าวก็ตาม โดยคุณยายบัวเงิน จะเป็นคนเลี้ยงดูคุณยายดวงใจ พี่สาวมาตลอด และคุณยายทั้งสองมีความสนิทสนมกันและรักกันมาก และเพื่อนบ้านทั้งหมดก็ทราบเรื่องนี้เป็นอย่างดี แต่เพราะความสงสาร เพื่อนบ้านก็พยายามช่วยเหลือคุณยายทั้งสองเท่าที่จะช่วยเหลือกันได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ถ้าหากมีผู้ประสงค์จะให้ความช่วยเหลือหญิงชราทั้งสองคน สามารถโทรศัพท์ประสานไปที่ นายสิริชัย สังขจรัส หมายเลขโทรศัพท์ 082-2424177
นอภ.สั่งช่วยเหลือ 2 ยายทันที
ต่อมาเวลา 15.00 น.นายจำรัส กังน้อย นายอำเภอสังขละบุรี จ.กาญจนบุรี เปิดเผยว่า ตนตกใจมากที่มีข่าวว่า หญิงชราทั้งสองคนถือเป็นผู้ด้อยโอกาสอยู่ในพื้นที่ลำเค็ญมากขนาดนี้ เพราะทุกเดือนที่มีการประชุมกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน และประชุมผู้นำ อปท.ในพื้นที่ทั้งอำเภอสังขละบุรี ตนได้สั่งการกำชับให้สำรวจอย่างละเอียดในทุกพื้นที่ เพื่อที่จะได้ช่วยเหลือตามระเบียบของทางราชการที่ต้องให้ประชาชนอยู่อย่างมีความสุข
“ตอนนี้ได้สั่งการไปยังปลัดอำเภอ และผู้ใหญ่บ้านหมู่ 3 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี ให้ไปดูข้อเท็จจริงว่าเป็นปัญหาตามที่สื่อนำเสนอหรือไม่ ส่วนเบื้องต้นไม่ต้องรอการตรวจสอบให้นำเอาข้าวสารอาหารแห้ง และเครื่องอุปโภคบริโภคที่จำเป็นลงไปช่วยเหลือดูแลอย่างเร่งด่วน เรื่องนี้สำคัญมากเพราะตนเป็นเหมือนผู้ดูแลความทุกข์สุขของชาวบ้านในอำเภอสังขละบุรี หากเป็นจริงก็จะปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้ แต่จะต้องแก้ไขปัญหาโดยให้การช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน
รวมทั้งให้ทางเทศบาลหนองลูลงพื้นที่ไปช่วยดูแลอีกทางหนึ่ง เพราะผู้สูงอายุก็มีสิทธิ์ได้รับการช่วยเหลือจากราชการตามสิทธิ์ทุกประการ ผมต้องขอบคุณสื่อที่นำปัญหานี้มาให้รับทราบเป็นการช่วยเหลือสังคมให้เกิดความสมดุลมากขึ้นขอขอบคุณ”