กาญจนบุรี - หนุ่มคลั่งฆ่าโหดเจ้าอาวาสวัดหนองขาว พระนักพัฒนาแห่งเมืองกาญจนบุรี ดับคากุฏิ จนท.รวบทันควันนำตัวไปสอบเครียด เผย “พระครูถาวรกาญจนนิมิต” เป็นพระนักพัฒนาที่ชาวบ้านในตำบลหนองขาวให้การเคารพบูชาอย่างสูง
เมื่อเวลา 01.40 น.ของวันนี้ (2 ก.พ.) ร.ต.อ.สมิตร เนืองวงษ์ พงส.สบ 2 ร้อยเวรสอบสวน สภ.หนองขาว อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี ได้รับแจ้งเหตุจากศูนย์วิทยุมูลนิธิมิราเคิลออฟไลฟ์ สาขาจังหวัดกาญจนบุรี ว่า ได้เกิดเหตุทำร้ายร่างกายพระครูถาวร กาญจนนิมิต อายุ 55 ปี เจ้าอาวาสวัดอินทาราม (หนองขาว) จนมรณภาพบนกุฏิวัด เลขที่ 1 หมู่ 1 ต.หนองขาว อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี จึงนำกำลังไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พล.ต.ต.เรวัช กลิ่นเกษร รอง ผบช.ภ.7 พร้อมด้วย พล.ต.ต.โชติ วีรเดชกำแหง ผบก.ตร.ภ.จ.กาญจนบุรี และ พ.ต.ท.ธนบดี บุญพา นวท.(สบ2) สำนักงานพิสูจน์หลักฐานกาญจนบุรี รีบเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ
เมื่อคณะของ พล.ต.ต.เรวัช เดินทางถึงที่เกิดเหตุพบที่เกิดเหตุเกิดที่กุฏิเจ้าอาวาส ภายในวัดเป็นอาคารไม้ผสมปู 2 ชั้น พบร่างของ พระครูถาวร กาญจนนิมิต เจ้าอาวาสวัดหนองขาว สภาพนอนตะแคงขวา ท่ามกลางข้าวของเครื่องใช้ที่ญาติโยมนำมาถวายตกเกลื่อนกระจายไปทั่ว ตรวจสอบศพพบว่าที่ใบหน้าถูกตีด้วยของแข็งจนยุบ ที่หน้าท้องมีมีดดาบยาว 60 ซม.ปักคาอยู่
นอกจากนี้ ยังพบปลอกมีดดาบยาว 60 ซม.สีดำ และไม้รองแท่นเครื่องรถไถเปื้อนเลือดตกอยู่จึงเก็บเอาไว้เป็นหลักฐาน จากนั้นได้ตรวจสอบภายในกุฏิชั้นล่างพบว่ามีร่องรอยการรื้อค้นและทำลายสิ่งของเช่น กระถางต้นไม้ สิ่งของเครื่องใช้ต่าง ส่วนบริเวณบันไดทางขึ้นชั้น 2 ของกุฏิ พบสุนัขพันธุ์พุดเดิ้ล สีดำ เพศผู้ นอนตายในสภาพศพที่ถูกตีด้วยของแข็งจนเสียชีวิต พบกองเลือดที่มีร่องรอยเกิดจากเลือดไหลหยดตามร่องไม้จากชั้น 2 ลงมาชั้นล่างจำนวนมาก โดยในที่เกิดเหตุมีชาวบ้านที่ทราบข่าวกว่า 100 คน มาดูเหตุการณ์และสาปแช่งคนร้ายรายนี้
จากการสอบสวน นายสุชาติ สุวรรณศร อายุ 55 ปี เป็นคนขับรถให้ พระครูถาวร กาญจนนิมิต เปิดเผยว่า ตนนอนอยู่ห้องพักข้างๆ กุฏิของหลวงพ่อตามปกติ ก่อนเกิดเหตุเวลาประมาณตี 1 เศษ ตนได้ยินเสียงคนตะโกนโวยวายเสียงดังจนทำให้สะดุ้งตื่น จากนั้นจึงออกมาดูพบว่า มี นายสมควร หรือ จตุพร ล่องลอย อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 197 หมู่ 3 ต.หนองขาว อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี ลูกชาย นายสมนึก ล่องลอย อดีตกำนันตำบลหนองขาว ที่เสียชีวิตไปแล้ว กำลังอยู่ในอาการคลุ้มคลั่ง ส่งเสียงตะโกนด่าทอเจ้าอาวาสอยู่หน้ากุฏิ สภาพมือข้างขวาถือไม้รองแท่นเครื่องรถไถอยู่
จากนั้น นายสมควร ได้ใช้มีดตีทำลายข้าวของก่อนขึ้นไปบนกุฏิ ตนจึงตัดสินใจโทรศัพท์ไปหา พระวินัย อินทวินโย ผช.เจ้าอาวาสวัดอินทาราม เพื่อให้แจ้งตำรวจ ต่อมาเวลาผ่านไปได้ราว 10 นาที นายสมควร เดินออกมาจากกุฏิวิ่งหนีหายไป ตนจึงวิ่งขึ้นไปดูที่ห้องเจ้าอาวาสพบ พระครูถาวรกาญจนนิมิต ถูกทำร้ายจนมรณภาพจมกองเลือด จึงโทรศัพท์บอก ผู้ช่วยเจ้าอาวาส อีกครั้งว่าเกิดเหตุร้ายแล้ว
ขณะที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่วิทยาการกำลังตรวจสอบที่เกิดเหตุ พ.ต.ท.สุวิทย์ ห่วงทอง สว.หน.สภ.หนองขาวได้รับรายงานจาก ร.ต.อ.ชาติชาย กาญจนภูษิต รอง สวป.สภ.หนองขาว ว่า ได้พบนายสมควร ผู้ต้องสงสัยก่อเหตุร้ายรายนี้ได้แล้ว โดย นายสมควร กำลังเดินอาละวาดและตะโกนส่งเสียงดังด่าทอไปตามทางในหมู่บ้าน จึงทำการควบคุมตัวมาที่ สภ.หนองขาว และนำตัว นายสมควร ไปคุมขังไว้เพื่อให้สงบสติอารมณ์ในห้องขังบน สภ.หนองขาว
โดยเบื้องต้นตำรวจสอบถามถึงสาเหตุที่ฆ่าพระครูถาวรกาญจนนิมิต นายสมควร ได้ตอบกลับมาว่า ตนเป็นร่างทรงของเสด็จพ่อ ร.5 ก่อนเกิดเหตุที่ต้องไปหาและฆ่า พระครูถาวร เนื่องจาก พระอินทร์ มาบอกตนว่า พระครูถาวรนิมิต ได้กระทำผิดวินัยสงฆ์ร้ายแรง แอบเสพกามเมถุนกับสีกาในกุฏิ จึงต้องไปฆ่าทิ้งเพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง
พล.ต.ต.เรวัช กลิ่นเกษร รอง ผบช.ภ.7 เปิดเผยหลังตรวจที่เกิดเหตุและได้สอบปากคำนายสมควร เบื้องต้นแล้วว่า เบื้องต้นตำรวจได้ดำเนินคดีกับนายสมควร ในข้อหาฆ่าคนตายโดยเจตนาไว้ก่อน ส่วนตนเองยังไม่เชื่อในคำให้การของนายสมควร เนื่องจากเท่าที่ทราบ ปกตินายสมควร มีอาชีพเลี้ยงหมู มีหมูหลายสิบตัว เป็นคนมีฐานะดีคนหนึ่ง ทุกวัน นายสมควร มักจะมาที่วัดเพื่อนำเศษอาหารที่เหลือจากวัดไปเลี้ยงหมู และเป็นคนมีอัธยาศัยดี ดังนั้น ทางพนักงานสอบสวนจึงต้องตรวจสอบเรื่องนี้ให้รอบคอบ เพื่อให้เกิดความชัดเจนว่า นายสมควร ผู้ต้องหารายนี้เสียสติ หรือเพี้ยนไปจริงหรือไม่ โดยเตรียมประสาน รพ.จิตเวช นำนายสมควร ไปตรวจสอบว่ามีอาการทางประสาทหรือไม่ต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พระครูถาวรกาญจนนิมิต เจ้าอาวาสวัดอินทาราม หรือวัดหนองขาว ที่มรณภาพในครั้งนี้ เป็นพระนักพัฒนาที่ชาวบ้านในตำบลหนองขาวให้การเคารพบูชาอย่างสูง โดยถือว่าเป็นผู้นำทางสงฆ์ที่มีแนวคิดและวัตรปฏิบัติในการใช้วัดเป็นศูนย์กลางรวมแนวคิด และร่วมเป็นผู้นำความคิดในการสร้างความมีชีวิตของชุมชน โดยร่วมกับชาวบ้านหนองขาวคิดผลักดันชุมชนบ้านหนองขาวให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิญอนุรักษ์วัฒนธรรมพื้นบ้านภายใต้ชื่อโครงการพิพิธภัณฑ์ที่มีชีวิต ที่สืบสานประเพณีวัฒนธรรมเก่าแก่ต่างๆ จนทำให้วัดหนองขาว กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศที่รู้จักและเดินทางมาท่องเที่ยวตลอดเวลา โดยโครงการที่เด่นที่สุด คือ การจัดประเพณีสงกรานต์ที่มีการแสดงละครพื้นบ้าน เรื่องไอ้บุญทองบ้านหนองขาว ที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยให้การสนับสนุนการจัดงานนี้มาตลอดเกือบ 10 ปี
เมื่อเวลา 01.40 น.ของวันนี้ (2 ก.พ.) ร.ต.อ.สมิตร เนืองวงษ์ พงส.สบ 2 ร้อยเวรสอบสวน สภ.หนองขาว อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี ได้รับแจ้งเหตุจากศูนย์วิทยุมูลนิธิมิราเคิลออฟไลฟ์ สาขาจังหวัดกาญจนบุรี ว่า ได้เกิดเหตุทำร้ายร่างกายพระครูถาวร กาญจนนิมิต อายุ 55 ปี เจ้าอาวาสวัดอินทาราม (หนองขาว) จนมรณภาพบนกุฏิวัด เลขที่ 1 หมู่ 1 ต.หนองขาว อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี จึงนำกำลังไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พล.ต.ต.เรวัช กลิ่นเกษร รอง ผบช.ภ.7 พร้อมด้วย พล.ต.ต.โชติ วีรเดชกำแหง ผบก.ตร.ภ.จ.กาญจนบุรี และ พ.ต.ท.ธนบดี บุญพา นวท.(สบ2) สำนักงานพิสูจน์หลักฐานกาญจนบุรี รีบเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ
เมื่อคณะของ พล.ต.ต.เรวัช เดินทางถึงที่เกิดเหตุพบที่เกิดเหตุเกิดที่กุฏิเจ้าอาวาส ภายในวัดเป็นอาคารไม้ผสมปู 2 ชั้น พบร่างของ พระครูถาวร กาญจนนิมิต เจ้าอาวาสวัดหนองขาว สภาพนอนตะแคงขวา ท่ามกลางข้าวของเครื่องใช้ที่ญาติโยมนำมาถวายตกเกลื่อนกระจายไปทั่ว ตรวจสอบศพพบว่าที่ใบหน้าถูกตีด้วยของแข็งจนยุบ ที่หน้าท้องมีมีดดาบยาว 60 ซม.ปักคาอยู่
นอกจากนี้ ยังพบปลอกมีดดาบยาว 60 ซม.สีดำ และไม้รองแท่นเครื่องรถไถเปื้อนเลือดตกอยู่จึงเก็บเอาไว้เป็นหลักฐาน จากนั้นได้ตรวจสอบภายในกุฏิชั้นล่างพบว่ามีร่องรอยการรื้อค้นและทำลายสิ่งของเช่น กระถางต้นไม้ สิ่งของเครื่องใช้ต่าง ส่วนบริเวณบันไดทางขึ้นชั้น 2 ของกุฏิ พบสุนัขพันธุ์พุดเดิ้ล สีดำ เพศผู้ นอนตายในสภาพศพที่ถูกตีด้วยของแข็งจนเสียชีวิต พบกองเลือดที่มีร่องรอยเกิดจากเลือดไหลหยดตามร่องไม้จากชั้น 2 ลงมาชั้นล่างจำนวนมาก โดยในที่เกิดเหตุมีชาวบ้านที่ทราบข่าวกว่า 100 คน มาดูเหตุการณ์และสาปแช่งคนร้ายรายนี้
จากการสอบสวน นายสุชาติ สุวรรณศร อายุ 55 ปี เป็นคนขับรถให้ พระครูถาวร กาญจนนิมิต เปิดเผยว่า ตนนอนอยู่ห้องพักข้างๆ กุฏิของหลวงพ่อตามปกติ ก่อนเกิดเหตุเวลาประมาณตี 1 เศษ ตนได้ยินเสียงคนตะโกนโวยวายเสียงดังจนทำให้สะดุ้งตื่น จากนั้นจึงออกมาดูพบว่า มี นายสมควร หรือ จตุพร ล่องลอย อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 197 หมู่ 3 ต.หนองขาว อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี ลูกชาย นายสมนึก ล่องลอย อดีตกำนันตำบลหนองขาว ที่เสียชีวิตไปแล้ว กำลังอยู่ในอาการคลุ้มคลั่ง ส่งเสียงตะโกนด่าทอเจ้าอาวาสอยู่หน้ากุฏิ สภาพมือข้างขวาถือไม้รองแท่นเครื่องรถไถอยู่
จากนั้น นายสมควร ได้ใช้มีดตีทำลายข้าวของก่อนขึ้นไปบนกุฏิ ตนจึงตัดสินใจโทรศัพท์ไปหา พระวินัย อินทวินโย ผช.เจ้าอาวาสวัดอินทาราม เพื่อให้แจ้งตำรวจ ต่อมาเวลาผ่านไปได้ราว 10 นาที นายสมควร เดินออกมาจากกุฏิวิ่งหนีหายไป ตนจึงวิ่งขึ้นไปดูที่ห้องเจ้าอาวาสพบ พระครูถาวรกาญจนนิมิต ถูกทำร้ายจนมรณภาพจมกองเลือด จึงโทรศัพท์บอก ผู้ช่วยเจ้าอาวาส อีกครั้งว่าเกิดเหตุร้ายแล้ว
ขณะที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่วิทยาการกำลังตรวจสอบที่เกิดเหตุ พ.ต.ท.สุวิทย์ ห่วงทอง สว.หน.สภ.หนองขาวได้รับรายงานจาก ร.ต.อ.ชาติชาย กาญจนภูษิต รอง สวป.สภ.หนองขาว ว่า ได้พบนายสมควร ผู้ต้องสงสัยก่อเหตุร้ายรายนี้ได้แล้ว โดย นายสมควร กำลังเดินอาละวาดและตะโกนส่งเสียงดังด่าทอไปตามทางในหมู่บ้าน จึงทำการควบคุมตัวมาที่ สภ.หนองขาว และนำตัว นายสมควร ไปคุมขังไว้เพื่อให้สงบสติอารมณ์ในห้องขังบน สภ.หนองขาว
โดยเบื้องต้นตำรวจสอบถามถึงสาเหตุที่ฆ่าพระครูถาวรกาญจนนิมิต นายสมควร ได้ตอบกลับมาว่า ตนเป็นร่างทรงของเสด็จพ่อ ร.5 ก่อนเกิดเหตุที่ต้องไปหาและฆ่า พระครูถาวร เนื่องจาก พระอินทร์ มาบอกตนว่า พระครูถาวรนิมิต ได้กระทำผิดวินัยสงฆ์ร้ายแรง แอบเสพกามเมถุนกับสีกาในกุฏิ จึงต้องไปฆ่าทิ้งเพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง
พล.ต.ต.เรวัช กลิ่นเกษร รอง ผบช.ภ.7 เปิดเผยหลังตรวจที่เกิดเหตุและได้สอบปากคำนายสมควร เบื้องต้นแล้วว่า เบื้องต้นตำรวจได้ดำเนินคดีกับนายสมควร ในข้อหาฆ่าคนตายโดยเจตนาไว้ก่อน ส่วนตนเองยังไม่เชื่อในคำให้การของนายสมควร เนื่องจากเท่าที่ทราบ ปกตินายสมควร มีอาชีพเลี้ยงหมู มีหมูหลายสิบตัว เป็นคนมีฐานะดีคนหนึ่ง ทุกวัน นายสมควร มักจะมาที่วัดเพื่อนำเศษอาหารที่เหลือจากวัดไปเลี้ยงหมู และเป็นคนมีอัธยาศัยดี ดังนั้น ทางพนักงานสอบสวนจึงต้องตรวจสอบเรื่องนี้ให้รอบคอบ เพื่อให้เกิดความชัดเจนว่า นายสมควร ผู้ต้องหารายนี้เสียสติ หรือเพี้ยนไปจริงหรือไม่ โดยเตรียมประสาน รพ.จิตเวช นำนายสมควร ไปตรวจสอบว่ามีอาการทางประสาทหรือไม่ต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พระครูถาวรกาญจนนิมิต เจ้าอาวาสวัดอินทาราม หรือวัดหนองขาว ที่มรณภาพในครั้งนี้ เป็นพระนักพัฒนาที่ชาวบ้านในตำบลหนองขาวให้การเคารพบูชาอย่างสูง โดยถือว่าเป็นผู้นำทางสงฆ์ที่มีแนวคิดและวัตรปฏิบัติในการใช้วัดเป็นศูนย์กลางรวมแนวคิด และร่วมเป็นผู้นำความคิดในการสร้างความมีชีวิตของชุมชน โดยร่วมกับชาวบ้านหนองขาวคิดผลักดันชุมชนบ้านหนองขาวให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิญอนุรักษ์วัฒนธรรมพื้นบ้านภายใต้ชื่อโครงการพิพิธภัณฑ์ที่มีชีวิต ที่สืบสานประเพณีวัฒนธรรมเก่าแก่ต่างๆ จนทำให้วัดหนองขาว กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศที่รู้จักและเดินทางมาท่องเที่ยวตลอดเวลา โดยโครงการที่เด่นที่สุด คือ การจัดประเพณีสงกรานต์ที่มีการแสดงละครพื้นบ้าน เรื่องไอ้บุญทองบ้านหนองขาว ที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยให้การสนับสนุนการจัดงานนี้มาตลอดเกือบ 10 ปี