ศูนย์ข่าวภาคเหนือ - หนุ่มใหญ่เมืองรถม้าเมาแล้วขับเก๋งวอลโว่ หลงเข้าไปในไร่อ้อย ล้อรถติดหล่ม เร่งเครื่องพยายามถอยแต่ล้อรถหมุนปั่นกับใบอ้อยแห้งจนเกิดประกายไฟ ทำเพลิงโหมไหม้ลุกวอดทั้งคันเหลือแต่ซาก
วันนี้ (2 ก.พ.) พ.ต.ท.พิพัฒน์ ปภุสสโร พนักงานสอบสวนเวร สภ.ทุ่งฝาย อ.เมือง จ.ลำปาง ได้เข้าตรวจสอบบริเวณกลางไร่อ้อยของนายนิพนธ์ กันทาปัง หลังได้รับแจ้งว่าพบรถเก๋งถูกเผาวอดทั้งคันในไร่ของตนเอง จนลุกลามไหม้อ้อยที่ตัดกองไว้รอจำหน่ายกินพื้นที่กว่า 6 ไร่ เสียหาย
เมื่อเข้าไปตรวจสอบ พบรถยนต์เก๋งยี่ห้อวอลโว่ สีครีม ทะเบียน กค-1834 ลำปาง ในสภาพเหลือแต่โครงเหล็ก ตัวรถถูกเผาวอดทั้งคันแต่ไม่พบคนขับ ซึ่งยังคงเหลือควันไฟอยู่บ้าง คาอยู่บริเวณกลางไร่อ้อย
พ.ต.ท.พิพัฒน์เปิดเผยหลังเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุประมาณ 1 ชั่วโมง ว่า จากการตรวจสอบเลขทะเบียนแล้วทราบว่าเจ้าของรถคือ นายสมชาย อินตา อยู่บ้านเลขที่ 168/1 ม.1 ต.ต้นธงชัย อ.เมือง จ.ลำปาง ทราบว่าเมื่อกลางดึกนายสมชายได้ขับรถเข้ามาบริเวณดังกล่าวแล้วพลัดลงเข้ามาในไร่อ้อยแล้วรถได้มาติดคันนาขับออกไม่ได้แต่พยายามขับขึ้นจากคันจนทำให้ล้อรถฟรีและเกิดไฟลุกไหม้ขึ้น เมื่อเจ้าตัวเห็นไฟลุกไหม้ก็ได้เปิดประตูแล้ววิ่งหนีไป
อย่างไรก็ตาม ชาวบ้านที่มามุ่งดูต่างวิพากษ์วิจารณ์กันว่าไร่ของนายนิพนธ์อยู่ห่างจากถนนใหญ่หลายกิโลเมตร และทางสลับซับซ้อน ทำไมนายสมชายจึงได้ขับรถเข้ามากลางดึก และเมื่อขับเข้ามาแล้วเมื่อเห็นว่าข้างหน้าไม่ใช่ถนนและมีคันนาสูง ทำไมดันทุรังขับรถเข้าไปจนติดอยู่อย่างนั้น และหากพยายามเร่งเครื่องยนต์เพื่อจะนำรถออกจากคันนา แม้ล้อรถจะฟรีก็คงไม่ถึงกับไฟลุกขึ้นได้ แต่ทำไมเจ้าหน้าที่ตำรวจถึงรีบสรุปสำนวนรวดเร็วเช่นนั้น