บุรีรัมย์ - พ่อค้าแม่ค้า “ตลาดนิคมปราสาท” อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ อำเภอชายแดนไทย-กัมพูชา เรียกร้องรัฐบาลไทย-กัมพูชา เร่งเจรจาสร้างความปรองดองฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ดันเปิดจุดผ่อนปรน “ช่องสายตะกู” ให้ ปชช.2 ประเทศ ค้าขายแลกเปลี่ยนสินค้าเหมือนเมื่อ 10 ปีที่ผ่านมา หลังได้รับผลกระทบซบเซามานาน
วันนี้ (31 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ่อค้า แม่ค้าขายปลีกและส่ง ที่ตลาดสดเทศบาลตำบลตลาดนิคมปราสาท อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นอำเภอชายแดนไทย-กัมพูชา ต่างเห็นพ้องเร่งให้รัฐบาลทั้ง 2 ประเทศ ได้เร่งเจรจาปรองดองฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ พร้อมหารือผลักดันเปิดตลาดการค้าชายแดนเป็นการถาวรที่บริเวณจุดผ่อนปรนช่องสายตะกู ต.จันทบเพชร อ.บ้านกรวด เพื่อให้พ่อค้าแม่ค้าและประชาชนตามแนวชายแดนทั้ง 2 ประเทศ ได้ทำการซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้าระหว่างกัน เหมือนเมื่อกว่า 10 ปีที่ผ่านมา
ทั้งนี้ หลังจากทั้ง 2 ประเทศ เกิดปัญหากรณีพิพาทพื้นที่ชายแดน ทำให้พ่อค้าแม่ค้าได้รับผลกระทบยอดขายลดลง หากทั้ง 2 ประเทศ ยังมีปัญหาความขัดแย้งกันเช่นนี้ จะทำให้ไม่เกิดผลดีกับประชาชนที่อาศัยอยู่ตามแนวชายแดน ซึ่งต่างจากเมื่อก่อนประชาชนทั้ง 2 ประเทศไปมาหาสู่ และนำสินค้ามาแลกเปลี่ยนซื้อขายระหว่างกันได้ ทำให้เศรษฐกิจดีขึ้น แต่ทุกวันนี้การค้าขายที่ตลาดสดเทศบาลตำบลตลาดนิคมปราสาท และการค้าขายตามตลาดแนวชายแดนเกิดความเงียบเหงาซบเซา
นายทรงชัย ยนต์สถิตย์กุล พ่อค้าตลาดสดเทศบาลตำบลตลาดนิคมปราสาท อ.บ้านกรวด กล่าวว่า อยากให้ผู้นำรัฐบาลทั้งสองประเทศตกลงกันในเรื่องปัญหาข้อพิพาทชายแดน อย่างเช่น เมื่อหลายปีที่ผ่านมา มีการเปิดจุดผ่อนปรนช่องสายตะกู ชายแดนไทย-กัมพูชา ต.จันทบเพชร อ.บ้านกรวด สัปดาห์ละ 1 วัน ทำให้มีพ่อค้าประชาชนชาวกัมพูชาเข้ามาซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้าทางการเกษตร และทหารที่ปฏิบัติหน้าที่ตามแนวชายแดน ได้มาซื้อยารักษาโรค และข้าวของเครื่องใช้ ในตลาดนิคมปราสาท อ.บ้านกรวด อย่างคึกคัก ทำให้พ่อค้าแม่ค้าประชาชนไทยมีรายได้ดี
แต่ปัจจุบันตลาดสดแห่งนี้เงียบเหงา จึงอยากเรียกร้องขอให้ทั้งสองฝ่ายได้สร้างความปรองดองฟื้นความสัมพันธ์อันดีระหว่างกันโดยเร็ว แล้วเร่งเปิดจุดผ่อนปรนช่องสายตะกู เพื่อให้ประชาชนทั้งสองฝ่ายซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้ากันได้ตามปกติ
ด้าน นางสุวรรณี คุณนาเมือง แม่ค้าร้านขายของชำตลาดสดเทศบาลตำบลตลาดนิคมปราสาท กล่าวเสริมว่า อยากให้รัฐบาลทั้งสองฝ่ายเจรจาปรองดองกัน หากมีความขัดแย้งหรือทะเลาะกันอยู่อย่างนี้ จะไม่เกิดผลดีกับประชาชนทั้งสองประเทศ จากที่ผ่านมามีการเปิดจุดผ่อนปรนช่องสายตะกู สามารถซื้อขายสินค้าอุปโภค บริโภค และแลกเปลี่ยนสินค้าระหว่างกันกับชาวกัมพูชาได้ ทำให้เศรษฐกิจดี แต่หากยังทะเลาะกันอยู่เช่นนี้ ประชาชนก็ไม่สามารถไปมาหาสู่และซื้อขายสินค้ากันได้ อีกทั้งปัจจุบันทำให้ชาวบ้านเกิดความหวาดระแวง เกรงจะเป็นอันตราย ไม่กล้าแม้จะเข้าไปในเขตพื้นที่ชายแดน
ขณะที่ นายสมบูรณ์ สิทธิพัตร พ่อค้าขายอาหารสด กล่าวยอมรับว่า ในช่วงที่มีการเปิดจุดผ่อนปรนช่องสายตะกู ชายแดนไทย-กัมพูชา สามารถขายอาหารสด เช่น ปลา พืชผัก ได้วันละจำนวนมาก แต่ปัจจุบันต้องสั่งซื้อจำนวนน้อยลงมากกว่าครึ่ง หากมีการเปิดจุดผ่อนปรน ตนพร้อมครอบครัวก็จะนำสินค้าไปขาย ที่จุดผ่อนปรนเช่นเดิม เพราะยังเชื่อว่าลูกค้าชาวกัมพูชายังมีความต้องการพืชผัก และอาหารสด ไม่ต่างจากเดิมที่ผ่านมา ซึ่งหากมีการเปิดตลาดจุดผ่อนปรนช่องสายตะกูได้จริงจะเป็นผลดีกับประชาชนทั้ง 2 ประเทศ แต่ที่ผ่านมามีการปิดจุดผ่อนปรนช่องสายตะกู นั้น ทางการไทยอ้างเหตุผลมีการลักลอบขนยาเสพติด จึงสั่งปิด ประกอบกับมีข้อพิพาทตามแนวชายแดนด้วย