“บิ๊กตู่” ยันพร้อมรับสถานการณ์พม่า-รบกะเหรี่ยง ย้ำผู้อพยพต้องกลับบ้านหลังเหตุสู้รบยุติ

ตาก - รองนายกฯความมั่นคง-ผบ.ทบ.นั่งหลังบังเกอร์ดูพนังกั้นน้ำเมย ส่วนหนึ่งของต้นเหตุพม่าปิดด่านเมียวดี ยาวกว่า 6 เดือน “บิ๊กตู่” ย้ำ ปัญหาเพื่อนบ้านต้องทำตามขั้นตอน ยัน หากเหตุการณ์สงบกะเหรี่ยงอพยพต้องกลับบ้าน

วันนี้ (31 ม.ค.) นายสุเทพ เทือกสุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง, พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก และคณะ ได้เดินทางไปตรวจสถานที่ก่อสร้างพนังกั้นน้ำริมแม่น้ำเมย บ้านท่าอาจ ต.ท่าสายลวด อ.แม่สอด ที่เป็นชนวนให้พม่าปิดด่านเมียวดีมานานกว่า 6 เดือน โดยฟังบรรยายสรุปสถานการณ์จากจาก พ.อ.สุภโชค ธวัชพีระชัย ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 4 จากนั้นได้ดูแนวการก่อสร้างอยู่ในบังเกอร์ เนื่องจากไม่มั่นใจในความปลอดภัย เนื่องจากฝั่งตรงข้ามมีทหารพม่ายืนเรียงรายตามแนวเขตแดน เช่นเดียวกันกับฝั่งไทยที่มีทหารพรานจากหน่วยทหารพรานที่ 35 วางกำลังตลอดแนวแม่น้ำเมย

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-พม่า เกี่ยวกับการสู้รบระหว่างทหารพม่า กับกองกำลังทหารสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยงอิสระ KNU หรือกะเหรี่ยงคริสต์ ที่ร่วมผนึกกำลังกับกองกำลังทหารกะเหรี่ยงพุทธเพื่อประชาธิปไตย (DKBA) หรือกะเหรี่ยงพุทธ ว่า ขณะนี้กองทัพภาคที่ 3 ได้เตรียมความพร้อมด้านกำลัง และความช่วยเหลือผู้อพยพหนีภัยจากการสู้รบไว้แล้ว ประเทศเรามีปัญหามากในปัจจุบัน แนวทางในการปฏิบัติมี 3 ขั้นตอน คือ ทำอย่างไรให้เขาปลอดภัย ช่วยเหลือตามหลักมนุษยธรรม หากสถานการณ์เบาลง หรือไม่รุนแรง ก็ต้องกลับไป เราไม่สามารถเปิดศูนย์ช่วยเหลือได้อีก เพราะปัจจุบันก็มากพอแล้ว

พล.อ.ประยุทธ์ บอกอีกว่า สิ่งสำคัญต้องเข้าใจการแก้ปัญหาตามแนวชายแดน มีขั้นตอน มีการพัฒนาตามสถานการณ์ คนที่คบกันมาเป็นเวลานาน หรือกับประเทศเพื่อนบ้าน ต้องมีการเจรจาพูดคุย ถ้ามีปัญหาต้องเจรจาผ่านคณะกรรมการแต่ละฝ่าย ถ้าไม่เป็นผลก็ต้องใช้การกดดัน และสุดท้ายถึงจะใช้กำลัง ซึ่งการใช้กำลังก็จะทำให้พี่น้องประชาชนเดือดร้อน