พิษณุโลก - ตำรวจตามรวบ 2 ผู้เฒ่าชาวอุตรดิตถ์ถึงบ้าน หลังก่อเหตุขโมยควายกลางตลาดนัดโค-กระบือ กลางดึก อ้างขายข้าวไม่ได้ราคา ตัดสินใจขโมยควาย ล้างหนี้ ธ.ก.ส.
วันนี้ (27 ม.ค.) พ.ต.ท.สุทน คำงาม หน.สภ.ดงประคำ อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก ได้แถลงข่าวจับกุมผู้ต้องหาก่อคดีลักกระบือ จำนวน 2 ราย คือ นายอานนท์ จีนย้าย อายุ 56 ปี อยู่บ้านเลขที่ 107/2 หมู่ 6 ต.นาอิน อ.พิชัย จ.อุตรดิตถ์ และ นายยุ่ง เทียนทอง อายุ 65 ปี อยู่บ้านเลขที่ 136 หมู่ 6 ต.นาอิน อ.พิชัย จ.อุตรดิตถ์ พร้อมของกลางเป็นกระบือเพศเมีย จำนวน 2 ตัว และลูกกระบืออีก 2 ตัว หลังผู้ต้องหาได้ก่อคดีลักกระบือที่ตลาดนัดโคกระบือศรีภิรมย์ฟาร์ม หมู่ 5 ต.ดงประคำ อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก ของนายคำพัน สาลี อายุ 35 ปี เมื่อ 26 มกราคม 2554 ที่ผ่านมา
ผู้ต้องหาสารภาพว่า ร่วมกันก่อคดีลักกระบือจากตลาดนัดศรีภิรมย์จริง เพราะทำนาขายข้าวไม่ได้ราคา และติดหนี้สิน ธ.ก.ส.กว่า 100,000 บาท จึงลงมือลักกระบือเพื่อนำไปขายที่โรงเชือด และเห็นว่า ลักโคที่ตลาดนัดง่ายกว่าการไปลักตามบ้านเรือน คืนเกิดเหตุจึงไปแอบไปจูงควายหนีออกไปทางทุ่งนาแล้วเดินลัดเลาะห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 40 กม.แล้วนำกระบือซ่อนไว้กลางทุ่งนาในพื้นที่ ต.นาอิน อ.พิชัย จ.อุตรดิตถ์ จากนั้นรอเจ้าของโรงเชือดมารับซื้อ แต่สุดท้ายทางเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามไปจับตัวถึงบ้านในที่สุด
เจ้าของกระบือ กล่าวว่า ตนนำกระบือมาขายที่ตลาดนัดโคกระบือศรีภิรมย์ จำนวน 14 ตัว ขายกระบือไป 10 ตัว เหลืออีก 4 ตัว แต่มีคนมาลักขโมยถึงตลาดนัด ที่ผ่านมา จ้างนายฮ้อย หรือพรานควาย แกะรอยติดตามกระบือไปจนกระทั่งพบที่บ้านนาอิน ต.นาอิน อ.พิชัย จ.อุตรดิตถ์ เพราะชาวบ้านบอกว่า มีคนไล่ต้อนกระบือเข้ามาในหมู่บ้าน ตนเองจึงได้เข้าไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อสืบสวนหาคนร้ายภายในหมู่บ้านดังกล่าว จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวได้
ทั้งนี้ เฉพาะ นายยุ่ง เทียนทอง หนึ่งในผู้ต้องหาเคยก่อคดีลักกระบือมาแล้ว 1 ครั้งในปี 2545 และถูกดำเนินคดีติดคุกมาแล้ว 9 เดือน และออกมาทำนาเหมือนเดิม แต่สุดท้ายก็มาก่อคดีลักกระบืออีกครั้ง เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีกับผู้ต้องหาทั้งหมดในข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ (กระบือ) ในเวลากลางคืน และจะติดตามหาตัวคนร้ายที่เหลืออีกคนมาดำเนินคดีต่อไป
วันนี้ (27 ม.ค.) พ.ต.ท.สุทน คำงาม หน.สภ.ดงประคำ อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก ได้แถลงข่าวจับกุมผู้ต้องหาก่อคดีลักกระบือ จำนวน 2 ราย คือ นายอานนท์ จีนย้าย อายุ 56 ปี อยู่บ้านเลขที่ 107/2 หมู่ 6 ต.นาอิน อ.พิชัย จ.อุตรดิตถ์ และ นายยุ่ง เทียนทอง อายุ 65 ปี อยู่บ้านเลขที่ 136 หมู่ 6 ต.นาอิน อ.พิชัย จ.อุตรดิตถ์ พร้อมของกลางเป็นกระบือเพศเมีย จำนวน 2 ตัว และลูกกระบืออีก 2 ตัว หลังผู้ต้องหาได้ก่อคดีลักกระบือที่ตลาดนัดโคกระบือศรีภิรมย์ฟาร์ม หมู่ 5 ต.ดงประคำ อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก ของนายคำพัน สาลี อายุ 35 ปี เมื่อ 26 มกราคม 2554 ที่ผ่านมา
ผู้ต้องหาสารภาพว่า ร่วมกันก่อคดีลักกระบือจากตลาดนัดศรีภิรมย์จริง เพราะทำนาขายข้าวไม่ได้ราคา และติดหนี้สิน ธ.ก.ส.กว่า 100,000 บาท จึงลงมือลักกระบือเพื่อนำไปขายที่โรงเชือด และเห็นว่า ลักโคที่ตลาดนัดง่ายกว่าการไปลักตามบ้านเรือน คืนเกิดเหตุจึงไปแอบไปจูงควายหนีออกไปทางทุ่งนาแล้วเดินลัดเลาะห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 40 กม.แล้วนำกระบือซ่อนไว้กลางทุ่งนาในพื้นที่ ต.นาอิน อ.พิชัย จ.อุตรดิตถ์ จากนั้นรอเจ้าของโรงเชือดมารับซื้อ แต่สุดท้ายทางเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามไปจับตัวถึงบ้านในที่สุด
เจ้าของกระบือ กล่าวว่า ตนนำกระบือมาขายที่ตลาดนัดโคกระบือศรีภิรมย์ จำนวน 14 ตัว ขายกระบือไป 10 ตัว เหลืออีก 4 ตัว แต่มีคนมาลักขโมยถึงตลาดนัด ที่ผ่านมา จ้างนายฮ้อย หรือพรานควาย แกะรอยติดตามกระบือไปจนกระทั่งพบที่บ้านนาอิน ต.นาอิน อ.พิชัย จ.อุตรดิตถ์ เพราะชาวบ้านบอกว่า มีคนไล่ต้อนกระบือเข้ามาในหมู่บ้าน ตนเองจึงได้เข้าไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อสืบสวนหาคนร้ายภายในหมู่บ้านดังกล่าว จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวได้
ทั้งนี้ เฉพาะ นายยุ่ง เทียนทอง หนึ่งในผู้ต้องหาเคยก่อคดีลักกระบือมาแล้ว 1 ครั้งในปี 2545 และถูกดำเนินคดีติดคุกมาแล้ว 9 เดือน และออกมาทำนาเหมือนเดิม แต่สุดท้ายก็มาก่อคดีลักกระบืออีกครั้ง เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีกับผู้ต้องหาทั้งหมดในข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ (กระบือ) ในเวลากลางคืน และจะติดตามหาตัวคนร้ายที่เหลืออีกคนมาดำเนินคดีต่อไป