ศูนย์ข่าวศรีราชา - พลเมืองดีเศร้าใจ หลังทำความดี ช่วยเหลือเด็ก นร.ชลชาย ถูกรถชนแล้วหนี แต่ต้องมาตอบคำถามตำรวจและรับผิดชอบเหมือนกับเป็นผู้กระทำผิดเสียเอง
จากกรณีที่รถยนต์คันหนึ่งที่เป็นรถอีซูซุ สีน้ำเงิน ได้ขับรถเฉี่ยวนักเรียนโรงเรียนชลชาย ชื่อนายณัฐกฤษณ์ กิตติสระวันโน ซึ่งขับขี่รถจักรยานยนต์มาตามถนนสายบางทรายเข้าเขตเทศบาลเมืองชลบุรี บริเวณศาลารวมใจชล ริมชายทะเลอ่าว หน้าเมืองชลบุรี เพื่อไปโรงเรียนเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมานั้น
หลังจากพลเมืองดีได้พากันช่วยเหลือพา นายณัฐกฤษณ์ ไปส่งโรงพยาบาลเอกชล จังหวัดชลบุรีแล้ว แต่สิ่งที่พลเมืองดี 2-3 คน ที่ได้เข้ามาช่วยเหลือเด็กนักเรียนคนดังกล่าว ต้องเผชิญก็คือ ใครจะเป็นเจ้าของคนไข้ มีบัตรประกันต่างๆ หรือไม่ และอื่นๆ จนกระทั่งตกลงกันได้พลเมืองดีต้องไปเซ็นรับรองค่าใช้จ่ายเป็นเจ้าของคนไข้ชั่วคราวไว้ก่อน จนกว่าผู้ปกครองตัวจริงจะมาถึง
เรื่องจึงยุติลง นี่คือ เรื่องจริงที่เกิดขึ้นวันนี้ ท่ามกลางสังคมอัปยศตัวใครตัวมันวันนี้ ซึ่งพลเมืองทั้ง 3-3 คนใช้เวลากว่า 2 ชม.กว่าจะติดต่อรถพยาบาลและตำรวจเจ้าของคดีนี้ กระทั่งต้องนำผู้บาดเจ็บไปส่งโรงพยาบาลเอกชลกันตามมีตามเกิด และต้องเซ็นเป็นเจ้าของคนไข้ไว้ด้วย และรอผู้ปกครองเด็กมาปรากฏตัวเป็นเจ้าของคนไข้
ขณะนี้เด็กนักเรียนคนดังกล่าวไม่เป็นอะไรมากแล้ว และผู้ปกครอง แม่ของนักเรียนได้ จ่ายเงินแล้วโดยบริษัทประกันเอไอเอ แต่นักเรียนชลชายยังมีบาดแผลสาหัสอยู่ทั่วกาย
ภาพที่นำมาลงในที่นี้เป็นอีกบางภาพที่พลเมืองดีอยากจะให้เจ้าของรถยนต์คันที่ชนเฉี่ยวนักเรียนชลชายนั้นมาปรากฏตัว เพราะคนเจ็บไม่เป็นไรมากแล้ว ไม่เสียชีวิต เพียงบาดเจ็บเท่านั้น ค่าเสียหายก็ไม่มากมายเท่าไหร่ เพราะรถของคนชนเฉี่ยวอาจมีประกันที่จะจ่ายได้ ไม่อยากจะให้หนีไปเฉยๆ โดยไร้จริยธรรม
ส่วนพลเมืองดี 3 คน นอนไม่หลับ เพราะ…ต่างถามตัวเองกันว่า “ไปเจือกเรื่องของเขาทำไม” ท่ามกลางสังคมอัปยศ ตัวใครตัวมันวันนี้ แต่สำหรับพลเมืองเจือกเรื่องของคนอื่นวันนี้ ก็พากันเห็นว่าเมื่อมีคนเจ็บนอนกลางถนนต่อหน้าต่อตา..ถ้าไม่ช่วยเหลือก็ใจดำไปหน่อย
และสำหรับสถานีตำรวจเมืองชลบุรี เจ้าของพื้นที่วันนี้ มีกล้องวงจรปิดถึง 3 ตัวในเขตเทศบาลเมือง และบริเวณถนนที่รถอีซูซุ ขับหนีไปจะผ่านเส้นทางนั้น..อีก 3 ตัว..ถ้าตามจับคนขับรถยนต์อีซูซุคันดังกล่าวไม่ได้ ก็จะดูถูกความสามารถของตัวเองไปหน่อย
คดีมโนสาเร่นี้ไม่ใช่คดีใหญ่ แต่เพียงเป็นคดีศีลธรรม จริยธรรม และมโนธรรม...ไม่ใช่เรื่องคดีใหญ่ แต่ถ้านักเรียนชลชายคนนี้เป็นลูกหลานของท่านๆ จะคิดเห็นอย่างไร..ขอถามเพียงว่าท่านจะคิดประการใด