ศูนย์ข่าวขอนแก่น- จังหวัดขอนแก่น ชูยุทธศาสตร์ 5 รั้วป้องต่อสู้ยาเสพติดปี 54 บูรณาการทุกส่วนงานร่วมป้องกันและขจัดปัญหายาเสพติดเป็นวาระจังหวัด พบยาไอซ์เริ่มระบาด ตามการขยายตัวของสถานบันเทิง สั่งจับตากลุ่มเสี่ยงเยาวชน และตรวจตราเข้มงวดในพื้นที่ 5 อำเภอใหญ่บูรณาการทุกส่วนงานป้องกันและขจัดปัญหายาเสพติด
วันนี้ (24 ม.ค.) ที่ห้องภูผาม่าน โรงแรมขอนแก่นโฮเต็ล อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น จังหวัดขอนแก่นจัดแถลงผลการดำเนินงานของศูนย์ปฏิบัติการต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติด (ศตส.จ.ขอนแก่น) และเร่งรัดปฏิบัติการ ประเทศไทยเข้มแข็ง ชนะยาเสพติดยั่งยืน ตามยุทธศาสตร์ 5 รั้วป้องกันระยะที่ 3 โดยมี นายสมบัติ ตรีวัฒน์สุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น เป็นประธานแถลงผลการดำเนินงาน พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง
ถือเป็นนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลที่ให้มีการบูรณาการร่วมกันเพี่อปราบปรามยาเสพติดให้หมดไปตามยุทธศาสตร์ 5 รั้วป้องกัน ในระยะที่ 3 คือ ระหว่างเดือนมกราคม-มีนาคม 2554 นี้ จึงมีการแถลงผลงานพร้อมประชาสัมพันธ์ถึงมาตรการเข้มงวดของฝ่ายปกครอง และเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมกับอีก 4 หน่วยงานภาครัฐ ประกอบด้วย สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดภาค 4, สาธารณสุขจังหวัดขอนแก่น, สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาขอนแก่นเขต 1 และพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดขอนแก่น
นายสมบัติ ตรีวัฒน์สุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น เปิดเผยว่า แม้จังหวัดขอนแก่นจะไม่ใช่ที่พักของยาเสพติด แต่ก็พบปัญหาการแพร่ระบาดยาเสพติดเพิ่มขึ้น โดยยาเสพติดเข้ามาในจังหวัดขอนแก่นผ่านทางประเทศเพื่อนบ้าน บางส่วนนำมาจากกรุงเทพฯและปริมณฑล นักค้าส่วนใหญ่เป็นรายย่อย มีปริมาณการค้าระหว่าง 50-200 เม็ด อาศัยอยู่ในพื้นที่ มีบางส่วนเป็นคนภายนอกและคนต่างด้าวเข้ามารับ-ส่งยาเสพติดในจังหวัด
ปัจจุบันราคายาบ้าขายส่งที่ 250-300 บาท แต่ขายปลีกเฉลี่ยเม็ดละ 300-450 บาท ซึ่งที่มาของเงินของกลุ่มเยาวชนที่ตกเป็นทาสยาบ้า ส่วนใหญ่มาจากการลักขโมย หรือการขายตัว โดยกลุ่มบุคคลที่มีพฤติการณ์เกี่ยวข้อง ได้แก่ คนว่างงาน ตลอดจนกลุ่มเกษตรกร อาทิ คนงานรับจ้างตัดอ้อยที่ภาคกลาง และคนงานไร่มันสำปะหลัง เป็นต้น รวมทั้งกลุ่มเยาวชนทั้งภายในและภายนอกสถานศึกษาที่มีอายุระหว่าง 18-24 ปี
ทั้งนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น ได้สั่งการให้นายอำเภอทุกอำเภอดูแลพื้นที่อย่างเข้มงวดขึ้น โดยเน้นพื้นที่ต้องเฝ้าระวังพิเศษใน 5 อำเภอใหญ่ คือ อำเภอเมืองขอนแก่น อำเภอชุมแพ อำเภอกระนวน อำเภอน้ำพอง และอำเภอบ้านไผ่ ซึ่งต้องจับตาตัวยาเสพติดที่กำลังแพร่ระบาดได้แก่ ยาบ้า สารระเหย กัญชา และยาไอซ์ ที่เข้ามาใหม่แต่เป็นที่นิยมและมีแนวโน้มระบาดเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มผู้ใช้บริการสถานบันเทิงต่างๆ เพิ่มมากขึ้นตามจำนวนสถานบันเทิง
การบูรณาการร่วมกันทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องครั้งนี้ ได้มุ่งเน้นเข้มงวดในกลุ่มเสี่ยง ได้แก่เด็กและเยาวชน ที่ไม่ได้พักอาศัยอยู่กับครอบครัว วัยรุ่นทั่วไป เยาวชน และกลุ่มผู้ว่างงาน กลุ่มผู้ใช้แรงงาน ทั้งนี้เพิ่มการเฝ้าระวังในร้านเกม อินเทอร์เน็ต สถานบันเทิง หอพัก ห้องเช่า รีสอร์ต อพาร์ตเมนต์ และโรงงาน
ทั้งนี้ จังหวัดขอนแก่น ได้ขานรับนโยบายรัฐบาลอย่างจริงจัง โดยตั้งเป็นวาระจังหวัดในการเร่งรัดทำความดีเพื่อแผ่นดิน กวาดล้างให้ยาเสพติดหมดไปในปี 2554 นี้ โดยมีกรอบเข้มข้นในระยะ 30 วันตลอดเดือนมกราคมนี้ นำยุทธศาสตร์ 5 รั้วป้องกันมาปรับใช้ ประกอบด้วยรั้วชายแดน รั้วชุมชุม รั้วสังคม รั้วโรงเรียน และรั้วครอบครัว