ศูนย์ข่าวศรีราชา - สองหนุ่มขับรถหกล้อบรรทุกดินรับจ้าง พากันดื่มเหล้าฉลองในผับดังสัตหีบ ก่อนซิ่งกระบะพากันกลับบ้าน ระหว่างทางถูกกระบะตีนผีซิ่งตัดหน้า หักหลบเสียหลักตกข้างทางพุ่งชนกำแพงและตู้ยามรีสอร์ตพังพินาศ ก่อนอัดก๊อบปี้เสาไฟ คนขับกระเด็นออกนอกรถตายคาที่
วันนี้ (23 ม.ค.) พ.ต.ท.สมพล นาคขำพันธุ์ พนักงานสอบสวน สภ.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ได้รับแจ้งเกิดเหตุรถยนต์กระบะเสียหลักพุ่งชนอัดก็อบปี้เสาไฟฟ้า มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย เสียชีวิต 1 ราย เหตุเกิดบนถนนสุขุมวิท กม.163 เส้นทางสัตหีบ-พัทยา บริเวณหน้ารีสอร์ต ซีแซนด์ซัน แอนด์สปา ม.8 ต.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ หลังรับแจ้งได้รุดไปตรวจสอบ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างโรจนธรรมสถานสัตหีบ
ที่เกิดเหตุพบรถยนต์กระบะ มิสซูบิชิ ไทรตัน 4 ประตู สีดำ ทะเบียน ฌล-762 กรุงเทพฯ ชนกำแพงและตู้ยามรีสอร์ตพังพินาศ ก่อนพุ่งชนอัดก๊อบปี้เสาไฟฟ้าหักโค่น 1 ต้น รถพลิกตะแคงขวาพังยับเยินทั้งคัน คนขับกระเด็นออกจากตัวรถเสียชีวิตคาที่ ทราบชื่อคือ นายอำนาจ บัวน้อย อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 34/1 ม.6 ต.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ ส่วนเพื่อนผู้ตายที่นั่งมาด้วยคือ นายปัญญา ลิ้มภักดิ์ดี อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 79/4 ม.6 ต.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ ได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อยที่บริเวณมือขวา ทั้งคู่เป็นคนงานขับรถหกล้อขับรถขนดินรับจ้าง
จากการสอบถาม นายปัญญา เพื่อนผู้ตายเล่าว่า ได้ไปนั่งดื่มเหล้าฉลองกับผู้ตายในสถานบันเทิงเวก้าผับ ตลาดบ้านเตาถ่าน ม.3 ต.สัตหีบ อ.สัตหีบ หลังสถานบันเทิงปิดได้พากันขับรถกระบะกลับบ้าน โดยมีผู้ตายเป็นคนขับ เมื่อรถวิ่งมาถึงที่เกิดเหตุซิ่งเป็นทางแยกได้มีรถยนต์กระบะ อีซูซุ ดีแมคซ์ สีบอรนซ์ ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน วิ่งเลี้ยวยูเทิร์นออกมาตัดหน้าอย่างกะทันหัน ผู้ตายจึงได้หักหลบแต่รถเกิดเสียหลักตกข้างทางชนกำแพงรีสอร์ต ก่อนพุ่งอัดก๊อบปี้เสาไฟฟ้าอย่างจัง จนร่างผู้ตายกระเด็นออกนอกตัวรถเสียชีวิตคาที่ ส่วนตนเองหลังเกิดเหตุได้ตั้งสติและตะเกียกตะกายออกจากตัวรถ
ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากนายจิรวัฒน์ ทรงอารักษ์สิทธิ์ อายุ 46 ปี รปภ.รีสอร์ต ถึงนาทีชีวิตที่ตนเองและเพื่อนร่วมงานอีก 2 คน คือ นายดำรง อาจคง อายุ 38 ปี และนายอำนาจ ดวงอาจ อายุ 40 ปี รอดตายมาได้อย่างหวุดหวิดว่า ขณะเกิดเหตุทุกคนได้เข้าเวรยามอยู่บริเวณประตูด้านหน้าซึ่งเป็นจุดที่รถกระบะพุ่งชน ตู้ยามซึ่งอยู่ติดกำแพงด้านหลังบริเวณที่รถพุ่งชนพอดี โดยปกติจะเวียนกันเข้าไปนั่งในตู้ยาม แต่เวลานั้นนับเป็นความโชคดีที่ไม่มีใครอยู่ในตู้ ออกมายืนตรวจตรา และตากอากาศด้านนอก เมื่อรถคันดังกล่าวพุ่งชนจนเกิดเสียงดังสนั่น ในเวลานั้นทุกคนต่างวิ่งหนีตายไปคนละทิศละทาง จึงไม่มีใครได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต