พิจิตร - มหาวิทยาลัยนเรศวร เป็นตัวกลางเปิดเวทีให้ชาวบ้านรอบเหมืองทองอัคราฯ เขต 3 จังหวัดทั้งพิจิตร เพชรบูรณ์ พิษณุโลก ถกถึงผลกระทบ - ปัญหาสุขภาพ หลังตัวแทนชาวบ้านบางส่วนยื่นเรื่องร้องเรียน-ฟ้องร้องเหมืองทองคำอัคราไมนิ่งมาอย่างต่อเนื่อง
วันนี้ (22 ม.ค.)นายสุวิทย์ วัชโรทยางกูร ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร พร้อมด้วย รศ.ดร.เดช วัฒนชัยยิ่งเจริญ ผู้แทนมหาวิทยาลัยนเรศวรพิษณุโลก ได้ร่วมกับส่วนราชการต่างๆที่เกี่ยวข้อง ทั้งระดับท้องถิ่นและระดับภูมิภาค จัดเวทีรับฟังปัญหาด้านสุขภาพของประชาชนขึ้นที่ศาลาวัดคีรีเทพนิมิต ต.เขาเจ็ดลูก อ.ทับคล้อ จ.พิจิตร ซึ่งเป็นพื้นที่ตั้งของบริษัทเหมืองแร่ทองคำอัคราไมนิ่ง โดยมีชาวบ้านจาก 3 จังหวัด คือ พิจิตร,พิษณุโลก ,เพชรบูรณ์ กว่า 2 พันคน เข้าร่วมให้ข้อมูลและซักถามข้อข้องใจของการดำเนินกิจการของเหมืองทองคำ
หลังจากก่อนหน้านี้มีตัวแทนชาวบ้านยื่นฟ้องต่อยังศาลปกครอง เพื่อให้พิจารณาถึงผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม ปัญหาสุขภาพ เพื่อให้เป็นหลักการว่าการอนุญาตหรือให้สัมปทานบัตรในโครงการใหญ่ๆจะต้องมีการทำเรื่องของสิ่งแวดล้อมให้ชัดแจ้งก่อนที่จะมีการดำเนินกิจการต่อไปในระยะยาว
ซึ่งปรากฏว่าบรรยากาศของการเปิดเวทีถกปัญหาชาวบ้านแบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่เห็นด้วยและได้รับประโยชน์ กับกลุ่มนักอนุรักษ์และต่อต้าน ที่ถกกันได้อย่างเต็มที่ เพื่อนำข้อมูลไปประกอบการพิจารณาอนุญาต หรือพิจารณาในการออกคำสั่งให้ เปิด-ปิด กิจการบริษัทเหมืองแร่ทองคำอัคราไมนิ่ง แห่งนี้ต่อไป
สำหรับการจัดเวทีในครั้งนี้นั้น เป็นเพียงการดำเนินการขั้นแรกของการรับฟังปัญหาข้อข้องใจของประชาชน อีกทั้งรับฟังข้อมูลจากภาคราชการและจากผู้ประกอบการภาคธุรกิจของบริษัทเหมืองแร่ทองคำอัคราไมนิ่ง ว่า ที่ผ่านมารวมถึงปัจจุบันได้ดำเนินการสิ่งใดไปแล้วบ้าง ทั้งนี้เพื่อให้ทุกฝ่ายเกิดความเข้าใจตรงกัน โดยไม่มีการลงมติว่าใครแพ้-ชนะ หรือ ใครถูก-ใครผิด แต่จะเก็บข้อมูลทั้งหมดเพื่อใช้ทำหลักฐานทางวิชาการและเป็นข้อมูลในทุกมิติให้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องได้นำไปใช้แก้ปัญหาตามที่มีการร้องเรียน
