เชียงราย - ตำรวจเชิญ นอภ.แม่สาย ให้ปากคำเหตุระเบิดที่ว่าการอำเภอซ้ำ 2 ครั้งซ้อนแล้ว แม้นายอำเภอ ไม่ยอมเข้าแจ้งความร้องทุกข์ พร้อมอ้างต้นเหตุอาจเกี่ยวกับผลการปราบปรามยาเสพติด ไม่พูดถึงกาสิโนทุนไทยในฝั่งพม่า
รายงานข่าวจากจังหวัดเชียงราย แจ้งถึงความคืบหน้าเหตุระเบิดภายในที่ว่าการ อ.แม่สาย จ.เชียงราย จำนวน 2 ครั้งคือเมื่อวันที่ 7 ธ.ค.2553 และวันที่ 15 ม.ค.54 ที่ผ่านมา จนทำให้ทรัพย์สินภายในที่ว่าการอำเภอเสียหาย แต่ไม่ถึงขั้นมีผู้ได้รับบาดเจ็บนั้น ล่าสุดทาง พล.ต.ต.ทรงธรรม อัลภาชน์ ผบก.ภ.เชียงราย ได้เชิญให้นายวิศิษฐ์ สิทธิสมบัติ นายอำเภอแม่สาย ไปหารือเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวที่กองบังคับการตำรวจภูธรเชียงราย เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
จากนั้นได้เชิญให้ไปให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน สภ.แม่สาย เนื่องจากครั้งนี้ทางตำรวจได้เข้าไปตรวจสอบและบันทึกเอาไว้เป็นหลักฐานเพื่อคลี่คลายคดีแล้ว แม้ว่า ทางฝ่ายปกครองอำเภอจะไม่เข้าไปแจ้งความร้องทุกข์ในฐานะเจ้าทุกข์ก็ตาม
พล.ต.ต.ทรงธรรม กล่าวว่า ได้เชิญนายอำเภอไปหารือเกี่ยวกับเรื่องนี้แล้ว และขอให้มีการจัดวางกำลังเจ้าหน้าที่อาสารักษาดินแดน (อส.) เอาไว้ให้เข้มงวด โดยเฉพาะในเวลากลางคืน เนื่องจากเคยเกิดเหตุขึ้นมาแล้ว และที่ผ่านมาแทบไม่มีการวางกำลังเอาไว้ ซึ่งอาจเป็นเพราะไม่เคยเกิดเหตุรุนแรงขึ้นในพื้นที่นี้ จากนั้นได้มอบหมายให้พนักงานสอบสวน สภ.แม่สาย สอบปากคำตามขั้นตอนของกฎหมาย
พล.ต.ต.ทรงธรรม กล่าวอีกว่า การสอบปากคำก็เกี่ยวข้องกับข้อมูลเรื่องการบริหารงานภายในของที่ว่าการ อ.แม่สาย และหน้าที่การงานทั่วไป รวมทั้งกลุ่มที่อาจจะมีความขัดแย้งกับผู้ที่ทำงาน ณ ที่ว่าการอำเภอ ซึ่งก็ได้สอบปากคำเสร็จไปแล้ว ส่วนการดำเนินการด้านข้อมูลหลักฐานในที่เกิดเหตุก็ได้ของกลางเป็นสะเก็ดระเบิด เช่น เหล็กเส้นตัด น็อตตัวเมีย ฯลฯ ซึ่งก็จะได้รวบรวมข้อมูลทั้งหมดเพื่อคลี่คลายคดีต่อไป
รายงานข่าวแจ้งอีกว่าการให้ปากคำของนายวิศิษฐ์ ยังคงให้การที่ไม่โยงไปถึงกลุ่มผู้ประกอบธุรกิจโรงแรมและบ่อนกาสิโนชาวไทยหลายกลุ่มที่ไปตั้งกิจการอยู่ในฝั่งเมืองท่าขี้เหล็ก ประเทศพม่า ตรงกันข้ามชายแดน อ.แม่สาย โดยยังคงเป็นการให้ปากคำทั่วไปเกี่ยวกับการบริหารภายใน ซึ่งไม่น่าจะเป็นสาเหตุของการก่อเหตุลอบวางระเบิดดังกล่าว รวมทั้งยังคงตั้งข้อสงสัยไปยังเรื่องความขัดแย้งกับกลุ่มขบวนการค้ายาเสพติด โดยอ้างเรื่องผลการปราบปรามยาเสพติดที่ผ่านมาด้วย
อย่างไรก็ตาม จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้หน่วยงานต่างๆ ต่างมีความกังวลเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่ยังเสี่ยงต่อการเกิดขึ้นอีกในอนาคต เนื่องจากก่อนการเกิดเหตุครั้งแรกที่บริเวณบ้านพักนายอำเภอใกล้กับอาคารที่ว่าการอำเภอ ได้มีกลุ่มบ่อนกาสิโนรายใหญ่หนึ่งในสี่รายที่ตั้งกิจการอยู่ในฝั่งเมืองท่าขี้เหล็ก ได้รับประโยชน์จากการอำนวยความสะดวกจากคนใกล้ชิดนายอำเภอแม่สาย ทำให้รายอื่นๆ ไม่พอใจจนเกิดเหตุขว้างระเบิดปิงปองใส่บ้านพักครั้งแรก จนกระทั่งมาเกิดเหตุขึ้นเป็นครั้งที่สองอีกครั้ง
