เมืองเลยทำพิธี “ยกพระอุโบสถวัดป่าเลไล” หนีน้ำท่วม

เลย - ผู้ว่าฯ เลยร่วมชาวบ้าน-พระ เณร ทำพิธี “ยกดีดพระอุโบสถวัดป่าเลไล หลังประสบปัญหาน้ำท่วมหน้าฝนทุกปีจนภิกษุสงฆ์ไม่สามารถประกอบศาสนกิจได้ เผยใช้งบร่วม 1.4 ล้านบาทจ้างผู้รับเหมาดีดยกอุโบสถให้สูงขึ้นอีก 2 เมตร

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 16 มกราคม 2554 ที่ผ่านมา ที่วัดป่าเลไล บ้านขอนแก่น ตำบลนาโป่ง อำเภอเมือง จังหวัดเลย ได้จัดพิธียกดีดพระอุโบสถหนีน้ำท่วม โดยมีพระราชวีรภรณ์ เจ้าคณะจังหวัดเลยเป็นประธานฝ่ายสงฆ์ และนายพรศักดิ์ เจียรณัย ผู้ว่าราชการจังหวัดเลยเป็นประธานในพิธีฝ่ายฆารวาส

พระอาจารย์วีระชัย ทีปธัมโม เจ้าอาวาสวัดป่าเลไล กล่าวว่า ชาวตำบลนาโป่ง โดยคณะกรรมการหมู่บ้านได้ร่วมกันจัดพิธียกดีดพระอุโบสถดังกล่าวขึ้นระหว่าวันที่ 15-16 มกราคม 2554 สืบเนื่องจากพระอุโบสถภายในวัดป่าเลไล ที่ใช้ในการประกอบศาสนกิจ ก่อสร้างตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2522 ปัจจุบันมีอายุ 32 ปี และบริเวณตั้งวัดเป็นที่ลุ่มต่ำ ในฤดูฝนน้ำจะท่วมขังภายในพระอุโบสถและบริเวณโดยรอบ ไม่สามารถประกอบศาสนกิจของพระภิกษุได้

คณะกรรมการหมู่บ้านจึงมีมติประกอบพิธียกดีดพระอุโบสถให้สูงขึ้นเพื่อหนีระดับน้ำที่ท่วมขังเป็นประจำทุกๆ ปี เพื่อให้สามารถใช้ในการประกอบพิธีทางสงฆ์ได้สะดวก ในการยกพระอุโบสถดังกล่าวต้องใช้ค่าใช้จ่ายทั้งสิ้น 1,400,000 บาท จึงได้จัดงานพุทธาภิเษกเหรียญหลวงปู่เลไลขึ้น เพื่อรับบริจาคหาทุนสมทบเป็นค่าใช้จ่าย

นายเวช นาสว่าง ช่างผู้รับจ้างยกพระอุโบสถ กล่าวว่า ค่าจ้างในการยกฯ 400,000 บาท ซึ่งโบสถหลังดังกล่าวหนักประมาณ 50 ตัน ใช้ลอก 40 ตัวในการยก รับน้ำตัวละ 5 ตัน ไฮดรอลิก 17 ตัว เตรียมงานมาแล้วกว่าสองเดือนต้องขุดลงไปใต้ฐานโบสถเพื่อทำฐานซีเมนต์รองรับก่อนจะยกขึ้นให้มีความสูงจากเดิม 2 เมตร ถือเป็นครั้งแรกที่มีการยกดีดพระอุโบสถในภาค อีสาน

“หากนำคนมาแบกรวมกันโดยเฉลี่ยคนละ 50 กิโลกรัม จะต้องใช้คนเกือบหมดอำเภอเมืองเลย ประมาณ 10,000 คนถึงจะสามารถยกโบสถหลังนี้ได้” นายเวชกล่าว