ฉะเชิงเทรา - ชาวบ้านแปดริ้วตื่นแห่เข้าเยี่ยมชมเครื่องบินเฮลิคอปเตอร์ที่ร่อนลงจอดแบบฉุกเฉินเต็มแน่นท้องนา ด้านกองบินตำรวจเร่งลงพื้นที่เก็บกู้ซากเพียงวันเดียวแล้วเสร็จ จากการถอดแยกชิ้นส่วน ขณะเด็กๆ นักเรียน พร้อมด้วยครูอาจารย์ ต่างพากันดีใจแห่พากันเข้าปีนป่าย ร่วมกันถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึกคับคั่ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณกลางท้องนา บ้านสุเหร่าคู้ พื้นที่ ม.13 ต.ดอนฉิมพลี อ.บางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา จุดที่เครื่องบิน เฮลิคอปเตอร์สังกัดกองบินตำรวจ ร่อนลงจอดฉุกเฉิน จนทำให้ตัวเครื่องส่วนหาง พร้อมขาตั้งเสียหายและมีเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บ 2 นาย จากสาเหตุเครื่องยนต์ขัดข้องดับกลางอากาศ ตามที่ได้มีการนำเสนอข่าวผ่านทางสื่อหลายแขนงไปแล้ววานนั้น
ล่าสุดในวันนี้ตลอดทั้งวัน (12 ม.ค.) พล.ต.ต.ฌาณไชย แกล้วเขตต์การ ผบก.กองบินตำรวจ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สภ.ดอนฉิมพลี ได้นำกำลังรวมกว่า 50 นาย เร่งเข้าทำการเก็บกู้ซาก ฮ.ที่มาลงจอดฉุกเฉิน ที่บริเวณกลางท้องนาดังกล่าว ตั้งแต่เวลา 08.00 น.โดยเริ่มจากการ ให้ชาวนาทำการเกี่ยวข้าวในบริเวณพื้นที่โดยรอบตัวเครื่องออกจนหมดเสียก่อน จนมีพื้นที่เป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัส กว้างประมาณ 20 เมตร ยาว 20 เมตร หรือประมาณหนึ่งงาน จากนั้นจึงได้เริ่มทำการถอดชิ้นส่วนของตัวเครื่องออกทีละชิ้น
โดยเริ่มจากการถอดเอาเครื่องยนต์ออกมาจากตัวเครื่องก่อน จนเหลือแต่เพียงเฟรม (บอดี้) ในส่วนของลำตัว ซึ่งการแยกชิ้นส่วนนั้นสามารถทำได้แล้วเสร็จในเวลา 16.00 น. จากนั้นจึงได้ทำการขนย้ายชิ้นส่วน ในแต่ละชิ้น โดยเฉพาะส่วนสำคัญและมีน้ำหนักมากนั้น คือ ส่วนของลำตัวเครื่อง (เฟรม) เจ้าหน้าที่ได้ใช้ ฮ. อีกลำหนึ่งยกขึ้น ด้วยการใช้ลวดสลิงโยงหิ้วออกไปจากพื้นที่ ก่อนนำไปขึ้นรถเทเลอร์ ที่นำมาจอดรอไว้แล้ว บนถนนใหญ่ประจำตำบล ซึ่งอยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 800 เมตร
ในส่วนตัวหางและใบบัดนั้นได้ใช้กำลังคน คือ เจ้าหน้าที่ และชาวบ้าน ช่วยกันยกขึ้นใส่รถลากข้าว (รถอีแต็ก เพื่อการเกษตร) ของชาวนา นำไปส่งให้จนถึงยังบริเวณจุดนำขึ้นรถเทเลอร์ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้มีการจัดเตรียมความพร้อมไว้ เพื่อนำมาขนชิ้นส่วนจำนวนหลายคัน
โดยเจ้าหน้าที่ช่างผู้ชำนาญการรายหนึ่งระบุว่า ตัวเครื่องลำที่ตกนี้ คงจะต้องถูกจำหน่ายทิ้งออกจากสารระบบการประจำการ เนื่องจากหากจะซ่อมแล้วนำกลับมาใช้ใหม่ ก็คงไม่คุ้มค่า เนื่องจากหลังซ่อมเสร็จ ก็คงไม่มีนักบินคนใดกล้านำเครื่องขึ้นบิน ขณะนี้จึงทำได้เพียง การถอดแยกชิ้นส่วนเพื่อนำไปเก็บรักษาไว้ใช้เป็นชิ้นส่วนอะไหล่ให้แก่ลำอื่นๆ ที่ยังประจำการอยู่ต่อไป
โดยชิ้นส่วนทั้งหมดนี้จะถูกนำไปเก็บรักษาไว้ยังที่กองบินตำรวจ ถ.รามอินทรา กทม. ต่อไป ซึ่งในการขนย้ายชิ้นส่วนออกจากจุดเกิดเหตุนั้น สามารถทำการขนย้ายได้แล้วเสร็จทั้งหมดในเวลา 17.30 น.
ขณะที่บรรยากาศกลางท้องนาในบริเวณดังกล่าวในวันนี้ตลอดทั้งวันนั้น คลาคล่ำไปด้วยผู้คนเป็นจำนวนมากนับพันคน ที่ต่างสนใจพากันเดินทางหมุนเวียนเข้ามาดู ฮ.ลำที่ตก และสนใจติดตามการถอดแยกชิ้นส่วนของเข้าหน้าที่กันอย่างใจจดจ่อ โดยเฉพาะในเวลาที่เจ้าหน้าที่ได้นำ ฮ.อีกหนึ่งลำขึ้นบิน เพื่อลดระดับน้ำมันให้ตัวเครื่องเบาลง เพื่อใช้ทำการยกลำตัวของเครื่องที่ตกขึ้นไปไว้บนถนน เป็นที่ตื่นตาตื่นใจของเด็กๆ เป็นอย่างมาก รวมถึงการยกหิ้วโยงตัวเครื่องลำที่ตกออกจากจุดเกิดเหตุด้วยนั้น ได้สร้างความตื่นตาตื่นใจให้แก่ผู้ที่มาเฝ้าชมเหตุการณ์อยู่เป็นอย่างมาก โดยหลายคนต่างหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาถ่ายภาพเก็บไว้เป็นที่ระลึก
นอกจากนี้ หลังเจ้าหน้าที่ได้นำเครื่องลงจอด เด็กๆ นักเรียน จำนวนมาก พร้อมด้วยชาวบ้านต่างพากันกรูเข้าไปชื่นชมอย่างใกล้ชิดจนถึงตัวเครื่อง และต่างพากันขึ้นปีนป่าย พร้อมกับช่วยกันถ่ายภาพไว้เป็นที่ระลึกอีก ซึ่งดูไม่ต่างอะไรไปจากงานมหกรรม แสดงโชว์อากาศยาน หรืองานวันเด็กแห่งชาติที่เพิ่งผ่านพ้นไป ที่เด็กๆ ตามท้องนาเหล่านี้ไม่เคยได้มีโอกาสได้เข้าไปสัมผัสได้อย่างใกล้ชิด เหมือนกับในครั้งนี้
